เสิ่นอี่ว์รู้สึกประหม่ามาก แต่ก็รอคอยการตอบกลับของหนานหว่านเยียน
หนานหว่านเยียนเห็นสีหน้าคาดหวังของเสิ่นอี่ว์ นางพูดอย่างหนักแน่นโดยไม่ได้ขมวดคิ้ว “ระหว่างข้ากับกู้โม่หาน ไม่ต้องการโอกาสอะไรทั้งสิ้น”
“เจ้าไปรอข้าอยู่ข้างนอก เดี๋ยวจะไปรับท่านลุงกลับจวน ยังต้องการความช่วยเหลือจากเจ้าอีก”
เสิ่นอี่ว์ได้ยินดังนั้นก็รู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่า เหมือนมีกะละมังน้ำเย็นราดรดลงบนศีรษะ ทำให้ดวงตาของเขามืดสลัวลงทันที กำหมัดกล่าวว่า “พ่ะย่ะค่ะ”
พูดจบเขาก็เดินออกจากเรือนเซียงหลินด้วยความรู้สึกโดดเดี่ยว
พระชายากับท่านอ๋อง มันจะเป็นไปไม่ได้เลยหรือ?
อวี๋เฟิงที่กำลังเตะลูกขนไก่อยู่ข้างๆ ในที่สุดก็สังเกตเห็นหนานหว่านเยียน เขารีบส่งลูกขนไก่ให้อาจารย์เย่ว์ แล้ววิ่งไปหาหนานหว่านเยียน ชะโงกศีรษะถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น “กระหม่อมขอคารวะพระชายา พระชายา เมื่อครู่ท่านพูดอะไรกับองครักษ์เสิ่นเหรอ?”
หนานหว่านเยียนเหลือบมองอวี๋เฟิง แต่ไม่ได้ตอบเขาตรงๆ “เจ้ามาทันเวลาพอดี ข้ามีเรื่องบางอย่างต้องการมอบหมายให้เจ้าทำ”
เมื่อได้ยินคำสั่ง ความคิดของอวี๋เฟิงนั้นไม่ได้อยู่ที่บทสนทนาระหว่างเสิ่นอี่ว์และหนานหว่านเยียน “พระชายา เชิญว่ามาได้เลย”
“เจ้าไปช่วยข้าสืบเรื่องหยุนโม่หราน เขาเป็นพี่ชายลูกลูกน้องของหยุนอี่ว์โหรว สืบอะไรได้ก็มารายงาน ไม่ว่าจะเป็นชีวิตส่วนตัวหรือส่วนรวมของเขา โดยเฉพาะเรื่องความสัมพันธ์กับพระชายารอง ช่วยสืบให้ละเอียด ข้าต้องการทั้งเรื่องใหญ่เรื่องเล็ก รีบไปจัดการให้ข้าเดี๋ยวนี้”
“พ่ะย่ะค่ะ” อวี๋เฟิงพยักหน้าตอบรับ แล้วหันหลังเดินจากไปทันที
สายตาของหนานหว่านเยียนเย็นชา
มันไม่ใช่เรื่องยากที่จะจัดการกับหยุนอี่ว์โหรว ที่ยากก็คือจัดการร่มเงาที่คุ้มครองอย่างกู้โม่หาน
แต่เมื่ออวี๋เฟิงได้หลักฐานมา นางอยากจะเห็นว่า กู้โม่หานยังจะเอาหน้าที่ไหนมาปกป้องหยุนอี่ว์โหรวอีก!
นางจะไม่มีทางปล่อยให้หยุนอี่ว์โหรวหนีไป มิฉะนั้นจะไปสู้หน้าคนที่บาดเจ็บเพราะนางได้อย่างไร!
ในเวลานี้ มีเสียงเด็กเล็กๆ ดังขึ้นที่ข้างหู “ท่านแม่ ท่านแม่กลับมาแล้ว!”
