ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 283

เห็นกู้โม่หานที่กำลังหลับตาอยู่ ทันใดนั้นก็ลืมตาขึ้นมากะทันหัน ดวงตาแหลมคมนั้นเต็มไปด้วยความอ่อนโยน

มือข้างหนึ่งของเขาดึงคอเสื้อของเด็กน้อยขึ้น ทั้งที่เจ็บแผลมาก แต่กลับอดทนกอดเด็กสองคนไว้ในอ้อมกอด

ชายหนุ่มกระตุกยิ้มมุมปาก ยิ้มอย่างพึงพอใจ แล้วพูดกับเกี๊ยวน้อยว่า

“เจ้าพูดถูก ข้าเป็นเทพสงคราม จะอ่อนแอขนาดนั้นได้ยังไง?”

กู้โม่หานรวดเร็วมาก สองพี่น้องยังไม่ทันได้ตั้งตัวเลย ก็ถูกเขาโอบกอดไว้ในอ้อมกอดแล้ว สัมผัสได้ถึงร่างกายที่อบอุ่นของชายหนุ่ม ทำเอาเกี๊ยวน้อยร้อนรนไปต่อไม่เป็น “กรี๊ด! เจ้า——อื้อ!”

กู้โม่หานรีบปิดปากของเกี๊ยวน้อยไว้ แล้วกระซิบว่า

“ชวู่ เรื่องที่ข้าตื่นแล้ว คิดเสียว่าเป็นความลับระหว่างเรา อย่าเพิ่งไปบอกใคร ดีไหม?”

เกี๊ยวน้อยเอามือของเขาออก มองเขาอย่างระมัดระวัง “ทำไมล่ะ?”

ซาลาเปาก็พยักหน้าตอบ แต่พอเห็นกู้โม่หานที่แข็งแรงดี ก็รู้สึกดีใจขึ้นมา

เขาไม่เป็นไร

กู้โม่หานบีบแก้มของนางเบาๆ “ทำไมน่ะเหรอ? คงเพราะว่า ตอนนี้ท่านแม่ของพวกเรายังไม่อยากให้ใครรู้”

“จริงเหรอ?” สองพี่น้องดูจะไม่เชื่อ เอียงหัวถามพร้อมกัน

กู้โม่หานพยักหน้า ทำท่าจริงจัง “อืม จริงสิ”

สองพี่น้องถูกกู้โม่หานกอดไว้ แต่กลับไม่รู้สึกไม่สบายตรงไหน แค่รู้สึกว่า ได้อยู่ในอ้อมกอดเขาแล้ว รู้สึกสบายใจมาก

พวกนางจึงไม่ได้ตอบโต้ใดๆ

เกี๊ยวน้อยคิดว่าเขากำลังบาดเจ็บ จึงเดินข้างๆเขาแทน มองเขาด้วยสีหน้าสงสัย

“เจ้าไม่เป็นไรจริงเหรอ? พี่อวี๋เฟิงพวกเขาบอกว่า เจ้าบาดเจ็บสาหัสมาก แถมยังมีเลือดไหลเยอะมากด้วย ยังไม่ตื่นเลย”

ซาลาเปามองนาง แล้วมองกู้โม่หาน

“นั่นสิ ทำไมไม่เห็นบาดแผลของเจ้าเลยล่ะ?”

กู้โม่หานก็ถึงลุกขึ้น เอาผ้ามาคลุมตัวเองไว้ เพื่อปกปิดความอ่อนแอและบาดแผลของตัวเองไว้

เขาลูบหัวของซาลาเปาเบาๆ “เพราะพวกเราเป็นห่วงเกินไป ข้าจะถูกคนถ่อยทำร้ายง่ายๆได้ยังไงกัน? อีกอย่าง มีแม่ของพวกเจ้าอยู่ ข้าจะสลบเป็นลมไม่ฟื้นได้ยังไง”

เกี๊ยวน้อยได้ยินหนานหว่านเยียนถูกชม ก็รีบเชิดหน้าขึ้นอย่าภูมิใจทันที

“แน่นอนอยู่แล้ว! ท่านแม่เป็นนางฟ้ามาจากสวรรค์ มีความสามารถล้นเหลือ!”

