ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 213

กู้โม่หานสะดุ้งตกใจในทันที

เป็นไปได้อย่างไรยังดีๆ อยู่เลย ทุกคนที่อยู่รอบตัวเขาต่างพากันเกิดคำถาม?

เขาหันหลังกำลังจะเดินออกไป แต่กลับนึกถึงหนานหว่านเยียนขึ้นมาอย่างฉับพลัน

เขาขมวดคิ้วแน่น แต่สุดท้ายก็ไม่ได้หันกลับมา แล้วออกจากวังไปโดยไม่รีรอ ม้าเร็วห้อตะบึงกลับไปที่จวนอ๋อง

หนานหว่านเยียนกำลังยุ่งอยู่ในห้องนอน ไม่ง่ายเลยกว่าจะเก็บเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์จนเสร็จสิ้น ทำความสะอาดจัดเก็บข้าวของภายในห้องให้กลับไปอยู่ที่เดิม

นางกลับมาถึงตำหนักอู๋ขู่ด้วยความตื่นเต้นดีใจ พูดด้วยน้ำเสียงร่าเริง “กู้โม่หาน ข้าเก็บข้าวของเสร็จแล้ว พวกเรากลับจวนกันเถอะ!”

ติดรถไปไวกว่า จะได้เห็นเด็กหญิงทั้งสองเร็วขึ้น นางจึงไม่ถกเถียงกับกู้โม่หานที่จะขี่ม้ากลับเรือน

แต่ในตำหนักอู๋ขู่อันกว้างใหญ่ นอกจากหวางหมัวมัวและหยีเฟยที่อยู่บนเตียงแล้ว ก็ไม่มีวี่แววของกู้โม่หานเลย

เมื่อหวางหมัวมัวเห็นหนานหว่านเยียน ก็พูดเสียงเบา “พระชายารองหยุนไม่ค่อยสบาย ท่านอ๋องรีบกลับไปก่อน”

กู้โม่หานไปแล้วงั้นหรือ?

หนานหว่านเยียนถูกดับความหวัง พลางหุบยิ้มลง

แม้ว่านางจะไม่สนใจที่กู้โม่หานทิ้งนางไว้ แต่การนั่งรถม้าไม่เร็วไปกว่าการขี่ม้าแน่

ฮ่าๆ

เพื่อดอกบัวขาวอย่างหยุนอี่ว์โหรวแล้ว กู้โม่หานถึงกับทิ้งผู้มีพระคุณช่วยชีวิตแม่ของเขาไว้?

เนรคุณชั่วช้าจริงๆ!

หนานหว่านเยียนยักไหล่อย่างไม่แยแส กำลังจะก้าวออกไป “เข้าใจแล้ว”

“พระชายา!” หวางหมัวมัวเรียกนางไว้อย่างกะทันหัน

หนานหว่านเยียนมองไปที่นาง หวางหมัวมัวมองนางพลางกล่าวว่า “บ่าวรู้สึกซาบซึ้งมากที่ท่านช่วยหยีเฟยเหนียงเหนียงไว้ แต่ท่านโปรดจำไว้ว่า ผู้หญิงของตระกูลหนานจะไม่มีวันกลายเป็นพระชายาของท่านอ๋อง! ความเคียดแค้นที่ฝังลึกนี้ พวกเราตำหนักอู๋ขู่ จะจดจำไปชั่วชีวิต!”

“ในเมื่อท่านต้องการออกจากวัง บ่าวจะไปส่งท่าน”

หวางหมัวมัวเดินมาที่ข้างกายหนานหว่านเยียน

หากไม่เคยทุกข์ยากเช่นเขา ก็ไม่มีสิทธิ์เรียกร้องให้เขามีน้ำใจ หลักการนี้หนานหว่านเยียนอย่างถ่องแท้ รู้ด้วยว่าสำหรับหวางหมัวมัวแล้ว การเรียกนางว่า “ท่าน” ถือเป็นการยอมรับในระดับสูงสุดแล้ว

เพราะถึงอย่างไรการได้พบนางเมื่อหลายวันก่อน หวางหมัวมัวยังอยากจะฆ่านางเหลือเกิน เกลียดชังจนถึงขีดสุด!

“ข้าขอบคุณเจ้ามากที่เตือน พูดตามตรง ข้าก็ไม่ได้หวงแหนตำแหน่งพระชายาเลย หากท่านอ๋องของพวกเจ้ายินดีหย่าร้างกับข้า ข้าก็ไม่อาจทนอยู่ให้พ้นวันพรุ่งนี้ คืนนี้ก็ไปแล้ว!”

ดวงตาอันงดงามของหนานหว่านเยียนใสเย็น เอ่ยปากด้วยสีหน้าเย็นชา

“ยิ่งไปกว่านั้นในความคิดของข้า พวกเจ้ามักจะเก็บความเกลียดชังและความคิดชั่วร้ายเอาไว้ในใจ ใช้ชีวิตยากลำบากกว่าข้าเสียอีก หากข้าเป็นพวกเจ้า ถ้าไม่จิตใจเมตตาละมุนละม่อม ตัดสินชี้ขาดต้นกำเนิดแห่งความชั่วร้าย ก็จะปล่อยวาง ไม่กังวลไม่นึกถึง ติดอยู่ในหลุมพรางวนเวียนเป็นวัฏจักร ไม่เหนื่อยหรือ?”

ได้ยินดังนั้น หวางหมัวมัวก็สะดุ้งโหยง มองหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าอย่างเหลือเชื่อ เปี่ยมคุณธรรมไม่เย่อหยิ่ง งดงามน่าทึ่ง

นางไม่เคยคิดเลยว่า หนานหว่านเยียนจะพูดจาอะไรแบบนี้ออกมาได้!

เมื่อก่อนหนานหว่านเยียนรักท่านอ๋องมาก รักจนปานจะขาดใจตายไม่ใช่หรือ ทั้งไม่เอาไหนไร้ความสามารถ แต่ตอนนี้กลับเมินเฉยตำแหน่งของชายา?!

ถึงขนาดพูดได้อย่างเต็มปากเช่นนี้!

นี่ นี่ใช่หนานหว่านเยียนตัวจริงหรือเปล่า?

เมื่อหวางหมัวมัวได้สติกลับมา หนานหว่านเยียนก็ไปแล้ว ไม่มีความลังเลสักนิด เด็ดขาดสง่าผ่าเผย

ทันใดนั้นนางก็รู้สึกงุนงง บ่นพึมพำ “เหนียงเหนียง หรือว่า บ่าวจะมองคนผิดไป…”

หวางหมัวมัวคิดจนใจลอย แต่ไม่ได้สังเกตเลยว่า คนที่นอนอยู่บนเตียงมานานหลายปี ได้ขยับนิ้วมือเล็กน้อยจนแทบมองไม่เห็น…

หลังจากหนานหว่านเยียนออกจากวังมาแล้ว ก็เดินอยู่นานเหมือนโดนถ่วงน้ำหนัก ก่อนจะหารถม้าพบในที่สุด

นางโยนเศษเงินสองชิ้นให้กับสารถี กัดฟันขึ้นรถ ทรุดตัวลงบนที่นั่งอย่างหมดสภาพแล้วนึกด่าในใจ “กู้โม่หาน ไอ้ชายชั่ว! ถุย! สู้หมูหมายังไม่ได้เลย!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้