หนานหว่านเยียนหันกลับไป เห็นเกี๊ยวน้อยกำลังจ้องมองนางอย่างมีความสุข ใบหน้าแดงระเรื่อรูปไข่ มีเหงื่อวาววับผุดขึ้นมาบนใบหน้า
นางยิ้มอย่างอ่อนโยน สาวเท้าเดินไปหาเด็กทั้งสองคน
เกี๊ยวน้อยรีบจับมือซาลาเปาน้อย วิ่งกระโดดโลดเต้นไปหาหนานหว่านเยียนอย่างมีความสุข “ท่านแม่…”
เกี๊ยวน้อยและซาลาเปาน้อยกอดขาหนานหว่านเยียนกันคนละข้าง เกี๊ยวน้อยบุ้ยปากน้อยๆ อย่างน้อยอกน้อยใจ ดวงตาโตเป็นประกาย เหมือนกำลังโอดครวญ
“ท่านแม่ พวกเราคิดถึงท่านแม่มากเลย! ทำไมท่านแม่ไม่กลับมานานขนาดนี้?”
ซาลาเปาน้อยเห็นหน้าผากของหนานหว่านเยียนมีเหงื่อออก จึงรีบหยิบผ้าเช็ดหน้าเล็กๆ ออกมาจากกระเป๋าเสื้อ “ท่านแม่ร้อนเหรอ? ข้าจะซับเหงื่อให้ท่านแม่!”
นางเอียงศีรษะหัวเราะ หนานหว่านเยียนเห็นแบบนี้ก็ใจละลายแล้ว
หนานหว่านเยียนคุกเข่าลง ออกแรงดึงลูกทั้งสองเข้ามากอดไว้ สูดหายใจเข้าลึกๆ “อืม…สุดที่รักของแม่!”
ซาลาเปาน้อยและเกี๊ยวน้อยหัวเราะ“คิกคัก”อย่างมีความสุข ทั้งสองถูไถใบหน้าของหนานหว่านเยียน จับแขนของนางกระเง้ากระงอด
“หลายวันมานี้ ท่านแม่อยู่ในวังเป็นยังไงบ้าง?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้
ขัดใจหลายหย่าง 1. นางเอก - ก็รู้ว่าตัวเองสู้เเพ้อ๋องทุกครั้ง เเทนที่จะฝึกวิชาป้องกันตัวบ้าง เเต่ก็ไม่เห็นทำไร 2. ลูก - ก็เห็นอยู่ว่าเเม่ตัวเองทุกข์ใจที่ต้องอยู่กับอ๋อง เเทนที่จะสนับสนุนให้เลิก เเต่ยังจะให้คบกันต่อ คือพวกเอ็งจะขาดพ่อไม่ได้เลยรึไงฟะ 3. อ๋อง - รักเเต่ใช้วิธีผิด นางไม่ยอมก็ขังนางไว้ เจอผู้ชายคนไหนก็ขู่จะทำร้ายเค้า ? เป็นพระเอกที่ห่วยบัดซบ...
ใครที่คิดว่าหนานหว่านเยียนอคติเกินไป ลองย้อนไปดูสิ่งที่กู้โม่หานทำกับนางเอกในช่วงแรกๆ ว่ามันสมควรให้อภัยกันง่ายๆมั้ย...
ไม่แปลกหรอกที่นางเอกจะเกลียดกู้โม่หาน และไม่ยอมให้อภัยกู้โม่หาน ก่อนหน้านั้นหนานหว่านเยียนโดนทำร้ายทั้งกายและจิตใจมามาก โดนจับขังในเรือนเย็น ทั้งตั้งท้องลูก คลอดลูกเอง เลี้ยงเอง ข้าวที่จะกินแทบจะหาไม่ได้ พระเอกมักจะเลือกช่วยหยุนอี่โหรวก่อนนางเอกเสมอ สมควรได้รับที่สิ่งทำไว้ในอดีต นางเอกไม่ได้ทำอะไรผิดแต่โดนพระเอกกระทำมาโดยตลอด...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
กลับมาอัพเดทหน่อยจ้า..แอด,😁😁...
รออัพเดทนะคะ...
ขอเรื่อง หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...
อยากอ่านต่อค่ะ ไม่อยากให้นางเอกให้อภัยเลย ถึงแม้ว่าพระเอกจะถูกนางร้ายหลอก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า พระเอกทำร้ายนางเอกหนักหนาสาหัส ทำนางเอกตายและเกือบตายมาหลายรอบ ชอบข่มเหงบังคับจิตใจ ไหนจะเลือกช่วยนางร้ายก่อนนางเอกทุกที แล้วยังเลือกทำร้ายนางเอกเพื่อนางร้าย สมควรทิ้งมันค่ะ...