วุ่นรักวิวาห์ลวง นิยาย บท 92

การโฆษณาเรื่องนี้เด้งขึ้นมาบนโทรศัพท์มือถือมากว่าหนึ่งสัปดาห์แล้ว ถึงแม้ว่าเธอไม่อยากรับรู้ก็ต้องรู้

อีกทั้งเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนที่ฉู่หลินเฉินออกจากบ้าน ก็ดูเหมือนว่าจะไปช่วยทำให้เธอมีชื่อเสียงเพิ่มขึ้น

ฉินซูใช้ความคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็รีบขึ้นไปชั้นบนแล้วเปลี่ยนกระโปรงทันที เธอม้วนผมเก็บไว้แบบเรียบ ๆ

ทั้งร่างกายก็ไม่ได้ประดับตกแต่งอะไรเพิ่มเติม เธอเพียงแค่ถือกระเป๋าหนึ่งใบที่มีโทรศัพท์ และชุดเข็มเงินอยู่ในนั้น

งานแถลงข่าวกำลังดำเนินไปอย่างคึกคัก

ภายใต้การแนะนำของพิธีกร นักแสดงหน้าใหม่สามคนที่เปิดตัวพร้อมกัน ก็ทยอยปรากฏตัวขึ้นบนเวที

หวังอี้หลินเดินขึ้นมาเป็นคนสุดท้าย แม้ว่าจะมองเห็นความประหม่าของเธอ แต่ชุดกระโปรงแฮนด์เมดสุดหรูหรารุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นของชาแนลที่เธอสวมใส่อยู่ ก็เพียงพอที่จะทำให้กลายเป็นจุดสนใจของเหล่าตากล้องได้อย่างง่ายดาย

ถ้าหากสามารถสวมใส่ชุดกระโปรงตัวนี้ได้ นักแสดงหน้าใหม่คนนี้จะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน

ด้วยฐานะภรรยาตระกูลฉู่ ทำให้การเข้ามาในสถานที่จัดงานแถลงข่าวของฉินซูเป็นไปอย่างราบรื่น

การปรากฏตัวของเธอทำให้ผู้คนปั่นป่วนไม่น้อย

เลนส์กล้องที่เดิมทีหันไปทางหวังอี้หลินก็ถูกหันไปทางเธอ

เมื่อเทียบกับเด็กใหม่ที่ไม่เป็นที่รู้จักแต่กลับสวมชุดกระโปรงราคาแพง เห็นได้ชัดว่าการปรากฏตัวขึ้นมาอย่างกะทันหันของภรรยาตระกูลฉู่ คุ้มค่าที่จะให้ความสนใจมากกว่า

เดิมทีฉินซูไม่ได้คิดจะทำให้การมาของเธออึกทึกคึกโครมขนาดนี้ แต่ในเมื่อมีคนสังเกตเห็นเธอแล้ว เธอก็ค่อย ๆ ควบคุมสติแล้วเดินไปข้างหน้าอย่างสงบและใจเย็น ความสง่างามของเธอปกคลุมไปทั่วบริเวณนั้นไปโดยปริยาย

เป็นเพราะว่าเธอเคยเข้าร่วมงานเลี้ยงระดับสูงกับฉู่หลินเฉินมาแล้ว ทำให้สำหรับงานแบบนี้เธอสงบนิ่งกว่าเมื่อก่อนมาก

ฉินซูมองไปยังหวังอี้หลินที่อยู่บนเวที และมุ่งตรงไปด้านหน้า

เมื่อหวังอี้หลินมองเห็นฉินซูก็เกิดลางสังหรณ์บางอย่างขึ้นในใจ

ช่วงเวลาสำคัญแบบนี้ฉินซูมาทำอะไร? คงไม่ได้มาเพื่อขัดขวางการเปิดตัวของเธอหรอกใช่ไหม?

แต่คุณชายฉู่ก็อยู่ที่นี่ เธอจะกล้าก่อเรื่องได้ยังไง?

ฉินซูเดินผ่านที่นั่งแถวแรก แขนข้างหนึ่งก็ยื่นมาคว้าเธอไว้ทันที

ชายหนุ่มที่สูงสง่าลุกขึ้นจากเก้าอี้ ร่างกายของเขาครึ่งหนึ่งเอียงเข้าหาด้านหน้าของเธอ ขัดขวางการเดินของเธอไว้ สายตาที่นิ่งลึกเต็มไปด้วยคำถามและการเตือน

แต่กลับพูดขึ้นอย่างสงบนิ่ง “เธอบอกว่าไม่อยากมาไม่ใช่เหรอ? แล้วทำไมถึงมา”

สายตาของฉินซูหันไปมองใบหน้าของฉู่หลินเฉินที่อยู่ตรงหน้า เธอยิ้มบาง ๆ และพูดขึ้น “จู่ ๆ ก็อยากมาขึ้นมาค่ะ”

จากนั้นก็นั่งลงที่เก้าอี้ข้างฉู่หลินเฉินด้วยกริยาท่าทางที่สง่า

บทสนทนาที่ธรรมดาของทั้งสองช่วยคลายความสงสัยของผู้คน เพราะการปรากฏตัวอย่างกระทันหันของฉินซูไปจนหมดสิ้น

ฉู่หลินเฉินก็นั่งลงไปบนเก้าอี้อีกครั้ง และมองดูงานแถลงข่าวต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่สายตากลับแสดงถึงการวิเคราะห์ต่อผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้าง ๆ

จู่ ๆ เขาก็เอียงศีรษะเข้าใกล้หูของเธอ ใช้เสียงที่ต่ำและเยือกเย็นพูดขึ้นว่า “เธอมาทำอะไร?”

“เธอ” ฉินซูพูดออกมาหนึ่งคำที่มีความหมายอย่างลึกซึ้ง

เป็นธรรมดาที่ฉู่หลินเฉินจะไม่เข้าใจ เขาเหลือบมองเธอด้วยความสงสัย

ทั้งสองคนไม่รู้สึกอะไรเลย ว่าการกระซิบกระซาบของพวกเขาในตอนนี้ ดูสนิทสนมมากแค่ไหนในสายตาของคนรอบข้าง!

หวังอี้หลินที่อยู่บนเวทีมองดูฉากเหล่านี้ เธอกำนิ้วมือเข้าหากันแน่นด้วยความโกรธ

ฉินซูหน้าไม่อายจริง ๆ กล้าอ่อยฉู่หลินเฉินต่อหน้าเธอ!

จนกระทั่งมีเสียงที่ตื่นตระหนกดังขึ้นมาจากด้านข้างของเวที “จู่ ๆ เขาก็หายใจตัดขัด มีใครพอจะรู้เรื่องทางการแพทย์บ้างไหม? ทำยังไงดี รีบมาช่วยหน่อย...”

หวังอี้หลินกลับมาสงบโดยเร็ว วันนี้เป็นวันสำคัญสำหรับการเปิดตัวของเธอ จะให้ฉินซูมามีอิทธิพลต่อตัวเธอไม่ได้!

เธอยืนขึ้นอย่างมั่นใจ และเดินออกไปยังบริเวณที่กำลังเกิดความวุ่นวาย “ฉันรู้วิธีปฐมพยาบาล ฉันจัดการเอง!”