ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 285

เวลาผ่านไปเร็วมาก พริบตาเดียวพระอาทิตย์ก็ตกดินแล้ว

หยุนอี่ร์โหรวที่สลบไปนานก็ตื่นขึ้นมาจากฝันร้าย เหงื่อแตกพลั่กเต็มเสื้อ

ในฝัน หนานหว่านเยียนเหยียบนางไว้ใต้เท้า ใบหน้าหยิ่งผยอง ทำเอานางเกลียดจนกัดฟันกรอด

ตอนนี้เอง ทันใดนั้นในห้องก็มีเสียงของข้ารับใช้ดังขึ้น

“ข้าบอกแล้วว่าท่านอ๋องโชคดี ไม่มีทางเป็นอะไรไปแน่นอน”

“นั่นสิ ท่านอ๋องตื่นสักที แถมยังให้เงินตอบแทนกับพวกเราด้วย ท่านอ๋องดีกับพวกเราจริงๆ!”

กู้โม่หานฟื้นแล้วเหรอ?!

หยุนอี่ร์โหรวตกตะลึง ไม่สนใจความเจ็บปวดบนร่างกาย วิ่งโซเซออกไปด้านนอก มือที่อ่อนแรงของนางจับเสื้อของข้ารับใช้ไว้แน่น

“พวกเจ้าพูดว่าไงนะ? ท่านอ๋องฟื้นแล้วเหรอ? ตอนไหนกัน?”

ข้ารับใช้สองคนนั้นตกใจจนสีหน้าเปลี่ยน พอเห็นว่าเป็นหยุนอี่ร์โหรว ก็รีบทำความเคารพ

“พระชายารองหยุน ท่านอ๋องฟื้นได้สองชั่วโมงแล้ว เรื่องนี้ ข้ารับใช้ทั้งจวนต่างก็รู้แล้วเจ้าค่ะ”

ข้ารับใช้อีกคนพูดด้วยสีหน้าที่ตื่นเต้น “พระชายามีวิชาการแพทย์ที่เก่งกาจมาก ช่วยชีวิตท่านอ๋องให้รอดกลับมาได้!”

พอพูดจบ ข้ารับใช้ข้างๆนางก็หยิกนางแรงๆ แล้วมองค้อนนางแรงๆ

ใครก็รู้ว่าหยุนอี่ร์โหรวกับหนานหว่านเยียนไม่ถูกกัน พูดแบบนี้ เดี๋ยวก็โดนทำโทษหรอก!

เป็นไปตามที่คิดไว้ หยุนอี่ร์โหรวได้ยินชื่อของหนานหว่านเยียน สีหน้าก็เข้มงวดทันที

นางพยายามอดกลั้นความเกลียดชังที่มีต่อหนานหว่านเยียน กระตุกยิ้มแล้วพูดว่า “ข้ารู้แล้ว พวกเจ้าไปเถอะ”

ข้ารับใช้สองคนรีบวิ่งหนีออกจากเรือนจู๋หลาน

ร่างกายของหยุนอี่ร์โหรวเจ็บช้ำ แต่ความเกลียดชังที่ฝังอยู่ในใจของนางนั้น มากเกินกว่าภาระบนร่างกายของนาง

นางกัดฟัน สวมเสื้อคลุมแล้วเดินออกไป

ทหารสองคนขมวดคิ้วขวางทางนางไว้ “พระชายารองหยุน ไม่มีคำสั่งของท่านอ๋อง ท่านห้ามออกจากเรือนเด็ดขาด”

แต่หยุนอี่ร์โหรวกลับไม่ฟัง ใช้แรงทั้งหมดที่มีเบียดออกไป “ท่านอ๋องฟื้นแล้ว ข้าอยากพบเขา! พวกเจ้าห้ามมาขวางทางนะ!”

