ในมิช้าทั้งสามคนก็เดินทางมาถึงตำหนักอู๋ขู่
เมื่อยืนอยู่ด้านนอกตำหนักอู๋ขู่ หนานหว่านเยียนก็สามารถสัมผัสได้ถึงความกดอากาศต่ำในห้อง
นางดึงเสื้อผ้าที่สวมใส่เข้ามาให้แนบชิด ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าเสื้อคลุมด้านนอกนี้เป็นของกู้โม่หาน
กู้โม่หานมิได้กล่าวสิ่งใด เขารีบเดินตรงเข้าไปในตำหนักอู๋ขู่อย่างรวดเร็ว
หนานหว่านเยียนก็เดินๆ ตามเขาไปด้วย
บัดนี้ภายในห้องบรรทม มีผู้คนมากมายยืนอยู่
ใบหน้าของกู้จิ่งซานดูเคร่งขรึม ฮองเฮายืนอยู่ข้างกายเขาด้วยท่าทางอันซับซ้อน
เมื่อนึกย้อนไปในวังหลัง มีเพียงสตรีนางนี้เท่านั้นที่กล้าโต้แย้งกับนาง ทะเลาะกันไปมาทุกๆ วัน
บัดนี้หยีเฟยนอนอยู่บนเตียงมาสิบกว่าปี จู่ๆ หากจะจากไป ก็ทำให้รู้สึกอึดอัดใจเล็กน้อย......
สวีหว่านหยิงและองค์ชายสิบยืนเงียบ ดวงตาแดงเรื่อ
อ๋องเฉิงและพระชายา มีสีหน้าที่แตกต่างกันออกไป
หนานชิงชิงมองไปยังหยีเฟยซึ่งนอนอยู่บนเตียงด้วยแววตาอันมีความสุข
เดิมทีนางกับอ๋องเฉิงกำลังอยู่ในจวน ได้ยินพ่อบ้านเข้ามารายงานว่าหยีเฟยจะมิไหวแล้ว นางก็รู้สึกตื่นเต้นดีใจ
นางกำลังกังวลใจว่าจะหาวิธีใดมาจัดการหนานหว่านเยียนดี บัดนี้เป็นอย่างไรเล่า จู่ๆ หยีเฟยก็กำลังจะสิ้นใจ หากว่ากู้โม่หานโมโหหงุดหงิดขึ้นมา คนแรกที่เขาจะจัดการก็คือหนานหว่านเยียน
นางมิจำเป็นต้องลงมือจัดการด้วยตนเอง ก็สามารถจัดการกับหนานหว่านเยียนได้ ดังนั้นนางจึงต้องเดินทางมาดูอย่างแน่นอน
ดังนั้นจึงได้เข้าวังมาพร้อมกับอ๋องเฉิง
บัดนี้อ๋องเฉิงขมวดคิ้วเข้าหากัน สายตาจ้องมองไปยังผู้ที่นอนอยู่บนเตียงด้วยความรู้สึกมึนงงเล็กน้อย
เมื่อย้อนไปยังวัยเยาว์ ฮองเฮามักเข้มงวดกับเขาเสมอ และทุกครั้งที่ถูกพระนางลงโทษ เขาก็จะมาที่ตำหนักของหยีเฟย มาเล่นกับกู้โม่หาน
หยีเฟยปฏิบัติกับเขาดุจดั่งลูกที่ให้กำเนิดเอง ดังนั้นตั้งแต่เล็กจนโตเขาก็เห็นนางเป็นเหมือนมารดา
การที่หยีเฟย นอนอยู่บนเตียงมานานนับสิบปีนี้ บอกตามตรงว่าเขาเองก็ปวดใจ
หากมิใช่เพราะกู้โม่หานกระทำการอย่างเด็ดขาดเช่นนั้น เขาก็คงจะมิทำให้กู้โม่หานลำบากใจ อย่างน้อยก็ยังไว้ชีวิต......
ภายในห้อง บรรยากาศดูกดดันและหนักหน่วง
หยีเฟยที่นอนอยู่บนเตียงดูท่าทีอ่อนแอ เหลือเพียงลมหายใจเฮือกสุดท้าย
เมื่อกู้โม่หานเข้ามาในห้องนอน เห็นสีหน้าอันซีดเผือดของหยีเฟยหัวใจของเขาก็รู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวราวกับมีใครใช้มีดแทงมาด้านใน เขาคุกเข่าลงต่อหน้ากู้จิ่งซาน “คารวะเสด็จพ่อ!”
หนานหว่านเยียนก็คุกเข่าลงไปเช่นกัน
ทุกคนหันไปมองตามต้นเสียง เมื่อพบอ๋องอี้และพระชายา หนานชิงชิงก็มีท่าทีเปลี่ยนไปกะทันหัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้
ขัดใจหลายหย่าง 1. นางเอก - ก็รู้ว่าตัวเองสู้เเพ้อ๋องทุกครั้ง เเทนที่จะฝึกวิชาป้องกันตัวบ้าง เเต่ก็ไม่เห็นทำไร 2. ลูก - ก็เห็นอยู่ว่าเเม่ตัวเองทุกข์ใจที่ต้องอยู่กับอ๋อง เเทนที่จะสนับสนุนให้เลิก เเต่ยังจะให้คบกันต่อ คือพวกเอ็งจะขาดพ่อไม่ได้เลยรึไงฟะ 3. อ๋อง - รักเเต่ใช้วิธีผิด นางไม่ยอมก็ขังนางไว้ เจอผู้ชายคนไหนก็ขู่จะทำร้ายเค้า ? เป็นพระเอกที่ห่วยบัดซบ...
ใครที่คิดว่าหนานหว่านเยียนอคติเกินไป ลองย้อนไปดูสิ่งที่กู้โม่หานทำกับนางเอกในช่วงแรกๆ ว่ามันสมควรให้อภัยกันง่ายๆมั้ย...
ไม่แปลกหรอกที่นางเอกจะเกลียดกู้โม่หาน และไม่ยอมให้อภัยกู้โม่หาน ก่อนหน้านั้นหนานหว่านเยียนโดนทำร้ายทั้งกายและจิตใจมามาก โดนจับขังในเรือนเย็น ทั้งตั้งท้องลูก คลอดลูกเอง เลี้ยงเอง ข้าวที่จะกินแทบจะหาไม่ได้ พระเอกมักจะเลือกช่วยหยุนอี่โหรวก่อนนางเอกเสมอ สมควรได้รับที่สิ่งทำไว้ในอดีต นางเอกไม่ได้ทำอะไรผิดแต่โดนพระเอกกระทำมาโดยตลอด...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
กลับมาอัพเดทหน่อยจ้า..แอด,😁😁...
รออัพเดทนะคะ...
ขอเรื่อง หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...
อยากอ่านต่อค่ะ ไม่อยากให้นางเอกให้อภัยเลย ถึงแม้ว่าพระเอกจะถูกนางร้ายหลอก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า พระเอกทำร้ายนางเอกหนักหนาสาหัส ทำนางเอกตายและเกือบตายมาหลายรอบ ชอบข่มเหงบังคับจิตใจ ไหนจะเลือกช่วยนางร้ายก่อนนางเอกทุกที แล้วยังเลือกทำร้ายนางเอกเพื่อนางร้าย สมควรทิ้งมันค่ะ...