ภายในลิฟต์ที่ถูกปิดแน่น ไร้เสียงพูดคุยของทั้งสอง
แม้ว่าใบหน้าของฉินซูจะกลับมาเรียบนิ่งเป็นปกติแล้ว แต่ก็ไม่สามารถหยุดยั้งความรู้สึกตื่นเต้นภายในใจตอนนี้ได้ การผ่าตัดของคุณย่าผ่านไปด้วยดี เธอรอวันนี้มาห้าปีแล้ว
ความปิตินี้จะคงอยู่ในใจไปอีกนาน แต่กลับไม่มีคนที่จะแชร์ความสุขนี้ไปด้วยกัน
เมื่อมองไปยังชายหนุ่มผู้เคร่งขรึมที่อยู่ข้าง ๆ ฉินซูก็พิจารณาอยู่ครู่หนึ่งและพูดออกไป “การผ่าตัดของคุณย่าฉันผ่านไปด้วยดี”
ฉู่หลินเฉินเหลือบมองเธอและตอบกลับนิ่ง ๆ “ยินดีด้วย”
ฉินซูยิ้มและพูดขึ้นทันทีว่า “คุณชายฉู่ ขอบคุณคุณมาก”
“ขอบคุณฉัน?” ฉู่หลินเฉินเลิกคิ้ว
“อืม ถ้าไม่ใช่เพราะคุณอนุญาตให้คุณย่าของฉันรักษาตัวอยู่ที่นี่ และยังให้ฉันยืมเงินเพื่อผ่าตัด การผ่าตัดของคุณย่าก็คงไม่สำเร็จเร็วขนาดนี้ ก่อนหน้านี้ฉันได้ยินมาว่าคุณตั้งใจกำชับให้คุณหมอดูแลคุณย่าของฉันอย่างดี เพราะฉะนั้นฉันต้องขอบคุณคุณมากจริง ๆ!”
การผ่าตัดผ่านไปด้วยดีทำให้ภาระหนักอึ้งภายในใจของฉินซูก็หายไปกว่าครึ่งหนึ่ง ลักษณะท่าทางและน้ำเสียงของเธอก็ดูนุ่มนวลขึ้นมาก
ฉู่หลินเฉินมองดูสีหน้าที่มีชีวิตชีวาของเธอ จึงอดไม่ได้ที่จะดึงมุมปาก แต่เขากลับพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา “การผ่าตัดของย่าเธอจบลงแล้ว แต่ข้อตกลงของเรายังไม่จบ หนี้ที่เธอติดค้างก็ยังชำระไม่หมด”
“ฉันรู้” ฉินซูพูดขึ้น และเมื่อนึกอะไรบ้างอย่างขึ้นมาได้ เธอก็หยิบของชิ้นหนึ่งออกมา
“เงินที่ฉันติดค้างคุณ ฉันคืนด้วยสิ่งนี้ได้ไหม?”
ฉู่หลินเฉินมองจี้หยกในมือของเธอ ด้วยสายตาของเขา เขารู้ถึงมูลค่าของหยกชิ้นนี้ทันที
หยกที่ดีขนาดนี้ เธอไปเอามาจากไหน?
เมื่อเห็นความสงสัยบนใบหน้าของเขา ฉินซูจึงอธิบาย “นี่คือสิ่งที่คุณท่านให้ฉันเพื่อขอบคุณสำหรับเรื่องที่ฉันช่วยท่าน”
เธอพูดและยื่นหยกส่งไปให้เขา “ฉันไม่เคยถามว่าหยกชิ้นนี้มีมูลค่าเท่าไร แต่สิ่งที่คุณท่านมอบให้น่าจะไม่ใช่ของราคาถูก คุณช่วยดูหน่อยได้ไหมว่ามันสามารถชดเชยหนี้สินหลายแสนนั่นได้รึเปล่า?”
ฉู่หลินเฉินอยากจะบอกเธอว่าหยกชิ้นนี้มีค่ามากกว่าหลายแสน เธอคิดว่าคุณย่าขี้เหนียวเกินไปแล้ว
แต่เมื่อคำพูดมาถึงริมฝีปากเขากลับถามขึ้นอีกอย่าง “เธอแน่ใจนะว่าจะใช้สิ่งนี้คืนแทนเงิน?”
ฉินซูพยักหน้า “ฉันไม่ชอบใส่ของพวกนี้ อยู่บนร่างกายฉันก็ไม่มีประโยชน์อะไร”
ฉู่หลินเฉินมองเธออย่างพิจารณา อันที่จริงผู้หญิงคนนี้ นอกจากสิ่งที่จัดเตรียมให้เพื่อเข้าร่วมในโอกาสพิเศษแล้ว บนร่างกายของเธอก็ไม่มีเครื่องประดับอะไรเลย
ว่ากันว่าผู้หญิงชอบของมีค่า แต่จากมุมมองของเขา ผู้หญิงที่แต่งตัวหรูหราระยิบระยับต่างกับต้นคริสต์มาสยังไงเหรอ?
ฉินซูที่แต่งตัวเรียบ ๆ ดูสะอาดสะอ้านตา กลับทำให้เขารู้สึกว่าดูดีมากกว่า
เมื่อคิดแบบนี้ ฉู่หลินเฉินก็หยิบจี้หยกจากในมือของเธอมา
ฉินซูเห็นอย่างนั้นก็ยิ้มและพูดขึ้น “ถ้าอย่างนั้นตอนนี้พวกเรา ไม่ได้มีความสัมพันธ์ในรูปแบบเจ้าหนี้ลูกหนี้ที่ต้องชำระกันแล้วนะ”
ได้ยินน้ำเสียงที่ผ่อนคลายของเธอ ไม่รู้ว่าทำไมฉู่หลินเฉินถึงเกิดความรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย
เขาพูดเตือนอย่างเย็นชา “คืนเงินแล้ว ละครก็ยังต้องแสดงต่อไป”
วันนี้ฉินซูอารมณ์ดีมาก เธอพูดอย่างสบาย ๆ “ไม่มีปัญหา”
...
ณ สำนักงานผู้จัดการทั่วไปของซิงโหย่วเอ็นเตอร์เทนเมนท์
ฉู่หยุนซีมองชายหนุ่มผมยาวที่โต๊ะทำงานอย่างค่อนข้างพึงพอใจ “เคนนีย์ คุณไม่พอใจฉันมาตลอดไม่ใช่เหรอที่ฉันไม่หาคนใหม่ ๆ แล้วเธอว่าการจัดการครั้งนี้ของฉันเป็นยังไงบ้าง?”
เคนนีย์อ่านเอกสารแผนการในมือจบ ก็ยิ้มอย่างโกรธจัดเมื่อได้ยินสิ่งที่เธอพูด
เคนนีย์วางเอกสารแผนการลงบนโต๊ะแล้วพูดด้วยอารมณ์ที่หมดคำจะพูด “หยุนซี หวังอี้หลินนี่เป็นใคร? เพื่อเธอคุณถึงกับต้องทำอะไรที่มันยิ่งใหญ่ขนาดนี้เลยเหรอ จะเปิดตัวคนใหม่แค่จัดงานแถลงข่าวก็พอแล้ว นี่ฉันยังต้องขุดค้นศักยภาพของคนมาใหม่สองคนด้วยตัวเองอีก สร้างเวทีให้เธอแสดงละครเพลงอีก คุณแน่ใจเหรอว่าเธอจะดัง?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วุ่นรักวิวาห์ลวง
ติดตามอ่านมาตลอด จะกรุณาอัพโหลดบทให้จบเรื่องได้มั้ยคะ...