แต่หนานฉีซานนั้น จำเป็นจะต้องตาย!
หนานหว่านเยียนถูกเขาจับจนรู้สึกเจ็บ จึงพยายามขัดขืนออกจากการผูกมัดของกู้โม่หาน นางเห็นในดวงตาลึก ๆ ของเขามีเปลวไฟแห่งความหวังเล็ก ๆ จุดประกายอยู่ “ให้ข้าดูก่อน”
“ไม่ได้นะ!” หวางหมัวมัวตื่นเต้นไม่หยุด ในดวงตามีความเกลียดอยู่มหาศาล “อย่ามาทำให้ร่างกายพระสนมของเราสกปรกนะ!”
หนานหว่านเยียนจ้องมองนางทีหนึ่ง “ข้าเป็นหมอ ท่านอ๋องของพวกเจ้าเป็นพยานได้”
ท่าทีของหวางหมัวมัวหยุดนิ่งไป จากนั้นก็รีบมองไปที่กู้โม่หานทันที ในดวงตาชายหนุ่มก็มีแววโชคดีแอบแฝงอยู่เล็กน้อย “หมัวมัว ให้นางลองดูหน่อย”
หวางหมัวมัวยิ่งสั่นเทาขึ้นมา แล้วมองไปที่หนานหว่านเยียน
หรือว่า ยัยชั่วนี่จะมีวิธีจริง ๆ เหรอ?
ถ้าพระสนมถูกช่วยกลับมาได้จริง ๆ…….
หนานหว่านเยียนเองก็ไม่เสียเวลาอีกต่อไป ก้มลงไปก็ตรวจชีพจรให้หยีเฟยเลย แต่คิ้วหมึกดำกลับยิ่งขมวดกันแน่นขึ้น
ครู่เดียว ในใจนางก็ได้ผลแล้ว
สิบปี สำหรับเจ้าหญิงนิทราคนหนึ่งแล้ว ส่วนใหญ่ก็ไม่มีทางหายกลับมาเป็นปกติได้แล้ว
คนส่วนใหญ่หลังจากหกเดือนไปแล้วก็ไม่มีทางหายแล้ว ผู้ป่วยแบบหยีเฟยนี้ช่างหาได้ยากจริง ๆ
และที่สำคัญตอนนี้นางก็ไม่มีอุปกรณ์ขั้นสูง จึงยิ่งมีทางเสี่ยงทำการรักษาแน่
นางชักมือกลับมา จ้องมองไปทางกู้โม่หาน “ขอโทษด้วย ข้าช่วยไม่ได้”
กู้โม่หานนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง แสงสลัดจาง ๆ ในดวงตาถูกดับลงไปทันที จากนั้นก็หัวเราะเยาะขึ้นมาคำหนึ่ง “ช่วยไม่ได้……”
ใช่ซิ เขากำลังคาดหวังอะไรอยู่นะ
ท่านแม่ ไม่มีทางกลับมาได้ตั้งนานแล้วนี่
หวางหมัวมัวคาดคิดไว้หมดแล้ว
หลายปีมานี้ ท่านอ๋องเขาค้นหาทั่วทิศในยุทธภพ หาหมอเทวดามาได้ไม่น้อย พอทุกคนมาดูแล้วต่างก็ส่ายหน้าและพึมพำขึ้นว่า “สภาพอย่างหยีเฟยเหนียงเหนียง ชาตินี้คงไม่มีทางตื่นขึ้นมาได้แล้ว และที่สำคัญร่างกายก็ทรุดโทรม คาดว่า คงจะไม่ไหวแล้วมั้ง……”
กู้โม่หานไม่ได้หันไปมองหนานหว่านเยียนเลยสักนิด แล้วพูดขึ้นแบบความหวังพังทลายไปหมดแล้วว่า “ออกไป”
หนานหว่านเยียนขมวดคิ้วขึ้น ตอนนี้นางทำไม่ได้จริง ๆ แต่ขอแค่ห้วงเวลาได้เลื่อนลำดับขึ้น ถึงนางจะไม่สามารถทำให้หยีเฟยกลับไปเป็นเหมือนเมื่อก่อนได้ แต่การพยายามทำให้หยีเฟยตื่นขึ้นมาได้นั้น ก็น่าจะทำได้อยู่
“ถ้าเจ้าเชื่อใจข้า หรือว่าให้เวลาข้าเพิ่มอีกหน่อย ข้าน่าจะสามารถลองดูได้……”
กู้โม่หานกลับไม่อยากได้ยินข่าวคราวอะไรที่เกี่ยวกับแม่ของเขา จากปากหนานหว่านเยียนอีกแล้ว “ไสหัวไป!”
