ไม่รู้ว่าทำไม อยู่ ๆ กู้โม่หานก็รู้สึกแน่นหน้าอกและหายใจถี่ขึ้น
ผ่านไปไม่นาน องค์ชายสิบสามก็พ้นขีดอันตรายแล้ว ไม่หายใจหอบอย่างทรมานอีกแล้ว แต่ร่างกายยังคงอ่อนแรง หนานหว่านเยียนจ้องมองใบหน้าเล็ก ๆ ที่อ่อนเยาว์ของเขา ในดวงตามีคลื่นสั่นไหวอย่างแรงกะพริบผ่านไป
พอสวีหว่านหยิงเห็นเช่นนี้ก็รีบหมุนตัวมา จับมือเล็ก ๆ ของเขาเอาไว้ น้ำตาร้อนผ่าวเอ่อล้นเต็มดวงตา “ดีจังเลย น้องสิบสามเจ้าไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว เมื่อกี้ทำให้พี่สะใภ้สิบตกใจแทบแย่!”
องค์ชายสิบสามยื่นมือสั้น ๆ ราวรากบัวออกไป ทำท่าทางเหมือนผู้ใหญ่คอยปลอบใจสวีหว่านหยิง
จากนั้น เขาก็เงยหน้าที่อ่อนเยาว์ขึ้นมา แล้วยิ้มให้กับหนานหว่านเยียนและกู้โม่หาน “ขอบคุณพี่สะใภ้หก ขอบคุณเสด็จพี่หกด้วยขอรับ!”
กู้โม่หานยักคิ้วเรียวราวดาบขึ้นทีหนึ่ง พยายามข่มอารมณ์ในใจลงไป แล้วตอบกลับไปอย่างเรียบเฉยประโยคหนึ่งว่า “เจ้าขอบคุณพระชายาก็พอแล้ว นางเป็นคนช่วยเจ้าไว้”
หนานหว่านเยียนมองกู้โม่หานทีหนึ่ง สายตาของทั้งคู่ประสานเข้ากันครู่หนึ่ง จากนั้นก็เคลื่อนออกไป
สถานการณ์ตรงหน้ายังดูไม่ค่อยดีนัก หวังว่ากู้โม่หานจะไม่ฉีกหน้านางนะ
พอเห็นว่าสถานการณ์เป็นแบบนี้ ในที่สุดกู้จิ่งซานก็โล่งใจไปได้เปลาะหนึ่ง ใจทั้งดวงที่แกว่งอยู่ในตอนแรกก็วางลงได้สักที
“พระชายาอี้ ตอนนี้ร่างกายของเจ้าสิบสามเป็นอย่างไรบ้าง? มีอันตรายอะไรหรือเปล่า?”
หนานหว่านเยียนจ้องมองสวีหว่านหยิงแบบความหมายแอบแฝงทีหนึ่ง จากนั้นสายตาก็ไปตกอยู่ที่ตัวองค์ชายสิบสาม ขภ
“อาการหอบหืดขององค์ชายสิบสามเป็นมาตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา พออาการกำเริบซ้ำขึ้นมาจึงค่อนข้างยากลำบาก วันนี้น่าจะเป็นเพราะตกใจตอนอยู่ในท้องพระโรง และมีความกดดันสูงก็เลยทำให้อาการกำเริบ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีทางรักษาหาย”
กู้จิ่งซานหาหมอหลวงและหมอในยุทธภพมาดูมากมาย ต่างก็พูดว่าโรคขององค์ชายสิบสามไม่มีทางเยียวยาได้แล้ว แต่ตอนนี้หนานหว่านเยียนกลับพูดมาแบบนี้ ตาเขาเป็นประกายขึ้นมาและรีบถามต่อว่า “จะรักษายังไง?”
กู้โม่หานจ้องมองหนานหว่านเยียน บนใบหน้าที่งดงามของนางสงบนิ่งเป็นอย่างมาก “ลูกจะต้องทำการรักษาองค์ชายสิบสามตามลำพัง ถึงจะสามารถเข้าใจสาเหตุที่เกิดภูมิแพ้และตัวกระตุ้นที่ทำให้อาการกำเริบได้”
“จากนั้น ตอนปกติก็ทำการรักษาอาการอักเสบไป และรักษาม้ามกระเพาะและลดเสมหะควบคู่ไปกับแพทย์แผนจีน พอรักษาไปนาน ๆ เข้า ก็จะหายขาดได้ เสด็จพ่อไม่ต้องเป็นกังวลพระทัยหรอกนะเพคะ”
หนานชิงชิงยังคุกเข่าอยู่ข้าง ๆ พอหนานหว่านเยียนมีท่าทางมั่นอกมั่นใจ และเห็นเป็นเรื่องง่าย ๆ สายตาก็เย็นชาและโหดเหี้ยมลง
นางไปหาฮองเฮาตั้งแต่เช้า แล้วเล่าเรื่องความอัปยศอดสูที่กู้โม่เฟิงต้องเจอในค่ายทหารให้กับฮองเฮาฟัง
ฮองเฮาก็โกรธเกรี้ยวขึ้นมาทันที นางจะทนเห็นลูกชายตัวเองถูกสองสามีภรรยากู้โม่หานกดขี่ได้ยังไง ดังนั้น ก็เลยเรียกตัวหนานหว่านเยียนเข้าวังมา แล้วจะข่มขู่นางสักหน่อย
แต่ว่าหนานหว่านเยียนไม่เพียงไม่ถูกสั่งสอน กลับมาทำให้ฮองเฮาต้องกลืนไม่เข้าคายไม่ออก พอมาตอนนี้แม้แต่ฮ่องเต้ยังต้องคอยเกรงใจนาง นี่มันน่ารังเกียจจริง ๆ!
