ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 181

ร่างกายของเขายิ่งอึดอัดทรมานมากขึ้นเรื่อย ๆ แม้กระทั่งเรี่ยวแรงที่จะใช้พูดก็เริ่มอ่อนระโหยลงไปทุกขณะ

"สมน้ำหน้าเจ้าแล้วล่ะ!" หนานหว่านเยียนไม่ทันสังเกตเห็นว่าเขามีอาการเจ็บที่หัวใจ เงื้อเท้าข้างหนึ่งขึ้นได้ก็เตะใส่เขาอย่างแรง แต่กู้โม่หานไม่มีกำลังที่จะต่อต้านเลยแม้แต่น้อย จึงทรุดตัวล้มลงไปข้าง ๆ ทันที

ชั่วขณะนี้เอง น้ำเสียงที่แสดงถึงความเคารพของคนขับรถม้าก็ดังขึ้นจากด้านนอก "ท่านอ๋อง ถึงแล้วขอรับ"

ถึงเร็วขนาดนี้เลยเชียวรึ?

เวลาที่ใช้ในการลงโทษผู้ชายชั่ว ๆ มักสั้นเสมอ

หนานหว่านเยียนไม่แม้แต่จะชายตามองเขาเลยแม้แต่แวบเดียว ตั้งใจว่าจะจากไปทั้งอย่างนั้น

แต่กู้โม่หานกลับฝืนกัดฟันอย่างแรง แล้วเหยียดขาออกมาเพื่อขวางทางไม่ให้นางไป

“แก้พิษ.....ให้ข้าก่อน!”

ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าผู้หญิงคนนี้วางยาพิษอะไรใส่เขา ตอนนี้แม้แต่การเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อย เขาก็ยังรู้สึกเจ็บปวดทรมานไปทั้งเนื้อทั้งตัว ราวกับว่าอวัยวะภายในตันทั้งห้า อวัยวะกลวงทั้งหกของเขาถูกใครสักคนบิดไปมาไม่หยุด นับตั้งแต่วินาทีที่นางห่างออกไป ที่หัวใจรู้สึกสบายขึ้นมาก แต่กลับหยัดตัวลุกขึ้นไม่ไหว ไม่มีแรงจะลงรถเอง

ดวงตาสุกสกาวดั่งดวงดาวระยับแสงของหนานหว่านเยียน ซุกซ่อนความเกลียดชังเย็นชาไว้ลึก ๆ นางแสร้งทำเป็นล้วงกระเป๋า จากนั้นทำท่ายื่น "ขวดอากาศ" ใบหนึ่งไปให้กู้โม่หาน แล้วพูดว่า "เอ้า! เอาหรือไม่?"

กู้โม่หานถูกนางปั่นหัวยั่วประสาทไปยกหนึ่ง จึงพูดด้วยน้ำเสียงที่กรุ่นโกรธพลุ่งพล่านว่า "นี่เจ้าเห็นข้าเป็นคนโง่อย่างนั้นรึ?!"

หนานหว่านเยียนก็ไม่มีท่าทีหงุดหงิดรำคาญใจ แค่มองเขาอยู่อย่างนั้น เห็นเขาได้แต่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่างดุดันเคืองแค้น แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรนางได้

สะใจ! สะใจจริง ๆ!

"มีใครที่ขอร้องคนอื่นด้วยท่าทางอวดเบ่งเสียเต็มประดาแบบนี้ด้วยรึ? ช่างไร้มารยาทเสียจริง ไม่อยากได้สินะ? ถ้าไม่อยากได้ก็ช่างเถอะ เชิญนั่งโง่ ๆ อยู่ที่นี่ไปก็แล้วกัน!"

พูดจบ นางก็เลิกผ้าม่านขึ้นแล้วจากไปทันที

สภาพของกู้โม่หานประดุจดั่งหัวรถจักรก็ไม่ปาน สีหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธเกรี้ยว บนหัวแทบจะผุดควันสีเขียวลอยโขมงออกมาให้ได้แล้ว ทั้งร้อนใจทั้งหงุดหงิด แต่กลับไม่สามารถขยับเขยื้อนร่างกายได้เลยแม้แต่น้อย ทำได้แค่นั่งอยู่ในรถม้า แล้วจ้องตาเขม็งมองดูเงาแผ่นหลังที่ค่อย ๆ ห่างออกไปทุกขณะของหนานหว่านเยียน

เขากำหมัดแน่น จู่ ๆ ก็ผุดความรู้สึกอยากจะเอาชนะนางขึ้นมาอย่างอธิบายไม่ถูก แต่ทันใดนั้น หัวใจของเขาก็เกิดอาการเจ็บจี๊ดขึ้นมาอีกครั้ง กู้โม่หานกัดฟันกรอด นึกสงสัยว่าหนานหว่านเยียนวางยาพิษอะไรใส่เขากันแน่? ทำไมมันถึงทำให้เขารู้สึกทรมานได้ขนาดนี้!

