ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 307

เอวของนางก็ถูกเขาโอบกอดไว้แน่น ไม่สามารถขยับได้เลย

กู้โม่หานเป็นเหมือนอย่างทหารเทพหล่นลงมาจากฟ้า เสื้อคลุมสีดำพลิ้วไหวตามสายลมยามเย็น ใบหน้าหล่อเหลาราวกับหยกไร้ที่ติ คิ้วเข้มได้รูปขมวดเข้าหากันแน่น รูม่านตาดั่งดวงดาวหรี่แคบลึกลงอย่างเย็นชาและมืดมนอย่างเห็นได้ชัด

ทุกคนต่างตกตะลึง เซียงอวี้อวี๋เฟิงตลอดจนบ่าวใช้คนอื่นๆรีบถวายทำความเคารพกู้โม่หาน “ถวายบังคมท่านอ๋อง”

ซาลาเปาน้อยกับเกี๊ยวน้อยโผล่หัวเล็ก ๆ กลม ๆ มองดูกู้โม่หานกับโม่หวิ่นหมิงไปมา

กับแม่ของพวกนางที่เมามายอยู่นั้น

บรรยากาศตอนนี้ ดูเหมือนจะค่อนข้างไม่ดี?

เดิมหนานหว่านเยียนก็เมาอยู่แล้ว กลับเหมือนถูกพายุหมุนมายังอ้อมแขนของอีกคนหนึ่ง ทำให้ยิ่งเวียนหัว

“เฉิงเหยาจินมาจากไหน กล้าทำกับ....เอ๋ ทำไมมีหนุ่มหล่อหน้ามนมาเพิ่มอีกคน?”

หนานหว่านเยียนขมวดคิ้ว เดิมยังโกรธโมโห หลังจากเงยหน้าขึ้นมาเห็นใบหน้าหล่อเหลาของกู้โม่หาน ก็ยิ้มแย้มแจ่มใสขึ้นมาทันที

นางมองดูกู้โม่หาน แล้วก็หันไปมองดูใบหน้าหล่อเหลาของโม่หวิ่นหมิง ยิ้มหัวเราะอย่างเมามาย

“ไม่เลวไม่เลว คนหนึ่งหล่อดั่งเซียนเทพ คนหนึ่งหล่อเหลาสุขุม ข้าเอาหมดเลย ห่อ ห่อกลับไปให้ข้า”

หนานหว่านเยียนพูดเสร็จแล้วก็ซบเซาลง อิงแอบแนบอกกู้โม่หานอยู่อย่างง่วงนอน

เซียงอวี้กับอวี๋เฟิงฟังอยู่ด้านข้างจนเหงื่อซึมเต็มหลัง

พระชายา ไม่ต้องพูดอีกแล้ว เส้นเลือดท่านอ๋องจะระเบิดแล้ว

โม่หวิ่นหมิงมองดูกู้โม่หานโอบกอดหนานหว่านเยียนไว้แน่น ด้วยสีหน้าบูดบึ้ง

เขาพยายามฝืนกายลุกขึ้นยืน ความเยือกเย็นปกคลุมภายในสายตางดงามดั่งดอกท้อ

“นี่ท่านอ๋องทำอะไร?”

กู้โม่หานรู้ว่าเวลาหนานหว่านเยียนเมาแล้วเป็นยังไง ครั้งที่แล้วเมาก็จำเขาไม่ได้ ยังจะเอาเงินเลี้ยงดูเขาเห็นเขาเป็นชายบริการ

คิดไม่ถึงว่าวันนี้ยิ่งเมา หากเขาช้าไปหนึ่งก้าว ไม่รู้ว่านางจะกระทำเรื่องบ้าบอคอแตกขนาดไหน

ท่าทีของเขาขุ่นเคือง กวาดมองโม่หวิ่นหมิงด้วยสายตาเย็นชา

“ข้าดูแลพระชายา ท่านปู่หมิงมีปัญหาอะไรหรือ?”

