ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 273

“เจ้าแกล้งป่วยไปคนเดียวเถอะ” หนานหว่านเยียนจะไม่พบโม่หวิ่นหมิงได้อย่างไร เขาเพิ่งผ่านการผ่าตัดมาไม่นาน พูดเสร็จ นางก็ก้าวเท้าตรงไปยังหน้าประตู เปิดประตูด้านนอกออกไป

โม่หวิ่นหมิงนั่งบนรถเข็น พร้อมหอบกล่องอาหารไว้ ดวงตาคู่หวานดั่งดอกท้อสดใสจ้องมองมาที่นาง หนานหว่านเยียนพูดขึ้นอย่างร้อนใจว่า

“ท่านน้า ข้างนอกหนาวขนาดนี้ เจ้าเพิ่งผ่าตัดเสร็จ รีบเข้ามา อย่าตากลมหนาว”

“ได้” โม่หวิ่นหมิงตามหนานหว่านเยียนเข้ามาให้ห้อง เห็นสีหน้านางขาวซีด ก็ขมวดคิ้วพูดขึ้นว่า “เจ้าดูเจ้าสิ ไม่เป็นห่วงดูแลตนเองบ้างเลย”

เขาเล่นกับเด็กทั้งสองคนอยู่ในลานพร้อมรอฟังข่าว อวี๋เฟิงบอกว่าหว่านหว่านผ่าตัดเสร็จแล้ว ตอนนี้คงไม่มีอะไรแล้ว เขาจึงให้คนพาเด็กทั้งสองคนไปพักผ่อนก่อน

แล้วก็รอหว่านหว่านอยู่นาน ก็ยังไม่เห็นนางกลับมา จึงรู้ว่าเมื่อกู้โม่หานมา หว่านหว่านไม่ได้พักแน่

เขาจะอดไม่ได้มาหานางด้วยตนเอง กลัวว่านางจะเหนื่อย กลับคิดไม่ถึงว่าสีหน้าของนางจะย่ำแย่ขนาดนี้

หนานหว่านเยียนปิดประตูไว้อย่างดี ได้ยินแบบนี้ก็ยกมือลูบหัว พร้อมหัวเราะพูดขึ้นว่า “ไม่เป็นไร แต่ท่านน้าไม่ควรมาที่นี่ เจ้าเพิ่งผ่านการผ่าตัด ต้องพักผ่อนให้ดี"

ภาพการพูดคุยอย่างมีความเป็นห่วงเป็นใยกันนี้ ราวกับพวกเขาต่างหากที่เป็นสามีภรรยากัน

กู้โม่หานจะแกล้งป่วยต่อไปได้อย่างไร เหมือนดั่งหมาป่าที่ถูกแย่งสิ่งของที่รักไป โกรธแค้นดุดัน แต่เพราะอ่อนแรง ดุร้ายแค่ไหนก็ทำได้แค่แสดงออก น้ำเสียงแผ่วเบา

“ใครอนุญาตให้เจ้าเข้ามา ไสหัวออกไป”

ให้ตายเถอะ หนานหว่านเยียน

ทีกับเขานั้นไม่อยากสนใจ กับโม่หวิ่นหมิงกลับยิ้มสดใสดั่งดอกไม้ผลิบาน ชั่วร้ายที่สุด

โม่หวิ่นหมิงหันไปมองกู้โม่หานอย่างตกตะลึง พร้อมพูดขึ้นว่า “เขาฟื้นแล้ว?”

หนานหว่านเยียนมองดูสีหน้าบูดบึ้งของกู้โม่หาน เจ้าคนนี้ทำไมไม่แกล้งป่วย และยังดุกับท่านน้าขนาดนั้น นางระดับความโกรธไว้ แล้วหันไปมองโม่หวิ่นหมิง

“ใช่ แต่ว่าท่านน้าอย่าเอะอะไป เรื่องที่ท่านอ๋องฟื้น ตอนนี้ยังให้คนนอกรู้ไม่ได้”

สีหน้าโม่หวิ่นหมิงเยือกเย็น

แค่คิดก็เดารู้แล้วว่า กู้โม่หานคิดอะไรอยู่ เขาไม่สนใจกู้โม่หานต่อสู้กับราชวงศ์ เขาสนใจเพียงว่า ทั้งๆที่กู้โม่หานฟื้นแล้ว ทำไมถึงยังรั้งหว่านหว่านไว้

กู้โม่หานเจ็บปวดโกรธโมโหอยู่ในใจ อดกลั้นความเจ็บบนหน้าอกไว้ แสร้งทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น มองดูโม่หวิ่นหมิงอย่างเย็นชา พร้อมพูดขึ้นว่า “จะมากขนาดนั้นทำไม เจ้ามานี่”

สายตาโม่หวิ่นหมิงแฝงไปด้วยแววสังหาร พร้อมพูดขึ้นว่า “ทำไมพูดจาแบบนี้กับหว่านหว่าน”

“หุบปาก” กู้โม่หานหัวเราะเย้ย พร้อมพูดขึ้นด้วยสายตาดุดันว่า “เจ้ามีสิทธิ์พูด?”

ผู้ชายทั้งสองคนมองหน้ากัน ประกายไฟกระจายไปทั่ว มีเพียงกันและกันเท่านั้นที่รู้ว่าอีกฝ่ายสนใจอะไร

“กู้โม่หาน เจ้ากินดินปืนมาหรือ ท่านน้ามาหาข้า เกี่ยวข้องอะไรกับเจ้า เจ้าสิหุบปากเลย”

หนานหว่านเยียนรู้สึกว่ากู้โม่หานแปลกประหลาด ท่านน้าของนางเป็นห่วงนาง ปกป้องนางแล้วมีปัญหาอะไร ดุดันชั่วร้ายเหมือนกินยาผิด มีความเป็นผู้ป่วยตรงไหน

“ท่านน้า เจ้าไม่ต้องสนใจเขา คนบางคนถึงจะบาดเจ็บ แต่ก็ยังเป็นที่น่ารังเกียจ”

เขาเป็นที่น่ารังเกียจ?

สีหน้ากู้โม่หานดำอย่างกับก้นหม้อ ทันใดนั้นแผลที่หน้าอกก็ยิ่งเจ็บปวดมากขึ้น

ทำไมหนานหว่านเยียนถึงเข้าข้างโม่หวิ่นหมิงที่ปากหวานก้นเปรี้ยว ยังช่วยโม่หวิ่นหมิงด่าเขา?

เขากำลังจะพูดขึ้นมา หนานหว่านเยียนก็เปลี่ยนเรื่องพูด ถามโม่หวิ่นหมิง

“ท่านน้า ข้าได้ยินอวี๋เฟิงพูดว่าเด็กทั้งสองคนอยู่กับเจ้า พวกนางเป็นอย่างไรบ้าง?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้