หวังอี้หลินเยาะเย้ยในใจ เสแสร้ง
จากนั้นหันไปมองฉู่โจว เธอยังคงรอคอยปฏิกริยาของคุณปู่รอง
แน่นอนว่าฉู่โจวก็รู้สึกประหลาดใจไม่น้อย ทันใดนั้นเขาก็พูดขึ้น “เป็นอย่างนี้นี่เอง”
จากนั้นก็คิดไปถึงเรื่องเมื่อคืน ในเมื่อฉินซูกับฉู่หลินเฉินเป็นสามีภรรยาปลอม ๆ
เห็นทีเขาไม่ควร...
ฉินซูรู้ว่าเขากำลังคิดอะไร เธอจึงพูดขึ้นมาเบา ๆ “ไม่ได้เกิดเรื่องอะไรขึ้นระหว่างหนูกับคุณชายฉู่ค่ะ”
ฉู่โจวพยักหน้า เขารู้สึกโล่งใจและยิ้มน้อย ๆ ให้ฉินซู
ในเวลานี้หวังอี้หลินรู้สึกเป็นกังวลใจจริง ๆ เกิดอะไรขึ้นระหว่างสองคนนี้?
โดยเฉพาะคุณปู่รอง! ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าฉินซูคือของเลียนแบบ ทำไมยังสุภาพกับเธออยู่ แล้วตนเองที่เป็นหลานสะใภ้ของเขาแต่เขากลับไม่หันมามองเลย!
หวังอี้หลินขุ่นเคืองใจแต่ใบหน้ายังคงปรากฏรอยยิ้ม เธอพูดขึ้น “อารองคะ พวกเรามาเยี่ยมคุณย่าค่ะ”
สายตาของฉู่โจวมองไปยังกระเช้าในมือของเธอ ในที่สุดเขาก็สนใจเธอแล้ว “เข้าไปสิ”
หวังอี้หลินยืดคอของเธอขึ้นแล้วเดินเข้าไปด้านใน
เธอได้ยินเสียงที่ฉู่โจวพูดกับฉินซูอยู่ด้านหลัง “เธอก็เข้ามาสิ คุณย่าเพิ่งจะพูดถึงเธอ”
มือหวังอี้หลินกำกระเช้าแน่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
เมื่อเดินเข้าไปถึงด้านหน้าของคุณท่านตระกูลฉู่ เธอก็ปรากฏสีหน้าที่ทุกข์ใจขึ้นมาทันที “คุณย่าคะ เรื่องวันนั้นหนูผิดเอง หนูแค่หวังอยากจะให้คุณย่าดื่มชาที่ทำให้สุขภาพดี ไม่คิดเลยว่าผลลัพธ์มันจะออกมาเป็นแบบนั้น... เป็นความผิดของหนูเองทั้งหมดค่ะ!”
ซ่งจิ่นหรงที่กำลังขยับกล่องไม้จันทร์ในมือไปมาได้ยินเช่นนั้นก็ส่ายหัว “ย่ารู้ว่าเธอไม่ได้ตั้งใจ แล้วย่าจะโทษเธอได้ยังไงกันล่ะ?”
