ฝ่ามือกว้างใหญ่ของกู้โม่หาน ทาทับอยู่บนมือของหนานหว่านเยียนทั้งมือ แข็งกร้าวจนทำให้นางขยับเขยื้อนไม่ได้
คิ้วหมึกของหนานหว่านเยียนขมวดขึ้น เงยหน้าขึ้นมามองเขา “ข้าหมายความว่ายังไงเหรอ? ข้าใส่ห่วงหยกนี่แล้วรู้สึกแปลก ๆ ใส่แล้วกลุ้มใจ ข้าจะแกะออก”
ไม่ใช่ของดีอะไรสักหน่อย ของที่มีความหมายว่าเป็นของแทนใจกับกู้โม่หาน นางจะใส่ไว้ทำไม!
ที่สำคัญยังเสียงดังขนาดนี้ด้วย กลุ้มใจตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ไอ้ของนี่เสียงดังจนทำให้นางยิ่งทรมานมากขึ้น
ความโกรธเคืองในดวงตาของกู้โม่หานก็ยิ่งลึกซึ้งมากขึ้น คิ้วเรียวราวดาบเคร่งขรึมขึ้น “เสด็จพ่อมีราชโองการมาแล้ว เจ้ากล้าขัดหรือ?”
ทุกการกระทำของหนานหว่านเยียนในวันนี้ ไม่มีอะไรที่ไม่แตะต้องขอบเขตของเขาเลย ซึ่งรวม ๆ กันแล้ว ก็มากพอที่จะแสดงให้เห็นถึงความเฉยเมยและความไม่แยแสที่ผู้หญิงคนนี้มีต่อเขา
บวกกับเมื่อกี้ได้ไปตำหนักอู๋ขู่มาเที่ยวหนึ่ง สภาพที่เจ็บป่วยทรุดโทรมของหยีเฟย ก็ลบเลือนไปจากสายตาเขาไม่ได้
ความโหดเหี้ยมของกู้โม่หานอยู่ ๆ ก็ยิ่งหนักหน่วงขึ้นมา
“หรือว่า เจ้าร้อนรนอยากโดนลงโทษลงมาก?”
ดวงตาสดใสของหนานหว่านเยียนเต็มไปด้วยความขัดแย้งและความต่อต้าน นางใช้แรงขัดขืนออกจากมือชายหนุ่ม มองไปทางกู้โม่หานที่ใบหน้าเย็นชาและมืดมน แล้วถามเสียงสูงขึ้น
“เสด็จพ่อมีราชโองการ มา แต่ก็ไม่ได้บอกว่าต้องใส่ตลอดเวลา เพียงแต่ใส่เป็นพิธีตอนที่เข้าไปพบพระองค์ในวัง เพื่อแสดงออกว่าข้ากับเจ้ายังเป็นสามีภรรยากันอยู่ ความรู้สึกยังไม่แตกสลาย ในจุดนี้เจ้าคิดไม่ตกหรือ?”
“และที่สำคัญนะกู้โม่หาน เจ้ากับข้าช้าเร็วก็ต้องหย่ากัน ตอนนี้จะมาแสดงเป็นลูกกตัญญูอะไรอยู่ที่นี่? เรื่องแสดงละครแบบนี้ เจ้าเข้าใจมากกว่าข้าอีกไม่ใช่เหรอ?”
นางรู้ เขาถูกความแค้นบังตาทั้งคู่เอาไว้ ตอนนี้จึงตั้งใจมาหาเรื่องนาง
เพราะว่าสำหรับเขาแล้ว ตระกูลหนานคือหนามทิ่มอก!
ดวงตาดำของกู้โม่หานกระตุกเล็กน้อย ไฟโกรธพุ่งสูงขึ้นมาถึงหัว เขาลุกพรวดพลาดขึ้นไปจับข้อมือนางเอาไว้ แล้วเอาไว้กดไว้ที่ด้านหลังศีรษะ
“เจ้ายังกล้าพูดถึงเรื่องนี้อีกหรือ?! หนานหว่านเยียน จากที่ข้าดูมา คนที่ทำลายสัญญาตามใจชอบ ล้วนเป็นคนทรยศหักหลังที่ต่ำทรามทั้งนั้น!”