ในเมื่อช่วยกลับมาไม่ได้ งั้นก็ไม่ต้องพูดจาไร้สาระมากขนาดนั้น!
หนานหว่านเยียนถูกเขาตวาดจนสะดุ้ง สุดท้ายก็กัดฟันไม่พูดอะไร สะบัดมือแล้วก็จากไปแบบไม่หันกลับไปมองอีกเลย
ปัจจัยไปครบ คนเก่งแค่ไหนก็ไม่แน่ว่าจะสำเร็จ ตอนนี้นางไม่มีปัญญาจริง ๆ ถ้าทำตามจรรยาบรรณในวิชาชีพนางก็ไม่สามารถให้คำมั่นสัญญาอะไรกับกู้โม่หานได้ง่าย ๆ นางเป็นหมอ ไม่ได้เป็นนักโทษ
หนานหว่านเยียนออกไปจากห้องนอนโดยการต้านทานสายตาที่โกรธเกลียดของคนทั้งกลุ่ม เงยหน้าขึ้นมาดูท้องฟ้าที่กว้างใหญ่ แล้วรู้สึกสับสนมากมาย
ตั้งแต่ที่นางมาถึงโลกใบนี้ จากสายตาของคนทุกคน แม้แต่หายใจนางก็ยังผิดเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้
ขัดใจหลายหย่าง 1. นางเอก - ก็รู้ว่าตัวเองสู้เเพ้อ๋องทุกครั้ง เเทนที่จะฝึกวิชาป้องกันตัวบ้าง เเต่ก็ไม่เห็นทำไร 2. ลูก - ก็เห็นอยู่ว่าเเม่ตัวเองทุกข์ใจที่ต้องอยู่กับอ๋อง เเทนที่จะสนับสนุนให้เลิก เเต่ยังจะให้คบกันต่อ คือพวกเอ็งจะขาดพ่อไม่ได้เลยรึไงฟะ 3. อ๋อง - รักเเต่ใช้วิธีผิด นางไม่ยอมก็ขังนางไว้ เจอผู้ชายคนไหนก็ขู่จะทำร้ายเค้า ? เป็นพระเอกที่ห่วยบัดซบ...
ใครที่คิดว่าหนานหว่านเยียนอคติเกินไป ลองย้อนไปดูสิ่งที่กู้โม่หานทำกับนางเอกในช่วงแรกๆ ว่ามันสมควรให้อภัยกันง่ายๆมั้ย...
ไม่แปลกหรอกที่นางเอกจะเกลียดกู้โม่หาน และไม่ยอมให้อภัยกู้โม่หาน ก่อนหน้านั้นหนานหว่านเยียนโดนทำร้ายทั้งกายและจิตใจมามาก โดนจับขังในเรือนเย็น ทั้งตั้งท้องลูก คลอดลูกเอง เลี้ยงเอง ข้าวที่จะกินแทบจะหาไม่ได้ พระเอกมักจะเลือกช่วยหยุนอี่โหรวก่อนนางเอกเสมอ สมควรได้รับที่สิ่งทำไว้ในอดีต นางเอกไม่ได้ทำอะไรผิดแต่โดนพระเอกกระทำมาโดยตลอด...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
กลับมาอัพเดทหน่อยจ้า..แอด,😁😁...
รออัพเดทนะคะ...
ขอเรื่อง หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...
อยากอ่านต่อค่ะ ไม่อยากให้นางเอกให้อภัยเลย ถึงแม้ว่าพระเอกจะถูกนางร้ายหลอก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า พระเอกทำร้ายนางเอกหนักหนาสาหัส ทำนางเอกตายและเกือบตายมาหลายรอบ ชอบข่มเหงบังคับจิตใจ ไหนจะเลือกช่วยนางร้ายก่อนนางเอกทุกที แล้วยังเลือกทำร้ายนางเอกเพื่อนางร้าย สมควรทิ้งมันค่ะ...