ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 335

นางไม่รู้เรื่องแผนการในจวนอ๋อง ย่อมไม่รู้ว่าหยุนอี่ว์โหรเป็นคนเช่นไร

เท่าที่จำได้ หยุนอี่ว์โหรวชอบกู้โม่หานมาก รอคอยกู้โม่หานมาห้าปีแล้ว

จะมองอย่างไรก็เป็นผู้หญิงที่ดีคนหนึ่ง

หัวใจของหยุนอี่ว์โหรวดิ่งหงอยเหงา แต่ใบหน้ากลับแสร้งทำเป็นเขินอายแบบลูกผู้หญิง

“หวางหมัวมัวล้อเล่นแน่ๆ ช่วงนี้ข้าสุขภาพไม่ค่อยดี และไม่สะดวกที่จะปรนนิบัติท่านอ๋อง โชคดีที่ท่านอ๋องไม่รังเกียจ”

“แต่เมื่อวานไม่ได้ไปงานเลี้ยงในวัง เช้านี้ตื่นขึ้นมาเพิ่งรู้ว่าเสด็จแม่ เสด็จแม่ถูกพากลับไปที่จวนอ๋องแล้ว”

นางพูดพลางมอบผ้าไหมอวิ๋นจิ่นให้กับหวางหมัวมัว “นี่คือผ้าไหมอวิ๋นจิ่นที่ข้าเตรียมไว้ ข้าเกรงว่าเสด็จแม่จะกลับมาอย่างกะทันหัน คนรับใช้ในจวนอ๋องจะดูแลนางไม่ทั่วถึง เตรียมเสื้อผ้าให้เสด็จแม่ไม่ทันเวลา”

“ยังมีพวกนี้ด้วย ทั้งหมดเป็นยาบำรุงดีๆ ท่านต้องเหน็ดเหนื่อยดูแลเสด็จแม่ทั้งกลางวันและกลางคืน ต้องดูสุขภาพให้ดี”

แน่นอนว่าหยุนอี่ว์โหรวไม่มีทางบอกหวางหมัวมัวถึงความสัมพันธ์ของนางกับกู้โม่หานในตอนนี้ อย่างไรนี่เป็นโอกาสสุดท้ายของนาง ต้องคว้ามันไว้ให้แน่น

หวางหมัวมัวรับของจากหยุนอี่ว์โหรว สีหน้าหลากอารมณ์

“ขอบพระทัยพระชายารองหยุนสำหรับน้ำใจ บ่าวขอถามสักนิด ร่างกายของท่านในตอนนี้มีปัญหาอะไรหรือ? จำเป็นต้องไปพบหมอหรือไม่?”

จู่ๆ ดวงตาของหยุนอี่ว์โหรวก็แดงก่ำ ยิ้มมุมปากละมุนละไม

“ไม่เป็นไร เป็นอาการป่วยสืบเนื่องจากที่ช่วยชีวิตท่านอ๋องไว้”

“ท่านอ๋องเป็นห่วงข้า ดูแลข้าเป็นอย่างดี พักฟื้นอีกสักหน่อย ก็จะดีขึ้นในไม่ช้า”

เมื่อได้ยินสิ่งนี้หวางหมัวมัวก็เข้าใจทันที ที่หยุนอี่ว์โหรวร่างกายอ่อนแอก็เพราะเรื่องที่นางลงไปช่วยชีวิตกู้โม่หานในทะเลสาบ

ทันใดนั้น นางก็รู้สึกเป็นห่วงและสงสารหยุนอี่ว์โหรวมากขึ้น “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พระชายารองควรดูแลร่างกายให้ดี อย่าให้อาการแย่ลงไปอีก”

หยุนอี่ว์โหรวยิ้มบางๆ แต่ดวงตากลับมืดมนลง

นางเข้าไปหยิบพัดใบปาล์มบนพื้นขึ้นมา แล้วพัดเตาไฟ “ตอนนี้เสด็จแม่กลับมาแล้ว สุขภาพของเสด็จแม่สำคัญที่สุด”

