ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 204

ประโยคนี้ ราวกับลำแสงพุ่งเข้ามาท่ามกลางความมืดมิด ทะลุผ่านหัวใจอันขุ่นมัวของกู้โม่หาน

ดวงตาอันไร้ชีวิตชีวาของเขา กลับมีประกายไฟแห่งความหวังผุดขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง

ชายหนุ่มหันกลับมาด้วยความตื่นเต้น มือจับไปที่ไหล่ของหนานหว่านเยียนทั้งสองข้าง

“เจ้าพบอะไรงั้นหรือหนานหว่านเยียน เจ้าสามารถช่วยเสด็จแม่ได้หรือ?”

ดวงตาของหนานหว่านเยียนประสานกับดวงตาของกู้โม่หาน หัวใจของนางสั่นคลอน

นี่เป็นครั้งแรกที่นางเห็นน้ำตาของกู้โม่หาน ช่างดูน่าสงสารเหลือเกิน

คิ้วอันได้รูปของกู้โม่หานขมวดเข้าหากันแน่น เนื่องจากถูกทิ่มแทงใจ ความเศร้าโศกยังคงปรากฏอยู่บนใบหน้า จมูกเป็นสันแดงเรื่อเนื่องจากการร้องไห้เมื่อครู่ มิว่าผู้ใดเห็นเข้าก็คงรู้สึกเห็นอกเห็นใจ

กู้จิ่งซานเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “พระชายาอี้กล่าวเช่นนี้ด้วยเหตุใด?”

อ๋องเฉิงและหนานชิงชิงต่างมองไปที่หนานหว่านเยียน

หนานชิงชิงกำมือแน่น หนานหว่านเยียน อย่าได้มาทำลายแผนการดีๆ ของนางได้หรือไม่!

หนานหว่านเยียนสงบลงแล้วกล่าวด้วยความเคารพว่า “ทูลเสด็จพ่อ เมื่อครู่ลูกลองดูอาการแล้ว นี่เป็นสัญญาณของโรคปอดบวม เนื่องจากชีพจรของเสด็จแม่ที่อ่อนแอ และมิอาจลงจากเตียงได้เป็นเวลานาน จึงทำให้เกิดอาการเลือดคลั่งที่ปอด”

“อาการเจ็บป่วยเช่นนี้จะส่งผลให้เป็นไข้หายใจลำบาก ด้วยเหตุนี้เสด็จแม่จึงมีไข้สูงมิลด”

ตามที่หมอหลวงกล่าว สิ่งที่นางสังเกตเห็นได้ อาการของหยีเฟยชี้ไปในทิศทางเดียว นางจึงได้กล้าเอ่ยประโยคนี้ออกมา

ถึงอย่างไรนางก็เป็นหมอ จะทนเห็นคนไข้ที่ถูกหมอวินิจฉัยโรคผิดแล้วล้มเลิกการรักษาได้อย่างไร

อีกอย่าง หยีเฟยจะตายมิได้

อย่างน้อยนางจะตายก่อนที่กู้โม่หานหย่าร้างกับนางมิได้

หัวใจของกู้โม่หานขึ้นๆ ลงๆ ราวกับกำลังนั่งรถไฟเหาะผาดโผน “ปอดบวมงั้นหรือ รักษายากหรือไม่?”

หนานหว่านเยียนมิได้ตอบสิ่งใดออกมา หมอหลวงกล่าวขึ้นว่า “ถูกต้องแล้ว สิ่งที่พระชายาอ๋องกล่าวถูกต้องทุกประการ มีไข้ขึ้นสูงมิลด หายใจยากลำบาก เป็นไปตามนั้น”

แม้ทุกคนจะมิรู้ว่าโรคปอดบวมคืออะไร แต่ดูเหมือนหลังจากที่ได้ยินหมอหลวงเจียงกล่าวแล้ว ทุกอย่างก็ตรงกัน

คิดมิถึงว่าหนานหว่านเยียนเพียงเหลือบมองดูชั่วครู่ก็สามารถสรุปผลการวินิจฉัยได้ ทำให้ทุกคนอดมิได้ที่จะรู้สึกประหลาดใจ นางต้องเก่งกาจเพียงไรกัน?

ฮองเฮาและกู้โม่เฟิงแววตาแข็งทื่อ มองไปทางหนานหว่านเยียนอย่างเหลือเชื่อคลุมเครือ

หนานชิงชิงเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย นางมีความเหยียดหยามเยาะเย้ยอยู่ในใจ

ก็เพียงแค่คนที่นอนรอความตาย หนานหว่านเยียนจะทำอะไรได้อีกเล่า?

กู้โม่หานคว้ามือหนานหว่านเยียนเอาไว้ ราวกับเห็นฟางเส้นสุดท้ายในชีวิต สายตาจับจ้องไปที่นางด้วยความเคร่งขรึมอย่างมิเคยเป็นมาก่อน

“เจ้ามีวิธีรักษาเสด็จแม่ใช่หรือไม่ ช่วยนางเถิด ข้าขอร้อง”

หนานหว่านเยียนมองไปที่เขายังมิกล้าตอบตกลงง่ายๆ

เนื่องจากผู้ที่นอนติดเตียงมักจะเป็นโรคนี้ได้ง่าย มิใช่ว่ายากจะรักษา เพียงแต่นางมิรู้ว่าสภาพร่างกายของหยีเฟยบัดนี้เป็นเช่นไร อีกทั้ง......

การที่กุ้ยเฟยคนหนึ่งต้องล้มหมอนนอนเสื่อมาอยู่สิบกว่าปี ก่อนที่นางจะสิ้นใจกลับมีผู้คนมากมายมาส่งนาง อีกทั้งฮ่องเต้ยังเกรงว่าไทเฮาจะเศร้าโศกเพราะเรื่องนี้

สัญญาณทั้งหลายบ่งชี้ได้ว่าตัวตนของหยีเฟยมิธรรมดา บางทีอาจมีส่วนได้ส่วนเสียอยู่เบื้องหลัง

หากว่านางทำพลาดละก็ หยีเฟยตาย คนต่อไปที่จะตายก็คือนาง......

กู้จิ่งซานมองไปทางหนานหว่านเยียน “ในเมื่อพระชายาอี้กล่าวเช่นนี้ ก็เชิญเจ้าตรวจดูอาการให้แก่หยีเฟยเถิดว่าเกิดอะไรขึ้น”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้