ฉู่หยุนซีเชิดคางขึ้นอย่างมั่นใจ “แน่นอน! คุณมองไม่เห็นของดี ๆ ที่ฉันจัดเตรียมไว้ให้เธอเหรอ?”
พูดถึงตรงนี้ สีหน้าของเคนนีย์ก็มืดลง “คนมาใหม่คนนึงที่ไม่มีประสบการณ์ ไม่มีคุณสมบัติ เป็นมือสมัครเล่น! เปิดตัวปุ๊ปคุณก็จะให้เธอเป็นนักแสดงนำหญิงอันดับสอง? มันเกินไปไหม... คุณรู้ไหมว่าบทบาทนี้มีกี่คนที่กำลังแย่งชิงกันอยู่?”
“ฉันไม่สน ยังไงฉันก็จะทำให้เธอดัง!” ฉู่หยุนซีขมวดคิ้วและมองเขาอย่างไม่พอใจ “เคนนีย์ เรื่องนี้ฉันตัดสินใจแล้ว! เอกสารแผนการฉบับนี้ฉันแค่อยากได้คำแนะนำจากคุณ ไม่ใช่ให้คุณมาปฏิเสธ”
เคนนีย์ส่ายหัว “ในสายตาของฉัน นี่คือแผนการที่ล้มเหลว”
เขาพูดและเตือนขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง “หยุนซี การบริหารบริษัทไม่ใช่การเล่นเกมส์ มันควรจะยึดผลประโยชน์ของบริษัทเป็นหลัก”
“นี่คือบริษัทของตระกูลฉัน ฉันคือผู้จัดการทั่วไป ไม่มีสิทธิ์ที่จะยกยอใครสักคนเลยเหรอ?”
ได้ยินเช่นนั้นเคนนีย์ก็ไม่ได้พูดอะไรอีก เขาหันหลังเดินออกไป
ฉู่หยุนซีอ้าปากค้างแต่ก็พูดไม่ออกที่จะเรียกให้เขากลับมา
เคนนีย์เป็นผู้ช่วยที่ซื่อสัตย์กับเธอที่สุด ความสัมพันธ์ของทั้งสองเหมือนเพื่อนสนิท เมื่อครั้งที่เธอเพิ่งจะเริ่มต้นทำงานที่ซิงโหย่ว เธอไม่เข้าใจอะไรเลย ก็มีเคนนีย์นี่แหละที่คอยช่วยเธอ
เธอก็ไม่อยากที่จะไปวุ่นวายกับเขา เรื่องที่จะทำให้หวังอี้หลินดัง เธอมีแผนการของเธอเอง...
ดวงตาของฉู่หยุนซีหรี่ลง ผ่านไปครู่ใหญ่ เธอก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาต่อสายหาหมายเลขหนึ่ง
“พี่เฉิน สัปดาห์หน้าจะมีงานแถลงข่าวเปิดตัวอี้หลิน พี่ช่วยมายืนบนเวทีหน่อยได้ไหม?... ในฐานะทายาทฉู่ซื่อพี่พูดอะไรก็ได้สักสองสามประโยค แค่มีพี่อยู่ที่นี่ งานก็จะโด่งดังอย่างแน่นอน”
ฉู่หลินเฉินไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าหวังอี้หลินจะเข้าสู่วงการบันเทิง ดังนั้นเมื่อได้ยินคำพูดของฉู่หยุนซี เขาจึงขมวดคิ้วและถามขึ้น “อี้หลินไหน?”
“ก็พี่สะใภ้ไง ผู้หญิงที่พี่รัก!” ฉู่หยุนซีพูด “อี้หลินเคยพูดว่าการเข้าสู่วงการบันเทิง มันคือความฝันของเธอ ในเมื่อหลังจากนี้เธอก็จะกลายมาเป็นครอบครัวเดียวกับพวกเรา พวกเราช่วยทำให้ฝันของเธอเป็นจริงไม่ดีเหรอ? เธอคือผู้หญิงของพี่นะ พี่ก็ควรสนับสนุนเธอไม่ใช่เหรอ?”
ฉู่หลินเฉินเงียบไปครู่หนึ่ง
แม้ว่าเขาจะเกลียดการเข้าร่วมกิจกรรมในวงการบันเทิงประเภทนี้ แต่... ที่หยุนซีพูดก็มีเหตุผล
“ฉันจะไป” เขาพูดออกมาแค่สามคำสั้น ๆ จากนั้นก็วางสายไป
รอยยิ้มที่ดีใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของฉู่หยุนซี
เธอรีบโทรศัพท์หาหวังอี้หลินแล้วบอกข่าวดีเรื่องนี้
เมื่อได้รู้ว่าฉู่หลินเฉินจะไปงานแถลงข่าววันนั้นด้วยตนเอง หวังอี้หลินกระโดดโลดเต้นดีใจยิ่งกว่าฉู่หยุนซี
เพราะนี่ก็เพียงพอที่จะพิสูจน์แล้วว่า ฉู่หลินเฉินให้ความสำคัญกับเธอ!
หวังอี้หลินมีความมั่นใจขึ้นมาอีกครั้ง
งานแถลงข่าวเปิดตัว... วันนั้นจะเป็นจุดเริ่มต้นให้เธอก้าวไปสู่ชีวิตที่แสนสดใส!
เพื่อรอต้อนรับการมาถึงของวันนั้น เธอจึงไม่กล้าที่จะเกียจคร้าน เธอขยันพยายามเรียนรู้ท่าทางและการเต้นจากคุณครู ปรับปรุงนิสัยเฉพาะตัว เพื่อทำให้ภาพลักษณ์ของตนเองที่ปรากฏในเลนส์กล้องสวยสมบูรณ์แบบที่สุด
ทางฝั่งฉินซูยังคงไปกลับระหว่างห้องปฏิบัติการและโรงพยาบาล เธอยุ่งมากจริง ๆ
งานในห้องปฏิบัติการใกล้จะสิ้นสุดลง ฉินซูรับผิดชอบรายงานผลสรุปสุดท้าย ผลการวิจัยจากการคาดคะเนในบทความที่เธอส่งครั้งแรกได้รับการตรวจสอบพอดี
ข้อมูลที่จัดเก็บสุดท้ายจะส่งไปที่คณะตรวจสอบและวินิจฉัยในนามของห้องปฏิบัติการฉางเหล่า
งานที่ห้องปฏิบัติการสิ้นสุด ก็มีข่าวดีมาจากโรงพยาบาล
คุณย่าปกติดีหลังการผ่าตัด สามารถย้ายจากห้องคนไข้แยกเดี่ยวไปยังห้องคนไข้ที่มีพยาบาลดูแลได้แล้ว
ชีวิตกำลังเป็นไปในทิศทางที่ดี ฉินซูจึงเต็มไปด้วยความมั่นใจ
วันนี้ฉินซูเตรียมที่จะไปเยี่ยมคุณย่าที่โรงพยาบาล โทรศัพท์จากอาจารย์หม่าก็โทรเข้ามา
“เหอซู เรื่องที่เธอคัดลอกผลงานทำไมไม่พูดออกมาให้เร็วกว่านี้ เธอทำทีมของพวกเราย่อยยับหมดแล้ว!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วุ่นรักวิวาห์ลวง
ติดตามอ่านมาตลอด จะกรุณาอัพโหลดบทให้จบเรื่องได้มั้ยคะ...