ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 133

สรุปบท ตอนที่ 133 ท่านแม่ ท่านลุงใจร้ายหน้าตาดียิ่งนัก: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

อ่านสรุป ตอนที่ 133 ท่านแม่ ท่านลุงใจร้ายหน้าตาดียิ่งนัก จาก ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ โดย อารั่ง

บทที่ ตอนที่ 133 ท่านแม่ ท่านลุงใจร้ายหน้าตาดียิ่งนัก คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายประวัติศาสตร์ ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย อารั่ง อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

เช้าวันรุ่งขึ้น

เซียงอวี้ตื่นขึ้นมาจากความฝันด้วยท่าทางสะลึมสะลือ แต่กลับพบว่าตนเองกำลังนอนอยู่บนเตียงโดยมีผ้าห่มคลุมอยู่ นางรู้สึกงุนงงไปสักพัก จากนั้นก็ลุกขึ้นไปทำหน้าที่รับใช้หนานหว่านเยียน

นางเดินออกจากห้อง แต่กลับไม่ทันได้สังเกตว่าอวี๋เฟิงกำลังแอบกลืนน้ำลายอยู่ตรงมุมห้อง ใบหน้าของเขาแดงจัด

โชคดีที่นางไม่เห็น ไม่เช่นนั้นเขาคงโดนเข้าใจผิดอีกแน่!

ตอนที่หนานหว่านเยียนตื่นนอน พอลืมตาขึ้นมา ก็เห็นสองใบหน้ากลมนุ่มนิ่มปรากฏตรงหน้า กำลังจ้องมองมาที่นางด้วยความดีใจ

นางเหยียดมือออกมาบีบแก้มทั้งสองคนอย่างเอ็นดู “เหตุใดถึงตื่นเช้าเช่นนี้”

เกี๊ยวน้อยยกยิ้มจนตาหยี ก่อนจะพูดออดอ้อนหนานหว่านเยียน

“มีท่านแม่อยู่ด้วย พวกข้านอนหลับฝันดี แต่ก็อยากตื่นมาเห็นท่านแม่ผู้งดงามไม่มีใครเทียบได้เร็วๆ จึงตื่นเช้าเป็นธรรมดา”

ซาลาเปาพุ่งตัวเข้าไปในอ้อมกอดของหนานหว่านเยียน “ใช่แล้ว ท่านแม่กำลังกอดข้ากับพี่สาวไว้ มันทั้งอบอุ่น ทั้งนุ่มนิ่ม สบายมากเลยล่ะ!”

หนานหว่านเยียนยกยิ้มกว้าง แล้วใช้นิ้วถูจมูกของทั้งสองคนอย่างเอ็นดู “ปากหวานจริง ไปเรียนมาจากผู้ใดกัน”

สองพี่น้องหัวเราะชอบใจ แล้วยกยิ้มกว้าง

เซียงอวี้มาถึงหน้าประตูแลแล้วถามเสียงเบา “พระชายา ตื่นหรือยังเจ้าคะ”

เดิมทีนางยังกังวลใจ ว่าเมื่อคืนนี้หนานหว่านเยียนกลับมาแล้วหรือไม่ แต่ตอนนี้นางรู้สึกโล่งอกที่ได้ยินเสียงหัวเราะของสามแม่ลูก

หนานหว่านเยียนเอ่ยตอบอย่างอารมณ์ดี “เข้ามาได้”

เซียงอวี้เข้าไปในห้องอย่างนอบน้อม แต่พอนางเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นเสื้อผ้าของหนานหว่านเยียนที่ไม่มีเวลาเปลี่ยนของเมื่อวานนี้ ชุดกระโปรงสีแดงฉีกขาด

เซียงอวี้ระงับความประหลาดใจในแววตาไว้ ก่อนจะอุ้มซาลาเปาที่ตัวติดกับหนานหว่านเยียนขึ้นมา แล้วพูดว่า “พระชายา เมื่อวานนี้…”

เกี๊ยวน้อยเห็นท่าทางลังเลของเซียงอวี้ สีหน้าก็เต็มไปด้วยความขุ่นเคือง

“ท่านแม่! เมื่อวานนี้คนใจร้ายนั่นพาตัวท่านแม่ไปที่ใดกัน!”

เมื่อคืนเพราะนางง่วงนอน สิ่งที่หนานหว่านเยียนพูด นางจึงลืมไปทั้งหมด

ซาลาเปาที่กำลังอยู่ในอ้อมกอดของเซียงอวี้เองก็โมโหมาก ปากน้อยๆ ยู่ยี่อย่างไม่พอใจ “ใช่แล้ว! คนใจร้ายรังแกท่านแม่หรือไม่!”

