ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 132

สรุปบท ตอนที่ 132จับตาดู หนานหว่านเยียนไว้: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

สรุปตอน ตอนที่ 132จับตาดู หนานหว่านเยียนไว้ – จากเรื่อง ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ โดย อารั่ง

ตอน ตอนที่ 132จับตาดู หนานหว่านเยียนไว้ ของนิยายประวัติศาสตร์เรื่องดัง ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ โดยนักเขียน อารั่ง เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

หนานหว่านเยียนรู้สึกว่ากระดูกทั้งตัวของนางกำลังจะแยกออกจากกัน การผ่าตัดที่มีความเสี่ยงสูง บวกกับที่ถูกกู้โม่หานกลั่นแกล้ง

ถ้าไม่มีการกระทำงี่เง่าของกู้โม่หานที่ยืนกรานจะขี่ม้า นางคงไม่เป็นเช่นนี้

หลังจากลากสังขารกลับมาถึงเรือนเซียงหลิน ในที่สุดก็เห็นอวี๋เฟิงกับเซียงอวี้

อวี๋เฟิงกับเซียงอวี้คงจะกำลังรอนางมาตลอด ทั้งสองนั่งอยู่ที่หน้าประตูเรือนเซียงหลิน และกำลังผล็อยหลับพิงกันอย่างไม่รู้ตัว

หนานหว่านเยียนรู้สึกอบอุ่นหัวใจขึ้นมาทันที นางกระซิบบอกพวกเขา “ขอบคุณมาก”

จากนั้นนางก็เดินไปที่ห้องพักด้านข้าง แล้วหยิบผ้าห่มมาคลุมให้ทั้งสองคนอย่างห่วงใย

ทั้งคู่คงจะเหนื่อยแล้ว อย่าเพิ่งปลุกพวกนางดีกว่า

เซียงอวี้ไม่รู้ว่ากำลังฝันถึงอะไรอยู่ นางขมวดคิ้วแน่น นอนพิงไหล่อวี๋เฟิง “พระชายา ไม่นะเจ้าคะ...”

ส่วนอวี๋เฟิงที่กำลังนอนน้ำลายยืด เหมือนจะรู้สึกได้ว่าคนด้านข้างกำลังหวาดกลัว เขาจึงจับมือของเซียงอวี้ไว้โดยไม่รู้ตัว “ไม่เป็นไร พระชายาจะต้องไม่เป็นไรแน่นอน อืม...”

หนานหว่านเยียนรู้สึกแปลกๆ “ไม่คิดเลยว่าพวกเจ้าสองคนจะดูเหมาะสมกันเช่นนี้”

แม้แต่ในความฝันยังฝันเหมือนกัน

นางปิดปากพยายามไม่ให้ตนเองส่งเสียงดังออกมา และยกยิ้มอย่างพอใจพร้อมกับเดินเข้าไปในห้องอย่างเบามือเบาเท้า

ตรงหน้าประตูห้อง เผ็ดกับไม่เผ็ดรีบวิ่งออกมา สะบัดหางต้อนรับหนานหว่านเยียน หนานหว่านเยียนยกยิ้มแล้วพูดปลอบใจพวกเขา จากนั้น นางก็เห็นซาลาเปากอดเกี๊ยวน้อยไว้ ด้วยท่าทางง่วงงุน

เกี๊ยวน้อยยังพอจะมีสติ และกำลังลูบหลังกล่อมซาลาเปาอยู่

ทั้งสองไม่ได้เปลี่ยนมาใส่ชุดนอน ตอนนี้กำลังเอนกายนั่งพิงขอบเตียง ดูเหมือนว่าจะรอนางกลับมานานแล้ว

หนานหว่านเยียนรู้สึกหัวใจบีบรัดจนเจ็บ รู้สึกสงสารจับใจ รีบเดินไปตรงหน้าลูกทั้งสอง

พอเกี๊ยวน้อยเห็นหนานหว่านเยียน ดวงตากลมโตของนางก็เป็นประกาย นางพยายามวางซาลาเปาลงนอนอย่างเบามือ แล้ววิ่งเข้าไปในอ้อมกอดของหนานหว่านเยียน “ท่านแม่กลับมาแล้ว!”

เด็กน้อยพยายามข่มเสียงให้เบาที่สุด แล้วมุดตัวอยู่ในอ้อมกอดของหนานหว่านเยียนอย่างออดอ้อน “คิดถึงท่านแม่ที่สุดเลย!”

หนานหว่านเยียนลูบศีรษะของนางแล้วพูดว่า “แม่กลับมาแล้ว เหตุใดยังไม่นอนกันอีก”

เกี๊ยวน้อยมองไปทางซาลาเปาจากนั้นก็แก้มป่องพูดกับหนานหว่านเยียน “ไม่มีท่านแม่! พวกข้านอนไม่หลับ ซาลาเปาง่วงมาก ก็เลยนอนหลับสักพัก”

หนานหว่านเยียนรู้สึกตื้นตันใจมาก นางอุ้มเกี๊ยวน้อยเดินไปหาซาลาเปา

ซาลาเปาเหมือนจะรู้สึกได้ถึงบางอย่างในขณะที่กำลังนอนหลับ เปลือกตาของนางเริ่มขยับ มุมปากของนางยกยิ้ม “ท่านแม่ ท่านแม่กลับมาแล้วหรือ”

หนานหว่านเยียนยกยิ้ม และพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน “แม่อยู่ตรงนี้แล้ว”

ซาลาเปามุดศีรษะเข้าไปในอ้อมกอดของหนานหว่านเยียน แล้วสูดดมกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์จากร่างกายของหนานหว่านเยียน “ท่านแม่กลิ่นหอม...”