“ ถ้าหวางหมัวมัวไม่รังเกียจอี่ว์โหรว ต่อไปอี่ว์โหรวจะมาปรุงยาให้เสด็จแม่ทุกวัน ท้ายที่สุดแล้วเสด็จแม่คือคนที่ท่านอ๋องห่วงใยมากที่สุด ถ้าเสด็จแม่ดีขึ้น ท่านอ๋องจะมีความสุขมาก”

หยุนอี่ว์โหรวมีความกตัญญู อ่อนโยนมีน้ำใจ หวางหมัวมัวชอบนางมากขึ้นอย่างช่วยไม่ได้

แต่นางอยู่ในวังมาหลายปีจึงรู้ว่าคนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ ไม่ว่ากับใคร นางก็จะคอยระแวดระวังไว้

นางรีบตอบด้วยรอยยิ้ม “งานใช้แรงกายแบบนี้จะรบกวนพระชายารองหยุนได้ยังไง ให้เป็นหน้าที่ของบ่าวเอง”

“ถึงอย่างไรสิบกว่าปีที่ผ่านมา บ่าวได้ดูแลหยีเฟยเหนียงเหนียงจนเคยชิน หากไม่มีงานนี้ บ่าวก็ไม่รู้ว่าจะไปทำอะไรอยู่”

ว่าแล้วนางก็รับพัดจากมือของหยุนอี่ว์โหรว “ท่านก็พักผ่อนให้มากๆ ดีที่สุดคือมีลูกให้ท่านอ๋อง เช่นนี้หากเหนียงเหนียงตื่นขึ้นมาเห็น นางจะได้ดีใจ”

หยุนอี่ว์โหรวพูดด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ “ข้าจะพยายามทำให้ดีที่สุด ถ้าหวางหมัวมัวไม่มีอะไรกับข้า ข้าขอกลับก่อน เจ้ามีเรื่องอะไรก็บอกข้าอีกที ข้าพักอยู่ในเรือนจู๋หลาน”

“ตกลง บ่าวเข้าใจแล้ว” หวางหมัวมัวยิ้ม เฝ้าดูหยุนอี่ว์โหรวจากไป

หยุนอี่ว์โหรวหันหลังเดินออกจากประตูเรือนไป รอยยิ้มบนใบหน้าแข็งทื่อ กำหมัดแน่น

วันนี้นางมาที่เรือนจิ้งฉานไม่ได้คิดจะทำอะไร แค่หวังว่าจะยืมมือหวางหมัวมัวสร้างภาพความประทับใจให้นางได้ ให้หวางหมัวมัวพูดแก้หน้าให้นางต่อหน้าท่านอ๋อง เช่นนี้นางจะได้มีโอกาสมากขึ้นที่จะคืนดีกับกู้โม่หาน

แต่หากเส้นทางนี้ใช้ไม่ได้ผลล่ะก็…

นางก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องรอให้ถึงวันที่จัดงานวันเกิดกู้โม่หานใกล้เข้ามา แล้วค่อยหาโอกาสวางยาเขา ปล่อยให้เรื่องราวดำเนินไปอย่างไม่อาจหวนกลับได้ตามครรลองที่มันควรจะเป็น

ขอเพียงนางตั้งท้องให้กู้โม่หาน ต่อให้กู้โม่หานไม่ต้องการนาง ก็ต้องเก็บไว้อยู่ดี

คิดได้ดังนั้นนางก็ยิ้มอย่างสบายใจ…

กู้โม่หานและคนอื่นๆ เที่ยวเล่นจนฟ้ามืด รถม้าถึงค่อยๆ จอดลงที่ประตูจวนอ๋อง

เสิ่นอี่ว์ถือเครื่องประดับและขนมถังหูลู่ ส่วนรอบคอของอวี๋เฟิงก็เต็มไปด้วยถุงทั้งหมดเป็นของเล่นของเกี๊ยวน้อยและซาลาเปาน้อย สุนัขทั้งสองเหนื่อยจนแทบคลาน แลบลิ้นหอบแฮ่กๆ

กลับมาถึงเรือนเซียงหลินก่อน จัดการกับสิ่งของในมือและพักผ่อน

หนานหว่านเยียนและกู้โม่หานต่างคนต่างอุ้มเด็กน้อยที่กำลังหลับฝันหวานเดินเข้าไปในห้อง

วางลงและนอนหลับอย่างสงบสุข

กู้โม่หานกล่าว “เด็กสองคนเหนื่อยมากแล้ว ให้พวกนางพักผ่อนเถอะ”