ซาลาเปากลับรู้สึกเป็นห่วงกู้โม่หาน ยื่นมือไปจิ้มหน้าอกเขาอย่างระมัดระวัง “ตรงนี้ เจ็บไหม?”

นางไม่ได้ทิ่มโดนบาดแผล แต่กลับสัมผัสโดนผ้าพันแผล จิ้มเลือดเนื้อบนบาดแผลของกู้โม่หาน ทำเอาเขาเหงื่อแตกพลั่ก

ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ เขาก็ยังกัดฟันอดทน ใบหน้าหล่อเหลานั้นมีรอยยิ้มที่อ่อนโยนปรากฏขึ้น

“ไม่เจ็บหรอก แม่ของพวกเจ้าล่ะ?”

“หลับอยู่ในห้อง! ท่านแม่เหนื่อยมากเลยนะ!”

กู้โม่หานขมวดคิ้ว นึกถึงคำพูดก่อนจากไปของนาง

“เพื่อช่วยข้า นางไม่ได้พักผ่อนเลย ตอนนี้ก็ให้นางพักผ่อนดีๆเถอะ”

“เหอะ” เกี๊ยวน้อยพูด: “แน่นอนอยู่แล้ว ท่านแม่เคยบอกว่า ช่วยคนเหมือนกับการดับเพลิง ที่ตอนนี้เจ้าฟื้นได้ เป็นเพราะท่านแม่ช่วยเจ้าไว้ ต้องดีกับท่านแม่ให้มากนะ!”

ซาลาเปาก็พยักหน้าเร็วๆ “ใช่แล้ว เจ้าจะรังแกท่านแม่ไม่ได้ พวกเรา พวกเราจะไม่ยอมปล่อยเจ้าไปเด็ดขาด”

รังแกนาง?

ตอนนี้เขาไม่รังแกนางแล้ว อย่างมากก็แค่……อยากลิ้มลองและชิมร่างกายของนางก็เท่านั้น

แต่นางไม่ยอม และยังอยากจะหย่ากับเขาอีก

กู้โม่หานเม้มริมฝีปากบาง ทันใดนั้นก็จ้องมองสองพี่น้องอย่างจริงจัง

“ข้าขอถามพวกเจ้าหน่อย ถ้าวันหนึ่ง ข้าบอกว่าถ้าเกิดนะ ถ้าข้ากับแม่ของพวกเจ้าหย่ากันจริงๆ พวกเจ้าจะอยู่กับใคร?”

ซาลาเปากับเกี๊ยวน้อยกะพริบตาปริบๆ ถามอย่างไม่เข้าใจ “อะไรคือหย่าเหรอ?”

กู้โม่หานอธิบาย “ข้ากับท่านแม่ของพวกเจ้าอาจจะต้องแยกกันด้วยเหตุผลที่จำเป็น แต่มีเพียงคนเดียวสามารถพาพวกเจ้าไปได้ พวกเจ้า อยากอยู่กับใคร?”

ใบหน้าไร้เดียงสาของสองพี่น้องก็มีความจริงจัง แล้วพูดขึ้นอย่างไม่คิดว่า “ก็ต้องเป็นท่านแม่อยู่แล้ว!”