นางพูดอย่างสะลึมสะลือ เสียงพูดเบาจนได้ยินไม่ชัด พูดไปพูดมาก็เผลอหลับไป

เกี๊ยวน้อยมองไปที่ซาลาเปา จากนั้นก็ทำแก้มป่องอย่างโมโหใส่หนานหว่านเยียน และพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “ท่านแม่ ท่านดูเหนื่อยมาก คนใจร้ายนั่นให้ท่านแม่ทำงานหนักใช่หรือไม่”

หัวใจของหนานหว่านเยียนรู้สึกอบอุ่น นางกอดเกี๊ยวน้อยไว้ แล้วพูดว่า “แม่ไม่เป็นไร กู้โม่หานแค่ขอให้แม่ไปร่ายเวทมนตร์ เกี๊ยวน้อยไม่ต้องห่วงนะลูก”

ไม่มีอะไร ที่จะมีความสุขไปกว่าการที่รู้สึกถึงความอบอุ่นของลูกสาวทั้งสองคนนี้อีกแล้ว

นางลูบหลังสองพี่น้องอย่างเบามือ แล้วกล่อมทั้งสองนอนหลับด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลและอ่อนโยน

“ขอแค่พวกเจ้าอยู่สุขสบาย แม่ก็ดีใจแล้ว เด็กดี รอแม่มาทั้งวันแล้ว ลูกคงเหนื่อยแล้ว รีบนอนเถอะ...”

“หนานหว่านเยียนเป็นเช่นไรบ้าง?” กู้โม่หานมองลงไปที่ชายผู้นั้น แล้วจิบน้ำชา น้ำเสียงของเขาราบเรียบ ชายผู้นั้นตอบเสียงเรียบ “เรียนท่านอ๋อง บ่าวไม่พบข้อมูลที่เป็นประโยชน์เลยขอรับ”

“แต่ว่าพระชายากับคุณหนูทั้งสองรักใคร่ผูกพันกันมากจริงๆ คุณหนูทั้งสองจนถึงเมื่อสักครู่ ยังเฝ้ารอพระชายากลับมา”

“ตลอดหลายวันมานี้ บ่าวสามารถสัมผัสได้ ว่าพระชายาดูแลคุณหนูทั้งสองอย่างดี สายสัมพันธ์ระหว่างพวกนางนั้น ลึกซึ้งมากยิ่งนัก”

กู้โม่หานได้ยินก็ขมวดคิ้วขึ้นมา แววตาของเขาแปลกประหลาด “เด็กสองคนนั้น สบายดีหรือไม่”

ชายผู้นั้นยังคงก้มศีรษะ น้ำเสียงของเขายังคงเคารพนับถือ

“คุณหนูทั้งสองสบายดีขอรับ อีกทั้งยังเป็นเด็กดีมาก ท่านอาจารย์ที่ท่านอ๋องเชิญมาสอนพวกคุณหนูยังชมเชยถึงความเฉลียวฉลาดของพวกนาง ในอนาคตพวกนางจะต้องกลายเป็นผู้มีความสามารถอย่างแน่นอน”

“ในด้านการเล่าเรียนคุณหนูหนานจือจะด้อยกว่าคุณหนูหนานเสี่ยวเล็กน้อย แต่คุณหนูหนานจือเป็นเด็กที่ร่าเริงสดใส กล่าวสั้นๆ ก็คือ คุณหนูทั้งสองมีข้อดีที่แตกต่างกัน”

ชายผู้นี้คุ้นเคยกับเรื่องราวของเกี๊ยวน้อยกับซาลาเปาเป็นอย่างดี มีเหตุผลและรักษาความเคารพ

สีหน้าของกู้โม่หานค่อยๆ อ่อนโยนขึ้น

“ข้ารู้แล้ว เจ้าออกไปได้ จับตาดูหนานหว่านเยียนต่อไป”

“หนานหว่านเยียนมีกระดาษที่สามารถตรวจสอบความสัมพันธ์ทางสายเลือดได้ เจ้าจับตาดูว่ามันอยู่ที่ใด หากเจ้าหาเจอ ก็หาทางเอามันมาให้ได้!”

“ขอรับ บ่าวรับทราบ” หลังจากที่ชายผู้นั้นตอบรับ จากนั้นก็ก้มหน้าลงและเขารีบถอยออกไป

ท่านอ๋องช่างเป็นห่วงคุณหนูทั้งสองยิ่งนัก แม้ว่าเขาจะยังไม่รู้ว่าคุณหนูทั้งสองมีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับเขาหรือไม่ แต่เขาก็พยายามอย่างดีที่สุด และปฏิบัติต่อพวกนางเหมือนเป็นลูกของตนเอง

คงได้แต่หวังว่า ผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นไปในทางที่ดี...

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้