หลังจากซื้อเสื้อผ้าเสร็จ ก็พาเด็กน้อยทั้งสองไปเก็บผลไม้ที่ชนบท สองพี่น้องไม่เคยไปภูเขาหรือทะเลเลย

ในที่สุดก็ได้เห็นวันนี้

เป็นวันที่สนุกสุดเหวี่ยงมาก เดินบนภูเขาไม่หยุดหย่อน แต่ก็เหนื่อยมากจริงๆ พอขึ้นรถม้าก็เริ่มหลับ

หนานหว่านเยียนมองไปทางกู้โม่หาน “ขอบคุณมากสำหรับวันนี้ ข้าไม่ได้เห็นสองเด็กน้อยมีความสุขแบบนี้มานานแล้ว”

เขารู้สึกสบายใจ จ้องมองใบหน้าสะสวยของนางอย่างไม่ละสายตา “ลูกสาวของข้า ข้าเอาอกเอาใจก็เป็นเรื่องที่สมควรแล้ว”

วันนี้หนานหว่านเยียนอารมณ์ดี จึงไม่โต้เถียงกับเขา

นางและเด็กๆ อยู่ในสภาวะตึงเครียดมานาน ในที่สุดวันนี้ถึงได้รู้สึกผ่อนคลายลงบ้าง

นางหวังว่าจะทำทุกอย่างที่อันตรายให้เสร็จโดยเร็วที่สุด แล้วรีบจากไป เช่นนี้ นางจะได้มีคืนวันที่ดีทุกวัน

หนานหว่านเยียนหันหลังเดินออกจากเรือนไป หยิบของขวัญที่นางต้องการมอบให้กับโม่หวิ่นหมิงไปด้วย ขณะที่กำลังจะไปที่ห้องรับแขก ก็ได้ยินเสียงอันอ่อนโยนของโม่หวิ่นหมิง “หว่านหว่าน”

ในตอนเช้าโม่หวิ่นหมิงได้ยินว่าเด็กน้อยถูกหนานหว่านเยียนพาออกนอกจวน เขาจึงให้คนตามไป คิดไม่ถึงว่าวันหนึ่งเต็มๆ ก็ยังไม่เห็นพวกเขากลับมา

เขารู้สึกเป็นกังวล มาที่นี่เพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ไม่คาดคิดว่าจะได้เห็นหนานหว่านเยียน

“ท่านน้า” หนานหว่านเยียนเดินเข้าไปหาโม่หวิ่นหมิงด้วยรอยยิ้ม มอบกล่องผ้าให้เขา “ท่านน้า วันนี้ข้าออกไปเที่ยวเล่นมา ตอนเดินเล่นไปเรื่อยๆ ได้เห็นของพวกนี้ คิดว่าท่านน่าจะชอบ ก็เลยซื้อกลับมา”

“ของที่หว่านหว่านให้ ไม่ว่าจะเป็นอะไร ข้าก็ชอบหมด“ โม่หวิ่นหมิงกำลังจะยิ้ม ในเวลานี้กู้โม่หานได้เดินออกมาจากห้อง ยืดตัวตรง จับจ้องไปที่โม่หวิ่นหมิงด้วยสายตาอันคมกริบ

รอยยิ้มบนใบหน้าของโม่หวิ่นหมิงแข็งทื่อ จางหายลงไปมาก

สีหน้าของกู้โม่หานก็เย็นชาเช่นกัน อารมณ์ดีได้วันเดียว เพียงชั่วพริบตาก็ไม่พอใจอีกแล้ว

หนานหว่านเยียนเห็นเขาไม่รับของขวัญ ก็กำลังจะส่งให้ถึงมือโม่หวิ่นหมิง นางยิ้มกล่าวว่า “ท่านน้า นี่คือของขวัญสำหรับท่าน ขอข้าตรวจขาท่านหน่อย”

ในขณะที่หนานหว่านเยียนกำลังจะมอบกล่อง มือที่มีข้อต่อชัดเจนก็คว้าเอาไว้อย่างแน่นหนา

เสียงของชายหนุ่มไม่พอใจ “หนานหว่านเยียน เจ้า...”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้