แต่ร่างกายของนางอ่อนล้า ทหารสองคนไม่ได้แตะต้องนางด้วยซ้ำ หยุนอี่ร์โหรวก็ขาอ่อน ล้มลงพื้นไปแล้ว

พ่อบ้านกาวเดินผ่านเรือนจู๋หลานพอดี เห็นภาพนี้ก็รีบวิ่งเข้าไป

“ไอ้หยา พระชายารองหยุน ท่านทำไปเพื่ออะไรกัน ท่านอยู่ในเรือนจู๋หลานดีๆ ไม่ออกมาก่อเรื่อง ไม่ดีกว่าเหรอ?”

หยุนอี่ร์โหรวส่ายหน้า ขอบตาแดงก่ำ ใบหน้าซีดเซียวแฝงไปด้วยความน้อยอกน้อยใจ

“พ่อบ้านกาว ข้าขอร้องนะ ท่านไปบอกท่านอ๋องหน่อยได้ไหม ข้าผิดไปแล้ว ข้าอยากเจอท่านอ๋องได้หรือไม่? ได้ไหม?”

“นี่……” พ่อบ้านกาวลังเล แต่เขาเห็นท่าทางที่อ่อนแอของหยุนอี่ร์โหรว ก็ทนไม่ไหว ทำได้แค่ถอนหายใจ

“บ่าวไปบอกกับท่านอ๋องได้ แต่เรื่องนี้เกรงว่าจะไม่มีทางกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้แล้ว ขอพระชายารองทำใจไว้ด้วย”

หยุนอี่ร์โหรวได้ยินว่าพ่อบ้านกาวยอมช่วยนาง สายตาก็เปล่งประกายไปด้วยความดีใจทันที

“ข้ารับได้ ขอแค่เจ้าช่วยข้า ไม่ว่าท่านอ๋องอยากเจอข้าไหม ข้าก็รับได้หมด ขอแค่ท่านอ๋องอย่าเย็นชาต่อข้านักเลย ข้าอยากอยู่ใกล้ท่านอ๋อง อยากจะดูแลเขา”

พ่อบ้านกาวพยักหน้า แล้วรีบเดินไปที่เรือนซีเฟิง

ตอนแรกทุกคนในจวนต่างก็กังวลกันหมด คิดว่ากู้โม่หานจะไม่รอดแล้ว สุดท้ายตอนบ่ายมีข่าวออกมาว่า กู้โม่หานฟื้นแล้ว

พ่อบ้านกาวก็น้ำตาไหลพราก คนอื่นๆต่างก็ดีใจจนร้องไห้กันไปหมด

ทุกคนต่างก็บอกว่า กู้โม่หานเป็นผู้ที่ฟ้าส่งมาเกิด ดังนั้นถึงได้รอดตายมาได้

แต่กลับไม่มีใครรู้ว่า กู้โม่หานทำแบบนี้ เพราะเป้าหมายสำเร็จแล้ว ทางราชวงศ์บอกมาแล้ว เขาก็ควร ‘ฟื้น’ ได้แล้ว เพื่อปราบจลาจลที่จะเกิดขึ้น

ณ เรือนซีเฟิง กู้โม่หานนอนพิงอยู่บนเตียง ดวงตาแหลมคม พ่อบ้านกาวชะงักอยู่หน้าประตู แต่ก็กัดฟันเดินเข้าไป

“ท่านอ๋อง บ่าวมีเรื่องจะมารายการขอรับ”

ใบหน้าที่เย็นชาของกู้โม่หานไร้อารมณ์ ริมฝีปากซีดเซียว “เรื่องอะไร?”