ถึงอย่างไรนั่นก็เป็นหลานสะใภ้ของเธอ เธอไม่คิดจะซักถามอะไรอย่างแน่นอน
หวังอี้หลินยิ้มอย่างมีความสุขและพูดขึ้น “คุณย่า ขอบคุณที่ไม่ว่าอะไรหนูนะคะ นี่คือดอกไม้และผลไม้ที่หนูตั้งใจซื้อมาให้คุณย่า ขอให้คุณย่าหายป่วยออกจากโรงพยาบาลเร็ว ๆ นะคะ”
เธอถือดอกไม้และมองหาแจกันที่จะนำมาใส่ดอกไม้
“เด็กดี วางไว้เถอะ ให้อาโจวเอาไปจัดการ” ซ่งจิ่นหรงพูดขึ้น
ได้ยินเช่นนั้นฉู่โจวก็ก้าวไปด้านหน้า “เอามาให้ฉันเถอะ”
หวังอี้หลินมองเขาใกล้ ๆ แล้วรู้สึกว่าใบหน้าของเขาช่างหล่อเหลาจริง ๆ เธอส่งดอกไม้ให้เขาทันที
ฉู่โจวถือดอกไม้ออกไปแล้ว
หวังอี้หลินจึงหันสายตากลับมาและตั้งใจว่าจะพูดคุยกับคุณท่านตระกูลฉู่ต่อ แต่อีกฝ่ายกลับหันไปพูดกับฉินซูแล้ว “ฉินซู ได้ยินหลินเฟิงบอกว่านี่คือสิ่งที่เธอแนะนำเขา?”
ซ่งจิ่นหรงเปิดกล่องไม้ในมือ ด้านในมีธูปหอมอยู่
ฉินซูจำได้ว่านี่คือกล่องที่หลินเฟิงซื้อไปวันก่อน จึงพยักหน้า
ซ่งจิ่นหรงยิ้มขึ้นมาทันที “โชคดีที่มีสิ่งนี้ ช่วงไม่กี่วันนี้ฉันจึงนอนหลับสบายขึ้นมาก”
“คุณท่านใช้มันได้ดีก็ดีแล้วค่ะ” ฉินซูพูดขึ้นอย่างถ่อมตน
ซ่งจิ่นหรงมองดูท่าทางของเธอ ในใจก็รู้สึกสับสนเล็กน้อย
ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเธอเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งนี้ เธอก็จะไม่รู้เลยว่าคุณย่าของฉินซูก็พักรักษาตัวอยู่ห้องติดกัน และอาการยังสาหัสอีกด้วย
พ่อแม่บุญธรรมส่งเธอเข้ามาในตระกูลฉู่ และโยนภาระการรักษาหญิงชราคนนั้นทั้งหมดให้เธอ
เด็กคนนี้เป็นเด็กที่น่าสงสาร อีกทั้งท่าทีที่ตนเองมีต่อเธอวันนั้นก็แย่เป็นมาก
คิดแบบนี้ซ่งจิ่นหรงก็วางกล่องไม้ในมือลง และหยิบของอีกชิ้นหนึ่งออกมา
เธอกวักมือเรียกฉินซู “เด็กน้อย มานี่สิ”
ฉินซูก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่เข้าใจ
“เธอช่วยฉันมาสองครั้งแล้ว มันไม่ใช่คำขอบคุณแค่หนึ่งหรือสองประโยคแล้วผ่านพ้นไป นี่คือน้ำใจเล็กน้อยของฉัน รับไปสิ”
ไม่รอให้ฉินซูได้ปฏิเสธ ซ่งจิ่นหรงก็วางของสิ่งนั้นลงไปในมือของฉินซู
ฉินซูตกตะลึงเมื่อมองไปที่จี้หยกในมือ แค่ดูก็รู้แล้วว่าแพงมาก
สองครั้งที่เธอช่วยก็เพราะหัวใจของความเป็นแพทย์ คิดไม่ถึงเลยว่าคุณท่านตระกูลฉู่จะมอบของขวัญที่มีค่ามากขนาดนี้ให้ตนเอง
“คุณท่านคะ หนูรับสิ่งนี้ไว้ไม่ได้” ฉินซูปฏิเสธและจะคืนของให้เธอ
น้ำเสียงของซ่งจิ่นหรงแข็งกร้าว “รับไว้”
ดวงตาของหวังอี้หลินที่มองดูอยู่เกือบจะลุกเป็นไฟ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วุ่นรักวิวาห์ลวง
ติดตามอ่านมาตลอด จะกรุณาอัพโหลดบทให้จบเรื่องได้มั้ยคะ...