หลังจากผ่านพ้นการปฐมพยาบาลของหวังอี้หลิน พนักงานคนที่หายใจติดขัด และตกอยู่ในอาการที่อันตรายคนนั้นก็มีอาการดีขึ้นมา
“ดื่มน้ำสักหน่อยแล้วไปพักพ่อนเถอะ” หวังอี้ยิ้มยิ้มและยื่นขวดน้ำดื่มให้อีกฝ่าย
“ขอบคุณ คุณเก่งมากเลย!” พนักงานที่ได้รับความช่วยเหลือคนนั้น จับมือของเธอขึ้นมาด้วยความตื่นเต้นและรู้สึกซาบซึ้งอย่างยิ่ง
ฉู่หยุนซีที่ยืนอยู่ด้านหลังเวทีตบไหล่ของช่างจัดไฟ และส่งสัญญาณให้อีกฝ่ายหันแสงไปยังฉากตรงหน้า
ภายใต้แสงที่ระยิบระยับ หวังอี้หลินดูเหมือนราวกับว่าเป็นนางฟ้าผู้สูงส่งและศักดิ์สิทธิ์
เหล่านักข่าวกดปุ่มชัตเตอร์ไปด้วยวิพากษ์วิจารณ์ไปด้วย
“เด็กใหม่ที่ชื่อหวังอี้หลินคนนี้ไม่ธรรมดาจริง ๆ ฝีมือการปฐมพยาบาลของเธอเมื่อกี้มันมืออาชีพชัด ๆ!”
“เรียนหมอรึเปล่า? ช่างเป็นหมอที่จิตใจดี? ไม่แย่นะ”
“ดูท่าว่าเด็กใหม่คนนี้จะต้องดังแน่ ๆ รีบถ่ายไปอีกเยอะ ๆ!”
เมื่อได้ยินเสียงพูดคุยจากล่างเวที หวังอี้หลินดึงมุมปากเล็กน้อยในมุมที่กล้องถ่ายไม่เห็น และส่งสายตาเป็นอันรู้กันไปยังฉู่หยุนซีที่ยืนอยู่หลังเวที
เมื่อสักครู่ทุกคนต่างก็มองเห็นศักยภาพ “การด้นสด” ของเธอ ทำให้พวกเขารู้สึกถึงความน่าทึ่งและประหลาดใจ ความรู้สึกที่มีสายตาของกลุ่มคนจับจ้องมา ทำให้หวังอี้หลินรู้สึกพึงพอใจอย่างยิ่ง
เธอคิดถึงฉู่หลินเฉินและอยากที่จะเห็นปฏิกิริยาของเขา สายตาของเธอจึงมองไปที่เขาอย่างอดไม่ได้
แต่ฉู่หลินเฉินกลับไม่ได้มองเธอ เขาเอียงศีรษะเล็กน้อย สายตาที่ดุดันของเขาจ้องมองไปยังที่ใดที่หนึ่ง
เมื่อมองตามสายตาของเขา หวังอี้หลินก็พบว่าเขากำลังมองพนักงานคนนั้น ที่เธอเพิ่งจะช่วยชีวิตไว้
หัวใจของเธอเต้นระรัวเล็กน้อย หรือว่าเขาจะมองอะไรออก?
