ค่ำคืนอันเงียบสงบ
กู้โม่หานรู้ว่าหนานหว่านเยียนและโม่หวิ่นหมิงจะจากกันในไม่ช้า เขาก็รู้สึกสบายใจขึ้นเล็กน้อย
ถึงกระนั้นเขาก็ต้องยอมรับว่าสิ่งที่โม่หวิ่นหมิงพูดยั่วยุเขานั้นมีเหตุผล
เมื่อไม่แข็งแกร่งพอ ก็ไม่สามารถปกป้องคนที่เขาต้องการจะปกป้องได้ดี
หลังจากกู้โม่หานมองตามหลังหยีเฟยไป เขาไปที่ห้องหนังสือโดยไม่รอช้า เขานั่งอยู่หน้าโต๊ะโดยมีหนังสืออยู่ในมือ ข้างหนังสือมีตัวอักษรสัญลักษณ์ “ค่ายเสินเชื่อ”
ตอนนี้เขาตัดสินใจเข้ายึดอำนาจแล้ว ต้องจัดการเรื่องการทหารและรีบชดเชยสิ่งที่เขาทิ้งไว้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
แค่อ่านก็หมดเวลาไปทั้งคืน
“ท่านอ๋อง” เสิ่นอี่ว์รีบร้อนเข้ามา พอเห็นกู้โม่หานกำลังจัดการงานการทหารอย่างเคร่งเครียด ก็ยืนรออยู่ที่ข้างประตูด้วยความเคารพ “ข้าน้อยมีเรื่องรายงาน”
กู้โม่หานมองเขาด้วยดวงตาดำขลับ “เจ้าว่ามา”
เสิ่นอี่ว์พยักหน้าและรีบเดินไปหากู้โม่หาน หยิบจดหมายที่มีลายมือประณีตออกมาแล้วยื่นให้เขา
“ที่ท่านให้ข้าไปพบขุนนางพลเรือนเหล่านั้นก่อนหน้านี้ ข้าน้อยเคยพบหลายครั้งแล้ว เลยคุยกันง่าย”
“ในจำนวนนั้น ขุนนางแปดคนที่นำโดยซือเย่ขอเชิญท่านและพระชายาไปที่หอฮ่านฟังเพื่อร่วมพูดคุย”
กู้โม่หานวางหนังสือในมือลง แล้วรับจดหมายมาเปิดดู
เขาเลิกคิ้วหล่อเหลาขึ้นเล็กน้อย เผยความประหลาดใจออกมา “ซือเย่ไม่ได้บอกว่า เหตุใดถึงเชิญพระชายาด้วย?”
มันมีเหตุผลที่จะเชิญเขา แต่ทำไมถึงต้องเชิญหนานหว่านเยียนไปด้วย?
สีหน้าเสิ่นอี่ว์เต็มไปด้วยความสงสัย เขาส่ายหน้า “ไม่มี ข้าน้อยก็ไม่รู้ว่าพวกเขาคิดอะไรอยู่ แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาอยากให้พระชายาอยู่ที่นั่นมากจริงๆ”
กู้โม่หานพยักหน้า แล้ววางจดหมายลงบนเชิงเทียน
เปลวไฟรวมตัวกันเผาไหม้มุมจดหมายจนเกรียมอย่างรวดเร็ว
เปลวไฟสะท้อนในดวงตาของเขา ร้อนแรงแผดเผา กลืนกินทุกสิ่ง
“อาจเป็นเพราะก่อนหน้านี้หนานหว่านเยียนได้ช่วยข้าไว้เมื่อนานมาแล้ว ขุนนางเหล่านี้คิดว่าข้าและนางรักใคร่ชอบพอกัน ก็เลยลองทำการทดสอบดู ว่าเป็นไปตามที่พวกเขาคาดไว้”
พูดจบจดหมายในมือก็แทบจะไหม้เหลือแค่ปลายนิ้ว เขาขยี้จดหมายอย่างรวดเร็ว ให้มันกลายเป็นควันจางหายไปในอากาศอย่างเงียบงัน
เสิ่นอี่ว์คอยฟังอยู่ข้างๆ “ถ้าอย่างนั้นให้ข้าน้อยไปเตรียมรถม้าตอนนี้เลยไหม?”
