ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 297

สรุปบท บทที่ 297 ท่านอ๋องถูกไล่ออกจากห้อง: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

สรุปเนื้อหา บทที่ 297 ท่านอ๋องถูกไล่ออกจากห้อง – ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ โดย อารั่ง

บท บทที่ 297 ท่านอ๋องถูกไล่ออกจากห้อง ของ ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ในหมวดนิยายประวัติศาสตร์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย อารั่ง อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

เขาจึงรีบออกไปรอที่นอกสวน

หนานหว่านเยียนมองกลับไปที่กู้โม่หาน สะบัดมือออก แล้วเอ่ยเสียงเย็นชา “เรามีอันใดต้องคุยกันหรือ?”

กู้โม่หานขมวดคิ้วคมกริบของเขา ระงับอารมณ์ไม่พอใจที่ถูกนางเมินเฉยใส่

“หนานหว่านเยียน พวกนางยังเด็กอยู่ ไม่จำเป็นต้องสั่งสอนเข้มงวดถึงเพียงนี้ พวกนางไม่ใช่เด็กเหลือขอไม่รู้ความเสียหน่อย”

สั่งสอนเข้มงวด?

อ่า

เมื่อก่อนกู้โม่หานเอาแต่จะมาหาเรื่องจับผิด ตอนนี้เขาถึงกับโยงเอาเรื่องสั่งสอนลูกเข้มงวดเกินไปขึ้นมาเป็นประเด็นแล้ว

หนานหว่านเยียนหัวเราะเย้ยหยัน “ข้าจะสั่งสอนลูกเข้มงวดอย่างไร เกี่ยวอันใดกับท่านด้วย? ท่านว่างนักเสียจนฟุ้งซ่านไปแล้วหรือ?”

ใบหน้าหล่อเหลาของกู้โม่หานเต็มไปด้วยความไม่พอใจ และมองนางด้วยสายตาดุดัน

“ลูกของข้า ทำไมจะไม่เกี่ยวกับข้า? หนานหว่านเยียน เจ้าไม่พอใจก็ได้ แต่อย่าปฏิเสธน้ำใจที่ข้ามีต่อพวกนาง ที่ว่าพูดไว้ว่าสามารถปกป้องพวกนางได้ก็เพราะอยากให้เจ้าสบายใจ อย่าได้ร้อนรนไป แต่เจ้ากลับไม่ยินยอม”

“เจ้าเอาแต่ดื้อรั้นปฏิเสธข้าอย่างเดียว ข้ารู้ว่าเจ้าต้องการจากไป แต่ทั้งๆ ที่เด็กน้อยทั้งสองสามารถใช้ชีวิตได้อย่างไร้กังวล เจ้ากลับให้พวกนางอยู่อย่างหลบๆ ซ่อนๆ เจ้าถามใจตัวเองดู ทำเช่นนี้พวกนางมีความสุขจริงๆ หรือ?”

หนานหว่านเยียนราวถูกสะกิดโดนจุดอ่อนและร้ายแรงที่สุด สีหน้าจึงเปลี่ยนเป็นเย็นชาขึ้น

ทำไมนางจะไม่เคยถามลูกๆ ว่าต้องการออกไปหรือไม่ พวกนางตกลงตั้งนานแล้ว เพราะต่างพากันโหยหาอิสรภาพ อยู่ที่จวนอ๋องเต็มไปด้วยการถูกจำกัด เนื่องจากสถานะอันสมควรตายของพวกนาง!

“กู้โม่หาน ท่านพูดถึงเรื่องความสุขกับข้า ได้ ท่านอยากเป็นพ่อของลูก ท่านอยากเอ็นดูพวกนางข้าก็ไม่ได้ห้าม แต่ข้าขอเตือนท่าน บัดนี้ท่านมีแค่ภรรยาเพียงผู้เดียว ตอนนี้ยังไม่มีลูก แต่พอท่านอายุมากขึ้น ก็จะรับนางสนมเข้ามา มีลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมือง พอถึงครานั้นลูกข้าจะได้รับความโปรดปรานได้อย่างไร? ลูกของข้าก็จะมีน้องสาวไม่ก็น้องชายมากมาย เหตุใดท่านถึงจะยังคิดว่าพวกนางจะสามารถมีความสุขได้ตลอดไป ไม่ถูกรังแก?”

