ความรู้สึกซาบซึ้งของฉินซูนั้นสลายหายไปหมดสิ้นในชั่วพริบตา
เธอพูดด้วยสีหน้านิ่งเฉย “คุณท่านจะไม่เป็นอะไร”
ดวงตาที่นิ่งเฉย น้ำเสียงที่ไพเราะ แสดงออกให้เห็นถึงความมั่นใจไปโดยปริยาย
แค่เพียงชั่วพริบตาของฉู่หลินเฉิน เมื่อเขามองเธออีกครั้ง ก็เห็นเธอก้มลงไปเริ่มทำการปฐมพยาบาล
โรคลมชักเมื่อกำเริบดูเหมือนจะน่ากลัว แต่ความจริงแล้ว ขอเพียงแต่คนที่อยู่ข้าง ๆ รู้วิธีจัดการที่ถูกต้อง ก็จะสามารถช่วยเหลือได้ ทำให้ไม่อันตรายถึงแก่ชีวิต
แต่ถ้าโกลาหลเหมือนอย่างคนในตระกูลฉู่ก่อนหน้านี้ ผลลัพธ์ก็จะกลายเป็นอีกอย่าง
ขณะที่ฉินซูเข้าสู่กระบวนการรักษา เธอก็จะจดจ่ออยู่กับการรักษาอย่างเต็มที่ โดยไม่สนใจสิ่งรอบข้าง
ในตอนนี้ เธอพูดออกมาโดยที่ไม่เงยหน้า “พวกคุณถอยออกไป อย่ามุง ให้อากาศได้ถ่ายเท!”
ฉู่หยุนซีที่ยืนอยู่ด้านข้างเบิกตากว้าง นึกไม่ถึงเลยว่าผู้หญิงที่หลอกลวงคนนี้กล้าออกคำสั่งกับคนในครอบครัวเธอ
แต่เธอสิ่งทำให้เธอตกใจยิ่งไปกว่านั้นคือ ฉู่หลินเฉินลุกขึ้นให้ความร่วมมือเป็นคนแรก เขาถอยออกไปด้านข้าง
และยังส่งสัญญาณให้ฉู่สวี่และภรรยาถอยออกมา
ฉู่หยุนซีกัดฟันกรอด ยิ่งเห็นสายตาของฉินซูยิ่งทำให้ไม่พอใจ
ฉินซูเริ่มจากปลดกระดุมของหญิงชรา จากนั้นพยายามเอาเสื้อผ้ามารองแขนของหญิงชราไว้อย่างลวก ๆ เพื่อป้องกันการกระแทก
คนใช้ยกน้ำและผ้าขนหนูเข้ามา
มองเห็นริมฝีปากที่สั่นเทาของหญิงชรา เธอหรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วรีบนำผ้าขนหนูยัดใส่ปากของหญิงชราอย่างรวดเร็ว
ขณะดึงมือออก เธอขมวดคิ้วพร้อมกับพูดออกมา
“ในตอนที่อาการของโรคลมชักกำเริบ สิ่งที่ควรระวังคือผู้ป่วยกัดตัวเอง การประทะกันของเหงือกอย่างรุนแรงในขณะที่ชักนั้น อาจจะทำให้ฟันหลุดออกมาได้ ถ้าหากฟันที่หลุดออกมาไปติดในลำคอก็จะอันตรายถึงแก่ชีวิต”
ฉินซูพูดอธิบาย
การกระทำของเธอต่อเนื่องเป็นระบบระเบียบเรียบร้อย และมีความเป็นมืออาชีพ
คนตระกูลฉู่ที่อยู่ข้าง ๆ มองเธออย่างคล้อยตาม
พวกเขาเชื่อถือคำพูดของเธอ
สายตาของฉู่หลินเฉินมองไปที่เธอตลอดตั้งแต่ต้นจนจบ ความรู้สึกสงสัยปรากฏขึ้นในแววตาดำขลับคู่นั้น
ทำไมเขารู้สึกคุ้นเคยกับผู้หญิงคนนี้?
ลักษณะท่าทางที่สงบนิ่งและใจเย็น การกระทำที่เป็นระเบียบ น้ำเสียงที่เรียบเฉย… เกือบจะทำให้คิดว่า คนที่ช่วยเขาในคืนนั้นคือเธอ!
หรืออาจจะเป็นเพราะว่าทั้งเธอ และหวังอี้หลินต่างก็เป็นนักศึกษาแพทย์?
เขาสลัดความคิดเหลวไหลออกไปอย่างเงียบ ๆ
เธอนั่งยอง ๆ อยู่ตลอดเพื่อสังเกตดูอาการของหญิงชราอย่างใกล้ชิด
ผ่านไปไม่กี่นาที หญิงชราก็ค่อย ๆ ดีขึ้น
ฉินซูนำผ้าขนหนูที่อยู่ในปากของหญิงชราออก แล้วช่วยพยุงเธอลุกขึ้น
เธอไม่ได้มีเรี่ยวแรงมากนักเนื่องจากนั่งยองนานเกินไป เข่าของเธอจึงเกิดอาการชา
เธอรู้สึกไร้เรี่ยวแรง แขนยาวข้างหนึ่งยื่นออกมารับน้ำหนักทั้งหมดเอาไว้
“ขอบ…”
ฉินซูกำลังเอ่ยขอบคุณ แต่เมื่อเห็นใบหน้าที่เย็นชาและเฉยเมยของฉู่หลินเฉินนั้น เธอก็กลืนคำว่า “คุณ” ลงไป
ฉู่หลินเฉินพยุงหญิงชราไปนั่งพักบนเก้าอี้
ผ่านไปไม่นาน เธอก็ได้สติ
“เกิดอะไรขึ้น…”
เมื่อคนตระกูลฉู่แน่ใจว่าซ่งจิ่นหรงไม่เป็นอะไรแล้ว ก็คลายความกังวลใจลงไปได้ในที่สุด
“คุณย่าเพิ่งจะล้มลงไปบนพื้นและหมดสติ! ทั้งหมดเป็นความผิดของยัยของเลียนแบบคนนี้” ฉู่หยุนซีพูดอย่างโกรธแค้น เธอชี้ไปยังฉินซู “เว่ยเหอ รีบแจ้งตำรวจ ให้ตำรวจมาพาตัวผู้หญิงหลอกลวงคนนี้กลับไป คุมขังเธอไว้สักสามสี่ห้าปี เธอจะได้ไม่กล้าไปหลอกใครอีก!”
จิตใต้สำนึกสั่งให้เว่ยเหอมองไปยังฉู่หลินเฉิน
เขาเป็นผู้ช่วยส่วนตัวของคุณชายฉู่ โดยปกติแล้วก็จะฟังคำสั่งของคุณชายฉู่เท่านั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วุ่นรักวิวาห์ลวง
ติดตามอ่านมาตลอด จะกรุณาอัพโหลดบทให้จบเรื่องได้มั้ยคะ...