หนานหว่านเยียนยังอารมณ์ดีอยู่ แต่เห็นกู้โม่หานก็หมดอารมณ์ทันที
นางหรี่ตามองกู้โม่หานอย่างไม่สบอารมณ์
“ข้ามีสิทธิเสรีภาพในการเคลื่อนไหว จะไปไหนก็ได้ ไม่เกี่ยวกับเจ้า?”
ว่าแล้ว นางก็หันไปมองเสิ่นอี่ร์ที่อยู่ข้างกู้โม่หาน ยิ้มให้กับเสิ่นอี่ร์: “เจ้าเป็นยังไงแล้วบ้าง?”
เสิ่นอี่ร์ยกมือคารวะหนานหว่านเยียน: “เพราะพระชายา ตอนนี้ข้าน้อยหายดีแล้ว ขอบพระคุณพระชายาที่ช่วยข้าน้อยเอาไว้”
หนานหว่านเยียนปัดมือ พูดด้วยรอยยิ้มว่า “หายดีแล้วก็ดีแล้วล่ะ”
เห็นหนานหว่านเยียนมองเขาด้วยสายตาเย็นชา แต่กลับยิ้มให้กับเสิ่นอี่ร์อย่างสดใส กู้โม่หานรู้สึกรำคาญใจมาก
เขารู้ว่าหนานหว่านเยียนโกรธเขา เพราะยังไงเมื่อวานก็เพิ่งทะเลาะกันมา ดังนั้นเขาก็เลยหันไปมองเด็กสองคนแล้วพูดอย่างอ่อนโยนว่า “เกี๊ยวน้อยซาลาเปาน้อย ท่านแม่จะพาพวกเจ้าไปไหนเหรอ?”
เด็กสองคนกลับไม่สนใจเขา แล้วเอาขนมหวานออกมา ยิ้มแล้วยัดไปที่มือของเสิ่นอี่ร์
“พี่เสิ่นอี่ร์ อันนี้ให้พี่เจ้าค่ะ กินเยอะๆนะเจ้าคะ!”
ว่าแล้ว เกี๊ยวน้อยก็ตั้งใจเหลือบมองกู้โม่หาน เบะปากให้เขาอย่างไม่พอใจ ทำหน้าบึ้งให้เขา
เสิ่นอี่ร์รับไว้อย่างเขินอาย เกาหัวแล้วไว้ในกระเป๋า “ขอบคุณคุณหนูสองท่านขอรับ”
กู้โม่หานมองเสิ่นอี่ร์ที่รับเอาไว้อย่างไม่อยากจะเชื่อ แล้วมองเสิ่นอี่ร์ที่ยิ้มให้กับสามแม่ลูกอย่างสดใส
สามแม่ลูกพูดดีกับเสิ่นอี่ร์มากซึ่งแตกต่างจากเขามาก กู้โม่หานเหมือนถูกหนามทิ่มแทงหัวใจ ไม่เพียงแต่เจ็บเท่านั้น ยังปวดด้วย
เขาเอาความโกรธไปลงที่อวี๋เฟิง “ข้าถามเจ้า พวกนาง จะไปไหน?!”
ถ้าหนานหว่านเยียนพาเด็กสองคนหนีไป เขาจะขังหนานหว่านเยียนไว้ ไม่ให้เจอใครทั้งนั้น!
อวี๋เฟิงได้ยินแล้ว กลอกตามองบนแกล้งสลบ
ถ้าเขาพูดคงได้ตายจริงแน่ ไม่พูดก็ตายเหมือนกัน แต่ยังไงก็ยังได้อยู่บนโลกนี้ต่อ
อวี๋เฟิงแกล้งตาย เด็กสองคนก็แอบปิดปากหัวเราะด้านหลังหนานหว่านเยียน พูดคุยกับเสิ่นอี่ร์อย่างสนุกสนาน
กู้โม่หานก็รู้สึกโมโห ความรู้สึกไม่พอใจครอบงำจิตใจ
สายตาของเขาเหมือนมีด ทิ่มแทงเสิ่นอี่ร์ที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง น้ำเสียงเย็นชา แล้วลากคอเสื้อเขาออกไปด้านนอก “พูดอะไรเยอะ ไป!”
