เช้าวันรุ่งขึ้น
เซียงอวี้ตื่นขึ้นมาจากความฝันด้วยท่าทางสะลึมสะลือ แต่กลับพบว่าตนเองกำลังนอนอยู่บนเตียงโดยมีผ้าห่มคลุมอยู่ นางรู้สึกงุนงงไปสักพัก จากนั้นก็ลุกขึ้นไปทำหน้าที่รับใช้หนานหว่านเยียน
นางเดินออกจากห้อง แต่กลับไม่ทันได้สังเกตว่าอวี๋เฟิงกำลังแอบกลืนน้ำลายอยู่ตรงมุมห้อง ใบหน้าของเขาแดงจัด
โชคดีที่นางไม่เห็น ไม่เช่นนั้นเขาคงโดนเข้าใจผิดอีกแน่!
ตอนที่หนานหว่านเยียนตื่นนอน พอลืมตาขึ้นมา ก็เห็นสองใบหน้ากลมนุ่มนิ่มปรากฏตรงหน้า กำลังจ้องมองมาที่นางด้วยความดีใจ
นางเหยียดมือออกมาบีบแก้มทั้งสองคนอย่างเอ็นดู “เหตุใดถึงตื่นเช้าเช่นนี้”
เกี๊ยวน้อยยกยิ้มจนตาหยี ก่อนจะพูดออดอ้อนหนานหว่านเยียน
“มีท่านแม่อยู่ด้วย พวกข้านอนหลับฝันดี แต่ก็อยากตื่นมาเห็นท่านแม่ผู้งดงามไม่มีใครเทียบได้เร็วๆ จึงตื่นเช้าเป็นธรรมดา”
ซาลาเปาพุ่งตัวเข้าไปในอ้อมกอดของหนานหว่านเยียน “ใช่แล้ว ท่านแม่กำลังกอดข้ากับพี่สาวไว้ มันทั้งอบอุ่น ทั้งนุ่มนิ่ม สบายมากเลยล่ะ!”
หนานหว่านเยียนยกยิ้มกว้าง แล้วใช้นิ้วถูจมูกของทั้งสองคนอย่างเอ็นดู “ปากหวานจริง ไปเรียนมาจากผู้ใดกัน”
สองพี่น้องหัวเราะชอบใจ แล้วยกยิ้มกว้าง
เซียงอวี้มาถึงหน้าประตูแลแล้วถามเสียงเบา “พระชายา ตื่นหรือยังเจ้าคะ”
เดิมทีนางยังกังวลใจ ว่าเมื่อคืนนี้หนานหว่านเยียนกลับมาแล้วหรือไม่ แต่ตอนนี้นางรู้สึกโล่งอกที่ได้ยินเสียงหัวเราะของสามแม่ลูก
หนานหว่านเยียนเอ่ยตอบอย่างอารมณ์ดี “เข้ามาได้”
เซียงอวี้เข้าไปในห้องอย่างนอบน้อม แต่พอนางเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นเสื้อผ้าของหนานหว่านเยียนที่ไม่มีเวลาเปลี่ยนของเมื่อวานนี้ ชุดกระโปรงสีแดงฉีกขาด
เซียงอวี้ระงับความประหลาดใจในแววตาไว้ ก่อนจะอุ้มซาลาเปาที่ตัวติดกับหนานหว่านเยียนขึ้นมา แล้วพูดว่า “พระชายา เมื่อวานนี้…”
เกี๊ยวน้อยเห็นท่าทางลังเลของเซียงอวี้ สีหน้าก็เต็มไปด้วยความขุ่นเคือง
“ท่านแม่! เมื่อวานนี้คนใจร้ายนั่นพาตัวท่านแม่ไปที่ใดกัน!”
เมื่อคืนเพราะนางง่วงนอน สิ่งที่หนานหว่านเยียนพูด นางจึงลืมไปทั้งหมด
ซาลาเปาที่กำลังอยู่ในอ้อมกอดของเซียงอวี้เองก็โมโหมาก ปากน้อยๆ ยู่ยี่อย่างไม่พอใจ “ใช่แล้ว! คนใจร้ายรังแกท่านแม่หรือไม่!”