“นี่เป็นเพียงสาเหตุส่วนหนึ่ง ข้าอยากจะเตือนท่าน เพราะเรื่องราววุ่นๆ ในวังหลวง เพราะธรรมเนียมที่เชื้อพระวงศ์ให้กำเนิดบุตรสาวก็จะสามารถสืบทอดทายาทได้ ไม่ว่าเด็กทั้งสองจะเป็นเชื้อพระวงศ์หรือไม่ หลักการยอมฆ่าคนผิดดีกว่าปล่อยรอดท่านไม่เข้าใจหรือ บอกข้าว่าสามารถปกป้องพวกนางได้ ท่านมีความสามารถมากแค่ไหน ท่านเป็นฮ่องเต้หรือ มีสิทธิ์อันใดมาปกป้องได้?”

ขณะที่นางพูดก็พลางมองไปที่เขาอีกครั้ง ใบหน้าสวยของนางเย็นชาราวกับน้ำแข็ง แววตาของนางเฉียบคม “อีกอย่างตอนนี้ท่านเหนี่ยวรั้งข้าไว้ที่นี่ อยากจะเก็บเด็กทั้งสองไว้ที่จวนอ๋อง ท่าทีพลันเปลี่ยนไปอย่างผิดปกติ หรือว่าท่านอยากจะใช้ลูกทั้งสองเพื่อขึ้นเป็นไท่จื่อ?”

นี่คือสิ่งเดียวที่นางคิดได้ ช่วงนี้เขามักจะมีท่าทีแปลกๆ กับนาง

“ไร้สาระ!ข้าบอกว่าจะรับสนมเพิ่มตั้งแต่เมื่อใดกัน ในจวนมีเจ้าคนเดียวก็วุ่นวายพอแล้ว!แล้วข้าไปบอกอีกตั้งแต่เมื่อไหร่ว่าจวนอ๋องจะมีลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมือง ข้าไม่ใช่หมูเสียหน่อย!”

กู้โม่หานโกรธเกรี้ยวขบฟัน ใบหน้าหล่อเหลาบูดเบี้ยวไม่น่ามองจะแย่แล้ว

“หากพูดถึงเด็กทั้งสอง ข้าก็ไม่เคยบอกว่าจะให้นางเข้าวัง และไม่เคยคิดจะใช้พวกนางเพื่อเลื่อนยศ ตั้งไหนแต่ไรมา ข้าหวังแค่ว่าต้องการให้พวกนางมีความสุข ไม่ถูกผู้คนจับตาวิพากษ์วิจารณ์ อีกอย่างเจ้าไม่เคยลอง จะไปรู้ได้อย่างไรว่าข้าปกป้องพวกเจ้าไม่ได้ เจ้าคาดเดาความคิดข้าให้มันน้อยหน่อย คิดมาไม่ถูกสักอย่าง!”

หนานหว่านเยียนหัวเราะด้วยความโกรธ ใบหน้าอันงดงามเต็มไปด้วยอารมณ์เสียดสี

“หาว่าข้าเดาผิด งั้นท่านบอกมาสิ เหตุใดช่วงนี้จึงได้มีท่าทีแปลกๆ ขึ้นกะทันหัน เข้ามายุ่งเรื่องของข้า ยังเข้ามายุ่งเรื่องข้าสั่งสอนลูกอีก แต่ก่อนท่านไม่ได้เป็นเช่นนี้นี่ รักใคร่กลมเกลียวกับดอกบัวขาวน้อยของท่านเสมอมา เป็นวันๆ เอาแต่จ้องรังแกข้า ข้าว่าท่านต้องมีแผนการอื่นเป็นแน่? ”

กู้โม่หานราวกับถูกทิ่มแทงด้วยความคิดอันคลุมเครือ จู่ๆ เขาก็ไม่รู้จะโต้แย้งอย่างไรดี

ดวงตาสีเข้มของเขาหดต่ำลงอย่างหนักในทันใด นิ้วมือเรียวยาวก็กำแน่น ราวกับว่ากำลังสับสน

เขาก็รู้สึกว่าช่วงนี้เขาก็แปลกๆ ไป แต่ก็ไม่ใช่ทำดีกับพวกนางแม่ลูกเพื่ออำนาจในวังหลวงอย่างแน่นอน เช่นนั้นแผนการของเขาคืออันใดกัน......คือพวกนางแม่ลูกงั้นหรือ?