เป็นไปไม่ได้ การแสดงออกของเธอเมื่อสักครู่สมบูรณ์แบบมาก อีกทั้งคุณชายฉู่ก็ไม่ใช่หมอ เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเห็นพิรุธอะไร
หวังอี้หลินปลอบตัวเองในใจและกลับมาสงบจิตสงบใจอีกครั้ง เธอกลับไปยังตรงกลางเวทีอีกครั้ง
“คุณหวังอี้หลิน คุณอายุแค่นี้แต่ทักษะการแพทย์ของคุณดีมาก ขอถามหน่อยว่าที่บ้านคุณทำอาชีพอะไร? หรือว่าจะเป็นครอบครัวแพทย์?” นักข่าวถามขึ้นด้วยความอยากรู้
เมื่อเห็นโอกาสฉู่หยุนซีก็เดินออกมาจากด้านข้าง เธอพูดขึ้นยิ้ม ๆ “เมื่อสักครู่ยังไม่ได้แนะนำอย่างละเอียด หวังอี้หลินอายุน้อยขนาดนี้ แต่ก็ได้รับใบประกาศนียบัตรสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงในต่างประเทศ และยังได้ตีพิมพ์บทความวิชาการทางการแพทย์อีกไม่น้อย เธอเป็นอัจฉริยะทางการแพทย์ที่ทุกคนต่างยกย่อง”
ในเวลาเดียวกันภายใต้การส่งสัญญาณของฉู่หยุนซี หน้าจอขนาดใหญ่ด้านหลังก็เริ่มเล่นวิดีโอการแนะนำตัวหวังอี้หลิน
ใบประกาศนียบัตรและบทความต่าง ๆ ปรากฏให้เห็นฐานะนักวิชาการของหวังอี้หลินอย่างชัดเจน
“เด็กใหม่คนนี้ช่างน่าทึ่งจริง ๆ!” นักข่าวอุทานชมเชยขึ้นมา
นักวิชาการในวงการบันเทิงก็มีอยู่แต่ไม่มาก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงนักวิชาการทางการแพทย์ ทุกคนต่างก็รู้ดีว่าการเรียนแพทย์มันยากลำบากมากแค่ไหน
ในขณะที่ฉู่หยุนซีกำลังแนะนำหวังอี้หลินอย่างฉะฉานอยู่บนเวทีนั้น สายตาของฉินซูที่อยู่ด้านล่างของเวทีกำลังจ้องมองไปที่หน้าจอ สีหน้าของเธอค่อย ๆ เย็นลง
ฉู่หลินเฉินแทบจะสัมผัสได้ถึงลมหายใจที่เปลี่ยนไปของหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เขาได้ทันที เขาเอียงศีรษะมองเธอ สีของดวงตาเขาเข้มขึ้นเรื่อย ๆ
เมื่อฉู่หยุนซีแนะนำหวังอี้หลินจบก็มองไปยังฉู่หลินเฉินที่อยู่ด้านล่างเวที เธอพูดขึ้นอย่างสงบนิ่งท่ามกลางช่วงเวลาที่วุ่นวาย “อย่างที่ทุกคนรู้ว่าในเดือนหน้า พี่ชายของฉันก็จะรับช่วงต่อของฉู่ซื่อกรุ๊ป เขามาที่นี่ด้วยตนเองในวันนี้ แสดงให้เห็นว่าเขาให้ความสนใจกับซิงโหยวเอ็นเตอร์เทนเมนท์ พวกเราขอเชิญเขาขึ้นมาบนเวที เพื่อพูดอะไรแก่นักแสดงหน้าใหม่กันสักหน่อย”
เมื่อเสียงของเธอลดต่ำลง เหล่านักข่าวก็ค่อย ๆ หันกล้องไปทางฉู่หลินเฉิน ทุกคนเต็มไปด้วยการรอคอย
สามารถพูดได้เลยว่า คนส่วนใหญ่ที่มางานแถลงข่าวในวันนี้ก็เพราะว่าตามเขามา!
คุณชายฉู่ไม่ค่อยเข้าร่วมกิจกรรมที่เปิดเผยต่อสาธารณชน โอกาสที่จะสามารถเข้าใกล้เขาแบบนี้ได้นั้นช่างหายาก!
ใบหน้าของเขาที่ปรากฏในเลนส์กล้องนั้น สมบูรณ์แบบมากพอที่จะฆ่าดาราชายในวงการบันเทิงได้มากกว่าครึ่ง
ฉู่หลินเฉินจัดชายเสื้อของเขาอย่างไม่รีบร้อน และกำลังจะลุกขึ้น แต่มือบางเล็กคว้าแขนของเขาไว้
ผู้หญิงคนนี้กำลังขัดขวางเขางั้นเหรอ?
แม้ว่าเขาจะไม่ชอบสถานการณ์แบบนี้ แต่เรื่องนี้เขารับปากไว้แล้ว จะมาเปลี่ยนใจตอนนี้ได้ยังไง
ยิ่งไปกว่านั้น เธอมีเหตุผลอะไรที่จะมาขวางเขา?
ฉู่หลินเฉินขมวดคิ้วและลุกขึ้นยืนด้วยตนเอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วุ่นรักวิวาห์ลวง
ติดตามอ่านมาตลอด จะกรุณาอัพโหลดบทให้จบเรื่องได้มั้ยคะ...