แล้วยังทำให้เสื้อผ้าของท่านแม่ฉีกขาดอีกด้วย!

หนานหว่านเยียนยิ้ม “ไม่เป็นไร เมื่อวานกู้โม่หานพาแม่ไปที่ค่ายทหาร มีคนบาดเจ็บ แม่แค่ไปช่วยรักษาพวกเขา”

หลังจากพูดจบ หนานหว่านเยียนก็มองไปทางเซียงอวี้ด้วยรอยยิ้มแปลกๆ

เซียงอวี้มองไปที่หนานหว่านเยียน แล้วมั่นใจว่าไม่เป็นไรจริงๆ และในแววตาของนางก็มีนัยแอบแฝงอยู่ด้วย

นางไม่ค่อยเข้าใจ จากนั้นก็วางซาลาเปาไว้ตรงหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง แล้วหวีผมให้อย่างเบามือ

เกี๊ยวน้อยไม่เชื่อ นางจับมือของหนานหว่านเยียนแล้วพลิกไปมาเพื่อตรวจให้แน่ใจว่านางไม่ได้รับบาดเจ็บ จากนั้นวางมือบนสะโพกของนาง และแสดงสีหน้าว่า “หึ ถือว่าเขารู้ตัวเอง”

“เอาล่ะ วางใจได้! คราวหน้าถ้าเขายังกล้ามา ซาลาเปากับข้าจะจัดการเขาเอง!”

หนานหว่านเยียนอดที่จะยกยิ้มไม่ได้ นางส่ายหน้าก่อนจะบีบปลายจมูกของเด็กน้อย

นางลูบผมของเกี๊ยวน้อยอย่างเอ็นดู “เจ้านี่นะ เด็กเจ้าเล่ห์”

นางรู้ดี ไม่ว่าจะในยุคปัจจุบันหรือในสมัยโบราณ บิดาคือวีรบุรุษในดวงใจของลูกเสมอ คือคนที่พวกนางเคารพนับถือ ที่จริงแล้วเกี๊ยวน้อยเอง ก็โหยหาในความรักและเอาใจของผู้เป็นบิดาเช่นกัน

คงต้องหาพ่อใหม่ให้พวกนางจริงๆ จะได้เติมเต็มความคาดหวังของพวกนาง...

“ว้าว—— “ซาลาเปาที่อยู่ในอ้อมกอดของเซียงอวี้ ดวงตาเป็นประกายอย่างคาดหวัง พร้อมกับอ้าปากค้าง และตั้งใจฟังคำบอกเล่าของเซียงอวี้ความคาดหวังที่มีต่อกู้โม่หานกำลังงอกเงยออกมาเงียบๆ

หนานหว่านเยียนไม่ได้รู้สึกหวั่นไหว แต่ต้องยอมรับว่าสิ่งที่เซียงอวี้เล่ามา ในฐานะ “เทพแห่งสงคราม” ของกู้โม่หาน เหมาะสมกับเขามาก

จู่ๆ ซาลาเปาก็กัดริมฝีปากแน่น แล้วแอบมองไปทางหนานหว่านเยียน “ท่านแม่ เขาเก่งถึงเพียงนั้นจริงๆ หรือ?”

หนานหว่านเยียนนิ่งคิดอยู่สักพัก แล้วหรี่ตาลง “ก็พอใช้ได้”

ถ้าไม่ทรมานนางด้วยการให้นั่งบนหลังม้า นางอาจจะประเมินเขาสูงกว่านี้

นางไม่ทันได้สังเกตเห็น ถึงท่าทีของซาลาเปากับเกี๊ยวน้อยที่เปลี่ยนไปหลังจากได้ยินคำตอบ ในใจกำลังบ่นว่ากู้โม่หาน

เก่งกาจแล้วอย่างไร เขาก็ยังเป็นพวกชอบใช้ความรุนแรงในครอบครัวอยู่ดี

ปกป้องชาติบ้านเมืองถือว่าน่านับถือ แต่อยู่ในเรือนกลับดุด่าทำร้ายภรรยา ก็ถือว่าไม่ใช่คนดี!

เซียงอวี้สังเกตปฏิกิริยาของสามแม่ลูกอยู่ตลอด

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใด นางรู้สึกว่าท่าทีของหนานหว่านเยียนพอพูดถึงกู้โม่หานนั้นดูอ่อนโยนขึ้นเล็กน้อย แต่คุณหนูทั้งสองเห็นได้ชัดว่าเริ่มหวั่นไหวแล้ว

นางรู้สึกโล่งใจ ถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไป บางทีท่านอ๋องกับพระชายาอาจจะสามารถอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขได้...

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้