“โดยเฉพาะก่อนหน้านี้ที่เจ้าเอ่ยถึงเรื่องหย่าต่อหน้าเสด็จพ่อ ถ้าไม่ใช่เพราะว่ามีจิตใจแอบแฝง ก็ไม่สามารถอธิบายการกระทำของเจ้าได้!”
พอหนานหว่านเยียนได้ยิน ก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมา
“ข้ามีจิตใจแอบแฝงเหรอ? กู้โม่หาน ทำไมข้าต้องพูดถึงเรื่องหย่าขึ้นมาล่วงหน้า? ก็เพราะเจ้าเป็นคนบีบบังคับทั้งนั้น?”
“ข้าบังคับเจ้าหรือ? แล้วเจ้าไม่ได้เป็นคนต้องการหนังสือหย่าเองหรือ? เจ้าเป็นคนทำสัญญาครึ่งปีกับข้าเองไม่ใช่หรือ? ข้ามอบหนังสือหย่าให้เจ้าแล้วด้วยซ้ำ เจ้ายังจะเสแสร้งอะไรอีก?!”
หนานหว่านเยียนถูกทำให้โมโหจนหัวเราะขึ้นมา “มอบให้ข้าแล้วยังไง? ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าบีบบังคับทุกฝีก้าว บีบข้าให้ถึงตายเพื่อผู้หญิงคนหนึ่งครั้งแล้วครั้งเล่า ข้าจะเปิดปากพูดขึ้นมาได้เหรอ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้
ขัดใจหลายหย่าง 1. นางเอก - ก็รู้ว่าตัวเองสู้เเพ้อ๋องทุกครั้ง เเทนที่จะฝึกวิชาป้องกันตัวบ้าง เเต่ก็ไม่เห็นทำไร 2. ลูก - ก็เห็นอยู่ว่าเเม่ตัวเองทุกข์ใจที่ต้องอยู่กับอ๋อง เเทนที่จะสนับสนุนให้เลิก เเต่ยังจะให้คบกันต่อ คือพวกเอ็งจะขาดพ่อไม่ได้เลยรึไงฟะ 3. อ๋อง - รักเเต่ใช้วิธีผิด นางไม่ยอมก็ขังนางไว้ เจอผู้ชายคนไหนก็ขู่จะทำร้ายเค้า ? เป็นพระเอกที่ห่วยบัดซบ...
ใครที่คิดว่าหนานหว่านเยียนอคติเกินไป ลองย้อนไปดูสิ่งที่กู้โม่หานทำกับนางเอกในช่วงแรกๆ ว่ามันสมควรให้อภัยกันง่ายๆมั้ย...
ไม่แปลกหรอกที่นางเอกจะเกลียดกู้โม่หาน และไม่ยอมให้อภัยกู้โม่หาน ก่อนหน้านั้นหนานหว่านเยียนโดนทำร้ายทั้งกายและจิตใจมามาก โดนจับขังในเรือนเย็น ทั้งตั้งท้องลูก คลอดลูกเอง เลี้ยงเอง ข้าวที่จะกินแทบจะหาไม่ได้ พระเอกมักจะเลือกช่วยหยุนอี่โหรวก่อนนางเอกเสมอ สมควรได้รับที่สิ่งทำไว้ในอดีต นางเอกไม่ได้ทำอะไรผิดแต่โดนพระเอกกระทำมาโดยตลอด...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
กลับมาอัพเดทหน่อยจ้า..แอด,😁😁...
รออัพเดทนะคะ...
ขอเรื่อง หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...
อยากอ่านต่อค่ะ ไม่อยากให้นางเอกให้อภัยเลย ถึงแม้ว่าพระเอกจะถูกนางร้ายหลอก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า พระเอกทำร้ายนางเอกหนักหนาสาหัส ทำนางเอกตายและเกือบตายมาหลายรอบ ชอบข่มเหงบังคับจิตใจ ไหนจะเลือกช่วยนางร้ายก่อนนางเอกทุกที แล้วยังเลือกทำร้ายนางเอกเพื่อนางร้าย สมควรทิ้งมันค่ะ...