โม่หวิ่นหมิงมีปัญหา เขาจะปล่อยให้หนานหว่านเยียนที่กำลังเมามายไปกับกู้โม่หานไม่ได้ กู้โม่หานดูเหมือนไม่สนใจหนานหว่านเยียน แต่ความจริงแล้วเขาสนใจอย่างมาก มีความเป็นเจ้าของอย่างรุนแรง วันนี้หว่านหว่านเมาจนค่อนข้างเลอะเลือน หากก่อนหย่าแล้วมีอะไรกับกู้โม่หาน....

ในใจเขาสะดุ้ง อยากได้คนกลับคืนมา

“หว่านหว่านเมาแล้ว ข้าจะส่งนางกลับไปพักที่ห้อง ไม่ต้องรบกวนท่านอ๋อง”

แขนกู้โม่หานที่โอบเอวหนานหว่านเยียนยิ่งแน่นขึ้น ท่าทีกดดันโม่หวิ่นหมิง

“ข้าดูแลพระชายาเป็นเรื่องที่สมควร ท่านน้าควรหลีกเลี่ยง”

สายตาโม่หวิ่นหมิงเศร้าหมองลง พยายามรักษาความสง่างามไว้

ตราบใดที่หว่านหว่านยังไม่ได้หย่า นางก็ยังเป็นพระชายาของกู้โม่หาน ในฐานะที่เป็น “ท่านน้า” ไม่มีสิทธิ์เข้าไปยุ่งจริงๆ

บรรยากาศทั่วทั้งเรือนเซียงหลินกดดันไปหมด

“คนงาม.....กับข้า ดื่มอีกแก้ว....” หนานหว่านเยียนที่อยู่ในอ้อมอกกู้โม่หานถูกหยิกจนเจ็บ พอได้สติขึ้นมาบ้าง ก็ยิ้มหวานให้กับกู้โม่หาน

ฟันขาวแววตาสดใส แก้มแดงระเรื่อ แลดูมีเสน่ห์

ภายในแววตาของนาง เห็นได้ชัดว่ากำลังมองชายรูปงามแปลกหน้าคนหนึ่งอย่างหลงใหล กู้โม่หานเศร้าหมองลงอย่างฉับพลัน ใบหน้าแดงจนแทบออกควัน

ทันใดนั้นดวงตาของเขาก็มืดมนลง ในใจยิ่งโกรธจัด คว้าหนานหว่านเยียนมาแบกไว้บนบ่า ตบก้นนางหนึ่งที พร้อมพูดขึ้นว่า “หุบปาก”

หนานหว่านเยียนถูกคนแบกอยู่บนบ่า เลือดพลุ่งพล่านเต็มหัวไปหมด ทำให้ยิ่งเวียนหัว จึงไม่พูดอะไรอีก

ทุกคนตกตะลึงทันที

พวกเขามองเห็นอะไร?

ท่านอ๋องไม่เคยทำแบบนี้กับใคร ใกล้ชิดกันต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้

เซียงเหลียนยังคิดว่า ท่านอ๋องทำต่อหน้าท่านปู่หมิง เพื่อประกาศอำนาจของตน?

สีหน้าโม่หวิ่นหมิงยิ่งดำเหมือนอย่างก้นหม้อทันที นิ้วมือเรียวยาวขาวผ่องกำหมัดแน่น

“ขอท่านอ๋องมีมารยาทด้วย”

กู้โม่หานบีบปลายนิ้วไว้แน่น แต่แกล้งทำเป็นเหมือนไม่มีอะไร มองดูโม่หวิ่นหมิงด้วยสายตาเย็นชา

“ข้าไม่ต้องมีมารยาท พระชายาเป็นคนของข้าตั้งแต่แรกแล้ว ตอนนี้เจ้าก็ยังไม่เข้าใจอีกหรือ?”

สีหน้าโม่หวิ่นหมิงยิ่งย่ำแย่

เกี๊ยวน้อยกับซาลาเปาน้อยยกมือกุมปาก มองดูกู้โม่หานแล้วก็มองดูโม่หวิ่นหมิง สุดท้ายก็มองดูหนานหว่านเยียนที่ห้อยหัวอยู่ด้านหลังกู้โม่หาน

“ต่อไปจะให้แม่ดื่มเหล้าไม่ได้อีกแล้ว เวลาไม่มีสติอาจทำให้เกิดปัญหาตามมามากมาย”

สองพี่น้องต่างผงกหัว แล้วก็รู้สึกเป็นห่วงกู้โม่หานกับโม่หวิ่นหมิงขึ้นมา

มองดูสถานการณ์ที่ตึงเครียดนี้ หากพวกเขาต่อสู้กันขึ้นมา จะทำอย่างไรดี?