แล้วยังทำให้เสื้อผ้าของท่านแม่ฉีกขาดอีกด้วย!
หนานหว่านเยียนยิ้ม “ไม่เป็นไร เมื่อวานกู้โม่หานพาแม่ไปที่ค่ายทหาร มีคนบาดเจ็บ แม่แค่ไปช่วยรักษาพวกเขา”
หลังจากพูดจบ หนานหว่านเยียนก็มองไปทางเซียงอวี้ด้วยรอยยิ้มแปลกๆ
เซียงอวี้มองไปที่หนานหว่านเยียน แล้วมั่นใจว่าไม่เป็นไรจริงๆ และในแววตาของนางก็มีนัยแอบแฝงอยู่ด้วย
นางไม่ค่อยเข้าใจ จากนั้นก็วางซาลาเปาไว้ตรงหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง แล้วหวีผมให้อย่างเบามือ
เกี๊ยวน้อยไม่เชื่อ นางจับมือของหนานหว่านเยียนแล้วพลิกไปมาเพื่อตรวจให้แน่ใจว่านางไม่ได้รับบาดเจ็บ จากนั้นวางมือบนสะโพกของนาง และแสดงสีหน้าว่า “หึ ถือว่าเขารู้ตัวเอง”
“เอาล่ะ วางใจได้! คราวหน้าถ้าเขายังกล้ามา ซาลาเปากับข้าจะจัดการเขาเอง!”
หนานหว่านเยียนอดที่จะยกยิ้มไม่ได้ นางส่ายหน้าก่อนจะบีบปลายจมูกของเด็กน้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้
ขัดใจหลายหย่าง 1. นางเอก - ก็รู้ว่าตัวเองสู้เเพ้อ๋องทุกครั้ง เเทนที่จะฝึกวิชาป้องกันตัวบ้าง เเต่ก็ไม่เห็นทำไร 2. ลูก - ก็เห็นอยู่ว่าเเม่ตัวเองทุกข์ใจที่ต้องอยู่กับอ๋อง เเทนที่จะสนับสนุนให้เลิก เเต่ยังจะให้คบกันต่อ คือพวกเอ็งจะขาดพ่อไม่ได้เลยรึไงฟะ 3. อ๋อง - รักเเต่ใช้วิธีผิด นางไม่ยอมก็ขังนางไว้ เจอผู้ชายคนไหนก็ขู่จะทำร้ายเค้า ? เป็นพระเอกที่ห่วยบัดซบ...
ใครที่คิดว่าหนานหว่านเยียนอคติเกินไป ลองย้อนไปดูสิ่งที่กู้โม่หานทำกับนางเอกในช่วงแรกๆ ว่ามันสมควรให้อภัยกันง่ายๆมั้ย...
ไม่แปลกหรอกที่นางเอกจะเกลียดกู้โม่หาน และไม่ยอมให้อภัยกู้โม่หาน ก่อนหน้านั้นหนานหว่านเยียนโดนทำร้ายทั้งกายและจิตใจมามาก โดนจับขังในเรือนเย็น ทั้งตั้งท้องลูก คลอดลูกเอง เลี้ยงเอง ข้าวที่จะกินแทบจะหาไม่ได้ พระเอกมักจะเลือกช่วยหยุนอี่โหรวก่อนนางเอกเสมอ สมควรได้รับที่สิ่งทำไว้ในอดีต นางเอกไม่ได้ทำอะไรผิดแต่โดนพระเอกกระทำมาโดยตลอด...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
กลับมาอัพเดทหน่อยจ้า..แอด,😁😁...
รออัพเดทนะคะ...
ขอเรื่อง หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...
อยากอ่านต่อค่ะ ไม่อยากให้นางเอกให้อภัยเลย ถึงแม้ว่าพระเอกจะถูกนางร้ายหลอก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า พระเอกทำร้ายนางเอกหนักหนาสาหัส ทำนางเอกตายและเกือบตายมาหลายรอบ ชอบข่มเหงบังคับจิตใจ ไหนจะเลือกช่วยนางร้ายก่อนนางเอกทุกที แล้วยังเลือกทำร้ายนางเอกเพื่อนางร้าย สมควรทิ้งมันค่ะ...