“ท่าน ท่านอ๋อง……” เสิ่นอี่ร์เกือบโดนกู้โม่หานรัดคอจนหายใจไม่ออก เขามองหนานหว่านเยียนอย่างตกใจ เหมือนไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิด ทำไมท่านอ๋องถึงโกรธขนาดนี้
กู้โม่หานลากเขาออกจากจวน แล้วเดินไปทางตะวันตก
ภายในจวน อวี๋เฟิงยังแกล้งตายอยู่บนพื้น หนานหว่านเยียนมองเขาอย่างเหนื่อยใจ “หมอนั่นไปแล้ว เจ้ายังไม่ลุกขึ้นอีก?”
อวี๋เฟิงก็แอบลืมตามองข้างๆ แน่ใจว่าไม่เห็นกู้โม่หานแล้ว ก็ถึงกระเด้งตัวขึ้นมา ถอนหายใจแล้วพูดกับหนานหว่านเยียนว่า “ท่านอ๋องแข็งแกร่งมากจริงๆ ข้าน้อยละอายใจนัก”
จากนั้น เขาก็เห็นสองพี่น้องแอบยกนิ้วโป้งให้เขา แล้วยิ้มอย่างดีใจ
อวี๋เฟิงแอบพูดในใจ: ครั้งหน้าถึงตายเขาก็จะไม่ยอมช่วยคุณหนูสองท่านแล้ว ขอร้อง ขอร้องเถอะ!
หนานหว่านเยียนไม่คิดอะไร อารมณ์ดี แล้วพาเด็กสองคนออกจากจวนอย่างดีอกดีใจ เดินไปยังทิศทางตรงกันข้ามกับกู้โม่หาน
นี่เป็นครั้งแรกที่นางได้มาเดินเที่ยวอย่างจริงจังหลังจากที่มาถึงซีเหย่ และยังมีเด็กสองคนนำทางไปด้วย ในใจก็รู้สึกดีใจมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้
ขัดใจหลายหย่าง 1. นางเอก - ก็รู้ว่าตัวเองสู้เเพ้อ๋องทุกครั้ง เเทนที่จะฝึกวิชาป้องกันตัวบ้าง เเต่ก็ไม่เห็นทำไร 2. ลูก - ก็เห็นอยู่ว่าเเม่ตัวเองทุกข์ใจที่ต้องอยู่กับอ๋อง เเทนที่จะสนับสนุนให้เลิก เเต่ยังจะให้คบกันต่อ คือพวกเอ็งจะขาดพ่อไม่ได้เลยรึไงฟะ 3. อ๋อง - รักเเต่ใช้วิธีผิด นางไม่ยอมก็ขังนางไว้ เจอผู้ชายคนไหนก็ขู่จะทำร้ายเค้า ? เป็นพระเอกที่ห่วยบัดซบ...
ใครที่คิดว่าหนานหว่านเยียนอคติเกินไป ลองย้อนไปดูสิ่งที่กู้โม่หานทำกับนางเอกในช่วงแรกๆ ว่ามันสมควรให้อภัยกันง่ายๆมั้ย...
ไม่แปลกหรอกที่นางเอกจะเกลียดกู้โม่หาน และไม่ยอมให้อภัยกู้โม่หาน ก่อนหน้านั้นหนานหว่านเยียนโดนทำร้ายทั้งกายและจิตใจมามาก โดนจับขังในเรือนเย็น ทั้งตั้งท้องลูก คลอดลูกเอง เลี้ยงเอง ข้าวที่จะกินแทบจะหาไม่ได้ พระเอกมักจะเลือกช่วยหยุนอี่โหรวก่อนนางเอกเสมอ สมควรได้รับที่สิ่งทำไว้ในอดีต นางเอกไม่ได้ทำอะไรผิดแต่โดนพระเอกกระทำมาโดยตลอด...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
กลับมาอัพเดทหน่อยจ้า..แอด,😁😁...
รออัพเดทนะคะ...
ขอเรื่อง หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...
อยากอ่านต่อค่ะ ไม่อยากให้นางเอกให้อภัยเลย ถึงแม้ว่าพระเอกจะถูกนางร้ายหลอก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า พระเอกทำร้ายนางเอกหนักหนาสาหัส ทำนางเอกตายและเกือบตายมาหลายรอบ ชอบข่มเหงบังคับจิตใจ ไหนจะเลือกช่วยนางร้ายก่อนนางเอกทุกที แล้วยังเลือกทำร้ายนางเอกเพื่อนางร้าย สมควรทิ้งมันค่ะ...