หนานหว่านเยียนที่อยู่บนบ่ากู้โม่หาน เริ่มรู้สึกทรมานแล้ว ดิ้นรนอย่างต่อเนื่อง พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าปล่อยข้าลงมา ข้าอยากอ้วก ข้ารู้สึกไม่สบาย....”

สมน้ำหน้าที่รู้สึกไม่สบาย

ใครให้นางดื่มเหล้าเยอะขนาดนี้

กู้โม่หานส่งเสียงเมินอย่างเย็นชา แล้วก็ไม่แบกไว้บนบ่า กลายเปลี่ยนเป็นโอบกอดหนานหว่านเยียนไว้ เขาชำเลืองมองเด็กทั้งสองคนที่งุนงงแต่เรียบร้อยแวบหนึ่ง แล้วเดินตรงไปที่ห้องนอน

แขนข้างหนึ่งขวางอยู่ตรงหน้าของเขา

รอบกายโม่หวิ่นหมิงแฝงไปด้วยความเยือกเย็นและอาฆาต สายตาหรี่ลงอย่างดุดัน พร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่รบกวนท่านอ๋อง ในเรือนมีคนมากมายที่สามารถดูแลหว่านหว่านได้"

กู้โม่หานชำเลืองมองโม่หวิ่นหมิงอย่างเย็นชา และก็แฝงไปด้วยความอาฆาตที่เยือกเย็น

“โม่หวิ่นหมิง ความอดทนที่ข้าไม่ต่อเจ้านั้นมีจำกัด เจ้าเป็นแค่คนแปลกหน้า เป็นน้าที่ไม่ใช่สายเลือดเดียวกัน ไม่ใช่น้าของหนานหว่านเยียนที่แท้จริง ตายก็ตายไปเถอะ นางเสียใจไม่นานหรอก อย่าบีบบังคับให้ข้าต้องลงมือ”

พูดเสร็จ เขาใช้เท้าแตะประตูเปิดออก พาหนานหว่านเยียนเข้าห้องไปอย่างไม่หันกลับมา

ประตูห้องถูกปิดดังปัง

สีหน้าโม่หวิ่นหมิงเยือกเย็น แทบจะอดกลั้นไม่ไหว ร่างกายโอนเอน

อวี๋เฟิงรีบเข็นรถเข็นมาให้ พร้อมพูดขึ้นว่า “ท่านปู่หมิง ท่านไม่เป็นไรใช่ไหม?”

โม่หวิ่นหมิงกำหมัดแน่น พร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่เป็นไร แค่ยืนนานไปหน่อย”

พลังกดดันของกู้โม่หาน ทำให้เขาแทบต้านทานไม่ไหว

อวี๋เฟิงพูดขึ้นว่า “ท่านปู่หมิงวางใจ ท่านอ๋องไม่ทำร้ายพระชายาหรอก เขาเพียงแค่อุ้มพระชายาไปพักผ่อน”

ได้ยินแบบนี้ เกี๊ยวน้อยกับซาลาเปาน้อยเดินมาหาอย่างเป็นห่วง ดึงมือโม่หวิ่นหมิงไว้ พร้อมพูดขึ้นว่า

“ท่านปู่หมิงไม่เป็นไรใช่ไหม ท่านต้องพักผ่อนให้ดี ไม่งั้นหากท่านแม่รู้ ก็จะบ่นว่าท่านไม่ดูแลตัวเองดีๆ”

“อืม” โม่หวิ่นหมิงมองดูประตูที่ถูกปิดแน่นด้วยท่าทีซับซ้อน

ใช่หรือ กู้โม่หานเพียงแค่อุ้มหนานหว่านเยียนไปพักผ่อนหรือ?

เขาจะมีสติกับหว่านหว่านขนาดนั้นหรือ?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้