ทันใดนั้นเอง เขาก็นึกถึงกล่องผ้าในอ้อมแขนของเขาขึ้นมาได้ มุมปากพลันยกยิ้มเย็นชา

ผ่านไปอีกสักพัก เขาก็จะช่วงชิงเวลาแบบทุกเสี้ยววินาทีที่มี เพื่อไปตรวจสอบประวัติภูมิหลังของเด็กผู้หญิงทั้งสองคนโดยตรง!

เมื่อถึงตอนนั้นแล้ว ค่อยมาดูกันว่าหนานหว่านเยียนจะยังหยิ่งยโสได้อยู่อีกไหม!

ในจวนอ๋องเวลานี้ หยุนอี่ว์โหรวกำลังนั่งจิบชาอยู่ที่โต๊ะน้ำชา

ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า "สิ่งน่าประหลาดใจ" ที่นางเตรียมเอาไว้ให้หนานหว่านเยียนนั้น อีกฝ่ายจะได้รับแล้วหรือไม่

เชี่ยนปี้วิ่งลนลานเข้ามาด้วยสีหน้าตื่นตระหนก แล้วตรงดิ่งไปกระซิบบางอย่างที่ข้างหูของนาง

สีหน้าของหยุนอี่ว์โหรวมืดทะมึนลงทันที กระแทกถ้วยชาในมือเข้าใส่บานหน้าต่าง ทำให้ชิ้นส่วนถ้วยชาลายครามแตกกระจายเกลื่อนพื้น

เมื่อครู่นี้ เชี่ยนปี้เห็นจากที่ไกล ๆ ว่ารถม้าของกู้โม่หานกับหนานหว่านเยียนกลับมาแล้ว นางยังไปแอบจับตามองด้วย จนพบว่าไม่เพียงแต่ทั้งคู่จะปลอดภัยไร้เรื่องราวเท่านั้น กระทั่งหนานหว่านเยียนก็ยังดูสดชื่นมีชีวิตชีวาเต็มเปี่ยม ไม่เหมือนคนที่ได้รับความน้อยเนื้อต่ำใจอะไรเลยสักนิด

ดังนั้นนางจึงรีบวิ่งลนลานมาหาหยุนอี่ว์โหรว แล้วเล่าเรื่องนี้ให้นางฟัง

หยุนอี่ว์โหรวกัดฟันกรอด ๆ จนแทบละเอียดเป็นผุยผง จิกกำแขนเสื้อจนแน่น มองไปยังเศษซากที่เกลื่อนกระจายบนพื้นด้วยสายตาเย็นชา บวกกับอารมณ์ที่โกรธเกรี้ยว ก่อนจะเค้นคำพูดสามสี่คำลอดไรฟันออกมาว่า "ยังไม่ตายอีกรึ?"

"นางมีความสามารถที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้เลยเชียวรึ? หรือควรจะพูดว่า ข้าประเมินหนานชิงชิงสูงเกินไปดี? กระทั่งนางผู้หญิงชั้นต่ำตัวเล็กกระจ้อยร้อยคนเดียวก็ยังจัดการไม่ได้!"

เดิมทีนางคิดจะใช้วิธียืมดาบฆ่าคน แล้วนั่งบนภูดูเสือกัดกัน แต่คิดไม่ถึงว่าหนานหว่านเยียนจะหนีรอดไปได้อีกแล้ว (* เป็นสุภาษิตจีน มีความหมายว่านั่งดูทั้งสองฝ่ายสู้รบกันเอง รอจนทั้งสองฝ่ายเพลี่ยงพล้ำแล้ว ค่อยเข้าไปเก็บเกี่ยวผลประโยชน์แบบที่ไม่ต้องเปลืองแรง)

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้