สายตาของกู้จิ่งซานสั่นไหวเล็กน้อย จ้องมองไปที่หนานหว่านเยียนอย่างชื่นชมและปลาบปลื้ม
“พวกหมอหลวงในวังต่างก็พากันหาสาเหตุไม่ได้ คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้ากลับพูดอย่างมีเหตุมีผลไปหมดฌญ งั้นเจ้าก็รักษาให้เจ้าสิบสามต่อไปเถอะญฝ จะต้องรักษาเจ้าสิบสามให้หายให้ได้นะ!”
พระชายาสิบกอดองค์ชายสิบสามไว้แน่น ทั้งสองคนจ้องมองไปที่หนานหว่านเยียนอย่างไม่ละสายตา ท่าทีดูแปลกประหลาดเล็กน้อย
ในดวงตาหนานหว่านเยียนมีแววความหมายลึกซึ้งกะพริบผ่านไปเสี้ยวหนึ่ง แล้วก็มองอย่างลำบากใจไปที่ฮองเฮาที่หน้าดำคร่ำเครียดราวกับก้นหม้อ พอมองไปแวบเดียว ก็รีบชักสายตากลับมา ทำท่าทางเหมือนรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย
“เสด็จพ่อ เสด็จแม่ได้ถ่ายทอดคำสั่งออกมาแล้ว ว่าต่อไปไม่ให้ลูกทำการรักษาใครอีก ถ้าคนอื่นรู้มาเรื่องเข้า จะหาว่าลูกไม่เชื่อฟัง แล้วจะทำให้ราชวงศ์เสื่อมเสียได้ ลูก ไม่กล้าเพคะ”
ไม่กล้าเหรอ?
กู้โม่หานจ้องมองหนานหว่านเยียนทีหนึ่ง
ยังมีอะไรที่หนานหว่านเยียนไม่กล้าทำอีก? ส่วนมากเป็นการเสแสร้งทั้งนั้น
แต่ผลที่นางแสร้งทำเป็นหวาดกลัวนั้น กลับทำให้สีหน้าของฮองเฮาเดี๋ยวเขียวเดี๋ยวขาวซีด ดูย่ำแย่เหมือนกับกินหวงเหลียน(อึ่งโน้ย)เข้าไป
ทุกคำพูดที่หนานหว่านเยียนพูดออกมา หัวของนางก็จะโตขึ้นมาสามเท่า แทบอยากจะไปอุดปากอันนั้นของหนานหว่านเยียนซะ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้
ขัดใจหลายหย่าง 1. นางเอก - ก็รู้ว่าตัวเองสู้เเพ้อ๋องทุกครั้ง เเทนที่จะฝึกวิชาป้องกันตัวบ้าง เเต่ก็ไม่เห็นทำไร 2. ลูก - ก็เห็นอยู่ว่าเเม่ตัวเองทุกข์ใจที่ต้องอยู่กับอ๋อง เเทนที่จะสนับสนุนให้เลิก เเต่ยังจะให้คบกันต่อ คือพวกเอ็งจะขาดพ่อไม่ได้เลยรึไงฟะ 3. อ๋อง - รักเเต่ใช้วิธีผิด นางไม่ยอมก็ขังนางไว้ เจอผู้ชายคนไหนก็ขู่จะทำร้ายเค้า ? เป็นพระเอกที่ห่วยบัดซบ...
ใครที่คิดว่าหนานหว่านเยียนอคติเกินไป ลองย้อนไปดูสิ่งที่กู้โม่หานทำกับนางเอกในช่วงแรกๆ ว่ามันสมควรให้อภัยกันง่ายๆมั้ย...
ไม่แปลกหรอกที่นางเอกจะเกลียดกู้โม่หาน และไม่ยอมให้อภัยกู้โม่หาน ก่อนหน้านั้นหนานหว่านเยียนโดนทำร้ายทั้งกายและจิตใจมามาก โดนจับขังในเรือนเย็น ทั้งตั้งท้องลูก คลอดลูกเอง เลี้ยงเอง ข้าวที่จะกินแทบจะหาไม่ได้ พระเอกมักจะเลือกช่วยหยุนอี่โหรวก่อนนางเอกเสมอ สมควรได้รับที่สิ่งทำไว้ในอดีต นางเอกไม่ได้ทำอะไรผิดแต่โดนพระเอกกระทำมาโดยตลอด...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
กลับมาอัพเดทหน่อยจ้า..แอด,😁😁...
รออัพเดทนะคะ...
ขอเรื่อง หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...
อยากอ่านต่อค่ะ ไม่อยากให้นางเอกให้อภัยเลย ถึงแม้ว่าพระเอกจะถูกนางร้ายหลอก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า พระเอกทำร้ายนางเอกหนักหนาสาหัส ทำนางเอกตายและเกือบตายมาหลายรอบ ชอบข่มเหงบังคับจิตใจ ไหนจะเลือกช่วยนางร้ายก่อนนางเอกทุกที แล้วยังเลือกทำร้ายนางเอกเพื่อนางร้าย สมควรทิ้งมันค่ะ...