หลินเมิ่งฟานต้องการที่จะตามเธอให้ทัน เมื่อได้ยินอีกฝ่ายเรียกชื่อฉินซู หมายความว่าพวกเขาน่าจะรู้จักกัน เขาจึงไม่กล้าก้าวไปข้างหน้าและถอยกลับไปที่มุมทางเดิน มองดูอีกฝ่ายพาฉินซูเข้าไปในห้อง
“คนคนนั้นไม่ใช่ฉู่หลินเฉิน หรือจะเป็นชู้รักที่ฉินซูแอบเลี้ยงเอาไว้?”
หลิ่นเมิ่งฟานพึมพำเบา ๆ เขานึกดูถูกฉินซูในใจอย่างอดไม่ได้ แกล้งปฏิเสธที่จะคืนดีกับเขาแต่ยอมจำนนต่อผู้ชายคนอื่น? ผู้ชายคนนี้ดูแก่กว่าเธอมาก ที่แท้เธอก็ชอบแบบนี้?
ถ้าฉู่หลินเฉินรู้เข้า เกรงว่าฉินซูคงจบไม่สวย
ขณะที่หลินเมิ่งฟานกำลังคิดเรื่องนี้ ลิฟต์ก็เปิดออกและกลุ่มนักข่าวก็วิ่งกรูออกไป
“พวกเขาอยู่ห้องไหน”
หลินเมิ่งฟานรู้สึกประหลาดใจ นักข่าวมาได้ยังไง?
ไม่นานเขาก็นึกถึงบางสิ่งขึ้นได้ และใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม
เขาชี้ไปที่ห้องที่ฉินซูถูกพาเข้าไป หลังจากที่นักข่าวเข้าใจแล้ว เขาก็เดินไปที่ลิฟต์
เขาควรไปจากที่นี่โดยเร็ว ไม่อย่างนั้นเขาจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
นักข่าวมองไปที่ประตูที่ไม่ได้ปิดสนิท แต่ละคนมองตากันอย่างเข้าใจ จากนั้นจึงรวมตัวกันและผลักประตูเปิดออก
คนกลุ่มหนึ่งรีบวิ่งเข้ามาในห้อง ถือกล้องขนาดสั้นยาวเตรียมพร้อมสำหรับฉากที่น่าตื่นเต้น
แต่สถานการณ์ตรงหน้ากลับทำให้พวกเขาตกตะลึง
มีเพียงชายและหญิงนั่งอยู่ที่โต๊ะกาแฟ ดื่มชาและพูดคุยกันอย่างสงบ และมีผู้ช่วยยืนอยู่ด้านหลังชายคนนั้น
“เดี๋ยวนี้นักข่าวกล้าบุกเข้าไปในห้องของคนอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตแล้วเหรอ พวกคุณรู้หรือเปล่าว่าคุณบุกเข้ามาในห้องของใคร”
ผู้ช่วยถามอย่างเย็นชา จ้องหน้านักข่าวอย่างไม่พอใจ
พวกนักข่าวรู้สึกอับอาย
ชายคนนั้นวางถ้วยน้ำชาลง และหันไปมองพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แจ่มใส "ฉันได้พบกับหลานสาวของฉันเป็นครั้งแรก แค่เชิญเธอดื่มน้ำชา ทุกคนก็วุ่นวายมากันแบบนี้เลยเหรอ?"
นักข่าวต่างตกใจเมื่อรู้ถึงสถานะของชายคนนั้น
ไม่ใช่ว่าฉินซูกับแฟนเก่าของเธอจุดถ่านไฟเก่า และพากันมาพอดรักที่โรงแรมเหรอ? เป็นไปได้ยังไง…
“คุณท่านรอง นี่คงเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันน่ะครับ…”
นักข่าวที่ยืนอยู่ข้างหน้าพูดด้วยรอยยิ้มประดักประเดิด และถอยหลังออกไป
นักข่าวที่อยู่ด้านนอกปิดประตูเอาไว้แน่น ใช้เวลาสักพักกว่าที่นักข่าวเหล่านี้จะออกจากห้องไปได้
ทันทีที่นักข่าวจากไป ฉินซูก็เอนตัวไปที่เก้าอี้ ไม่ง่ายเลยที่จะทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก่อนจะทรุดตัวลงไปในที่สุด
ฉู่ซวี่ลุกขึ้นอย่างรวดเร็วและพยุงเธอไว้ "เธอคงจะถูกใครบางคนเล่นงานเข้าให้แล้ว ตอนนี้รู้สึกยังไงบ้าง"
ฉินซูมีสติคิดอยู่เรื่องเดียว เธอมองไปที่ชายคนนี้ ที่มีหน้าตาคล้ายกับฉู่หลินเฉินมาก เทียบได้ประมาณ 6 หรือ 7 คะแนน
นี่คือฉู่ซวี่ อาคนที่สองของฉู่หลินเฉิน
ถ้าไม่ได้เขา นักข่าวพวกนั้นก็คง…
ผลที่ตามมาไม่สามารถจินตนาการได้
ฉินซูต้องการขอให้เขาช่วยซื้อยาชนิดหนึ่ง แต่เมื่อคำพูดแล่นมาที่ริมฝีปาก กลับไม่สามารถเปล่งเสียงใด ๆ ออกมาได้
ฉู่ซวี่เข้าใจสภาพอาการของเธอ ขยิบตาเรียกผู้ช่วยที่อยู่ข้าง ๆ และสั่งขึ้น “โทรหาหลินเฉิน”
ฉินซูมองเขาด้วยสายตาเยิ้มเชิงเว้าวอน ร้อนใจจนแทบไม่ไหว
ทำไมเขาถึงโทรหาฉู่หลินเฉิน? สิ่งที่เธอต้องการตอนนี้คือยาถอนพิษ
ช้าก่อน เขาคงไม่เรียกฉู่หลินเฉินมาเป็นยาถอนพิษให้เธอใช่ไหม?
การรับรู้นี้ทำให้ฉินซูผวา
เธอพยายามจะลุกขึ้น แต่ร่างกายของเธอไร้เรี่ยวแรงเหมือนโคลน
เมื่อเร็ว ๆ นี้เขายุ่งกับกิจการของบริษัท รู้เพียงแค่ฉู่หลินเฉินและฉินซูแต่งงานกันแล้ว แต่ฉันไม่รู้ว่าพวกเขาไม่ใช่สามีภรรยากันจริง ๆ
ดังนั้นในสายตาของเขา ฉินซูก็คือหลานสาวคนหนึ่ง
เขาปล่อยมือทันที และปล่อยให้เธอกลับไปนอนที่เตียงใหญ่
"เราไปรอข้างนอกกัน"
พวกเขาหันตัวกลับไป โดยที่ไม่หันมามองหญิงสาวที่อยู่บนเตียงอีกเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วุ่นรักวิวาห์ลวง
ติดตามอ่านมาตลอด จะกรุณาอัพโหลดบทให้จบเรื่องได้มั้ยคะ...