พ่อบ้านกาวลังเลสักพัก ก็ถึงพูดว่า “เป็นเรื่องของพระชายารองขอรับ ตั้งแต่เมื่อวานนางสลบอยู่ข้างนอกแล้ว ก็นอนไม่ฟื้นตลอด เมื่อกี้กว่าพอฟื้นแล้ว บอกว่าท่านไม่เป็นอะไร ก็ขอร้องให้บ่าวมารายงาน พระชายารองบอกว่าอยากเจอท่านอ๋องน่ะขอรับ……”

กู้โม่หานมองพ่อบ้านกาวด้วยสายตาเย็นชา แล้วพูดว่า “ไม่เจอ”

เขาบอกแล้วว่า จะกักบริเวณหยุนอี่ร์โหรว ไม่ใช่เพราะใจอ่อน แต่เพราะจะทวงความยุติธรรมให้หนานหว่านเยียน

พ่อบ้านกาวตกใจจนพูดไม่ออก นานมากกว่าจะพูดอีกครั้ง

“ท่านอ๋อง บ่าวอาจจะพูดมากไป แต่ตอนนี้พระชายารองหยุนอยู่ที่เรือนจู๋หลานคนเดียว ร่างกายอ่อนแอมาก ผอมแห้งจนเหลือแค่กระดูก เดินสองก้าวก็ล้มแล้ว เมื่อกี้วิ่งออกมาเร็วเกินไป จนสะดุดล้มด้วยนะขอรับ”

“คนที่รับใช้อยู่ในเรือนจู๋หลานยังบอกว่า พระชายารองปวดท้องทุกวัน โดยเฉพาะตอนกลางคืน แต่นางอยากเจอท่านอ๋อง ไม่สนใจร่างกายของตัวเอง เกรงว่า……คงอยากจะเจอท่านจริงๆ”

พ่อบ้านกาวรายงานสถานการณ์ของหยุนอี่ร์โหรวกับเขาทั้งหมด กู้โม่หานได้ยินแล้วก็ขมวดคิ้วเป็นปม

นิ้วมือเรียวยาวของเขาเคาะขอบเตียง สีหน้าเย็นชา

“ข้ารู้แล้ว ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นเจ้าก็ไปตามหมอในจวนมารักษาให้นางแล้วกัน”

สำหรับหยุนอี่ร์โหรวแล้ว เขาเหลือแค่ความเมตตาที่มีต่อนาง แต่ถ้าต้องเห็นนางเป็นอะไรไปจริงๆ เขาก็คงทำไม่ได้

“ขอรับ ท่านอ๋อง” พ่อบ้านกาวรีบไปจัดการทันที

เรือนจู๋หลาน หยุนอี่ร์โหรวได้รู้ว่ากู้โม่หานสั่งให้พ่อบ้านกาวเรียกหมอในจวนมารักษา ก็ดีใจจนพูดไม่ออกทันที

แต่หมอในจวนขมวดคิ้วเป็นปม พูดขึ้นอย่างหวาดกลัว

“พระชายารองหยุน ขาของท่าน เกรงว่าจะเป็นโรคเย็นเสียแล้ว ทุกฤดูหนาวจะมีอาการกำเริบ และจะเจ็บปวดจนทนไม่ไหว……”

แต่หยุนอี่ร์โหรวไม่เพียงแต่ไม่กลัว แต่กลับแสยะยิ้ม “ข้ารู้แล้ว เจ้าลงไปเถอะ”

นางพูดอย่างเรียบเฉย เหมือนว่าเรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับร่างกายของนาง หมอในจวนก็ไม่เข้าใจ

หยุนอี่ร์โหรวหลับตาลง แสยะยิ้มอย่างได้ใจ สุดท้าย กู้โม่หานก็ใจอ่อนอยู่ดี

“ยังไงในใจท่านอ๋องก็ยังมีข้าอยู่ หนานหว่านเยียน ขอแค่ข้ายังอยู่ในจวนนี้ เจ้าอย่าคิดที่จะมาแย่งท่านอ๋องไปจากข้าเด็ดขาด!”

ขอแค่กู้โม่หานใจอ่อนต่อนาง ถึงนางจะเจ็บป่วยแค่ไหนก็ไม่เป็นไร ต่อไปเขาก็ต้องคิดหาทางรักษานางเอง

ก็เหมือนกับเมื่อก่อน

ตอนนี้ ขอแค่นางคว้าใจของกู้โม่หานไว้ และนอนกับเขา……

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้