ไม่ ไร้สาระ ทำไมเขาถึงจะไปวางแผนใส่หนานหว่านเยียนได้ เป็นเพราะหนานหว่านเยียนช่วยเขาไว้ ในใจเขานึกซาบซึ้งจึงปฏิบัติต่อนางด้วยท่าทีอันเปลี่ยนไปต่างหาก

สิ่งเดียวเขาต้องการคือลูก ลูกๆ รักหนานหว่านเยียนอย่างลึกซึ้ง เขาก็อยากจะรั้งหนานหว่านเยียนเอาไว้อยู่ด้วยกันทำไมจะไม่ได้?

เดิมทีก็เป็นพระชายาของเขา เป็นเมียของเขา

พูดจบเขาก็ลากสังขารอันบาดเจ็บเดินออกไปข้างนอกด้วยความโกรธ

เสิ่นอี่ว์ยืนอยู่ที่เดิมด้วยท่าทางประหลาดใจ ท่านอ๋องโกรธจัดมากจริงๆ แต่ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าท่านอ๋องแลดูหวาดกลัวเล็กน้อย?

ไม่เคยเห็นท่านอ๋องนิสัยที่เช่นนี้มาก่อน และไม่เคยทะเลาะเบาะแว้ง หากว่ามีเรื่องราวคุยไม่ลงตัว เขาก็จะใช้วิธีบางอย่างมายุติ แต่พอขัดแย้งกับพระชายา เขาก็ไม่เคยเห็นทานอ๋องจะลงไม้ลงมือกับพระชายาจริงจังเลยสักที......

เขามองดูรถเข็นที่อยู่ข้างๆ แล้วรีบเข็นตามกู้โม่หานไปทันที “ท่านอ๋อง!ท่านอ๋อง รถเข็นของท่าน......”

หนานหว่านเยียนครั้นได้ยินเสียงกู้โม่หานจากไปไกลแล้ว คิ้วและดวงตาอันบอบบางของนางก็พลันอึมครึมลง

ที่จริงพอได้ฟังที่กู้โม่หานพูดแล้ว รวมถึงเรื่องราวที่ผ่านมา นางก็เชื่อว่ากู้โม่หานจะไม่หลอกใช้ความรักของลูกๆ

เป็นเพียงความรักอันบริสุทธิ์ของผู้เป็นบิดาเท่านั้น

แต่เช่นนี้ก็น่ากลัวไม่แพ้กัน กู้โม่หานจะมายื้อแย่งลูกกับนาง

เช่นนั้นนับแต่นี้ต่อไป นางจะต้องวางแผนต่อไปอย่างเข้มงวดมากขึ้น เพียงแค่กู้จิ่งซานลั่นปากว่าจะปล่อยนางออกไป เช่นนั้นก็คงไม่มีเรื่องใดไม่สำเร็จแล้ว

เดิมทีอวี๋เฟิงปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่หลังสวน แต่เมื่อเขาได้ยินเสียงเอะอะโวยวายที่หน้าเรือน เขาจึงรีบวิ่งมาทันที ครั้นเห็นสีหน้าอึมครึมของหนานหว่านเยียน เขาก็อดกลืนน้ำลายไม่ได้

“พระชายา ท่านไม่เป็นไรนะขอรับ?”

หนานหว่านเยียนอารมณ์ยังไม่สงบ จ้องมองไปที่อวี๋เฟิงอย่างเย็นชา

“ข้าให้เจ้าไปสืบเรื่องหยุนอี่ว์โหรว เจ้าสืบไปถึงไหนแล้ว?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้