กู้โม่หานตกตะลึง รู้สึกเจ็บจี๊ดที่หัวใจ เป็นความเจ็บปวดที่พูดไม่ออก

แต่คิดแล้วก็ใช่ เด็กสองคนสนิทกับหนานหว่านเยียนขนาดนั้น และไม่รู้ว่าเขาเป็นพ่อของพวกนาง ไม่อยากอยู่กับเขา ก็พอจะเข้าใจอยู่

กู้โม่หานก็รู้สึกปล่อยวาง ยื่นมือไปลูบสันจมูกของสองพี่น้องอย่างเอ็นดู “นั่นสิ พวกเจ้าอยู่กับท่านแม่พวกเจ้ามานานขนาดนั้น ถ้าไม่ไปกับนาง ก็ดูจะไร้หัวใจเกินไป”

“แต่พวกเจ้าไม่แปลกใจเลยเหรอ ท่านพ่อของพวกเจ้าเป็นใคร?”

เกี๊ยวน้อยส่ายหน้าอย่างไม่ลังเล

“ไม่สงสัยเลย มีท่านแม่คนเดียวก็พอแล้ว ไม่งั้นถ้าเจอคนแบบเจ้า ถึงแม้จะปกป้องท่านแม่ได้ ตัวเองกลับต้องบาดเจ็บสาหัส แบบนั้นก็ไม่เอาหรอก”

ซาลาเปากำลังจะเอ่ยพูด แต่พอนึกถึงใบหน้าอันงดงามของหนานหว่านเยียน ก็กลืนคำพูดลงไปอีกครั้ง

ใบหน้าหล่อเหลาของกู้โม่หานเปลี่ยนไป น้ำเสียงดูจริงใจมากขึ้น

“ครั้งนี้เป็นอุบัติเหตุ ถ้ามีครั้งหน้า……ไม่สิ ข้าไม่ให้มันเกิดขึ้นแน่ และจะไม่ให้พวกเจ้าต้องเสี่ยงอันตรายอีก”

ลูกของเขา เสด็จแม่ของเขา ในชีวิตนี้ของเขา เขาจะไม่ให้พวกนางต้องบาดเจ็บอีก

หนานหว่านเยียน……เขาจะไม่ให้นางเป็นอะไรไปแน่นอน

เกี๊ยวน้อยกับซาลาเปาได้ยินคำพูดที่อบอุ่นของกู้โม่หาน ต่างก็มองเขาอย่างตกตะลึง

โครงหน้าคมสันของเขามีความผยองเล็กน้อย ดวงตาที่แหลมคมนั้น ตอนนี้กลับดูอบอุ่นมากๆ

นอกจากท่านแม่แล้ว พวกนางไม่เคยได้ยินว่าจะมีคนปกป้องพวกนางอีกแล้ว

สีหน้าที่จริงจังและสายตาที่จริงใจ

ท่านพ่อเลวคนนี้ ก็มีช่วงที่ดีเหมือนกันนะ เด็กสองคนอดไม่ได้รู้สึกซึ้งใจ

ทันใดนั้น เกี๊ยวน้อยก็ถึงตั้งสติ เบือนหน้าหนี แก้มป่อง แล้วพูดขึ้นว่า

“เหอะ เก๊กหล่อไปได้ รอข้าโตแล้ว จะต้องเก่งกว่าเจ้าแน่ ถึงเวลา ถ้าเจ้าสู้ข้าได้ ค่อยมาพูดจาโอ้อวดแบบนี้!”

ซาลาเปารู้สึกซาบซึ้งใจ สะอื้นเล็กน้อย สองมือเล็กจับผ้าห่มไว้แน่น “ไม่มีครั้งหน้าอีกแล้ว……”

ไม่ว่าจะเป็นหนานหว่านเยียนหรือกู้โม่หาน นางก็ไม่อยากเห็นพวกเขาได้รับบาดเจ็บ

“ได้ ข้าพูดจาโอ้อวดไปเอง รอเจ้าโตแล้วค่อยมาประลองกับข้านะ”

กู้โม่หานกระตุกยิ้มมุมปาก มองดูเด็กน้อยสองคน รู้สึกอ่อนระทวยไปทั้งหัวใจ

“ในเมื่อพวกเจ้าไม่มีพ่อ งั้น……เรียกข้าว่าพ่อได้หรือไม่?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้