“อืม” กู้โม่หานตอบเสียงเบา ไขว้นิ้วเรียวเรียวยาวเป็นชั้นๆ หมุนถ่านดำปี๋ด้วยปลายนิ้วของเขา
หลังจากที่เสิ่นอี่ว์เดินไปแล้ว ดวงตาของเขาก็เย็นชาและเฉียบคมขึ้นมาทันที
ในอดีตเขาไม่เคยต้องการที่จะเอาชนะใจผู้คน
ตอนนี้ถูกบังคับให้เลือกเส้นทางนี้ เสด็จพ่อ ต่อไปท่านจะเสียใจไหมที่ปฏิบัติกับลูกแบบนี้…
เมื่อคิดได้ดังนี้ เขาก็ลุกขึ้นยืน แล้วเดินมุ่งหน้าไปทางเรือนเซียงหลินอย่างรวดเร็ว
ภายในเรือนเซียงหลิน หนานหว่านเยียนนอนกอดเด็กน้อยทั้งสองไว้ในอ้อมแขนนอนฝันหวานสักคืนหนึ่ง
หลังจากล้างหน้าและแปรงฟันตามปกติในตอนเช้า นางก็สวมเสื้อคลุมและส่งเด็กหญิงทั้งสองไปที่วังหลังเพื่อเข้าเรียนกับอาจารย์และบรรดาหมัวมัว ตอนกลับมา แค่ระยะทางสั้นๆ ก็ทำให้นางหนาวสั่นแล้ว
“โอ้ย อากาศหนาวชะมัดเลย เป็นฤดูกาลนี้แล้ว ทำไมตอนเช้ายังหนาวอยู่…”
หนานหว่านเยียนถูมือ แล้ววิ่งเข้าไปในห้องเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่ทันทีที่นางเข้ามา รอยยิ้มบนใบหน้าของนางก็แข็งทื่อทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้
อ่าน ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 998 - 1,846 www.sunnewsfocus.com...
อ่านยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 998 - 1846 sunnewsfocus.com นะคะ...
ขัดใจหลายหย่าง 1. นางเอก - ก็รู้ว่าตัวเองสู้เเพ้อ๋องทุกครั้ง เเทนที่จะฝึกวิชาป้องกันตัวบ้าง เเต่ก็ไม่เห็นทำไร 2. ลูก - ก็เห็นอยู่ว่าเเม่ตัวเองทุกข์ใจที่ต้องอยู่กับอ๋อง เเทนที่จะสนับสนุนให้เลิก เเต่ยังจะให้คบกันต่อ คือพวกเอ็งจะขาดพ่อไม่ได้เลยรึไงฟะ 3. อ๋อง - รักเเต่ใช้วิธีผิด นางไม่ยอมก็ขังนางไว้ เจอผู้ชายคนไหนก็ขู่จะทำร้ายเค้า ? เป็นพระเอกที่ห่วยบัดซบ...
ใครที่คิดว่าหนานหว่านเยียนอคติเกินไป ลองย้อนไปดูสิ่งที่กู้โม่หานทำกับนางเอกในช่วงแรกๆ ว่ามันสมควรให้อภัยกันง่ายๆมั้ย...
ไม่แปลกหรอกที่นางเอกจะเกลียดกู้โม่หาน และไม่ยอมให้อภัยกู้โม่หาน ก่อนหน้านั้นหนานหว่านเยียนโดนทำร้ายทั้งกายและจิตใจมามาก โดนจับขังในเรือนเย็น ทั้งตั้งท้องลูก คลอดลูกเอง เลี้ยงเอง ข้าวที่จะกินแทบจะหาไม่ได้ พระเอกมักจะเลือกช่วยหยุนอี่โหรวก่อนนางเอกเสมอ สมควรได้รับที่สิ่งทำไว้ในอดีต นางเอกไม่ได้ทำอะไรผิดแต่โดนพระเอกกระทำมาโดยตลอด...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
กลับมาอัพเดทหน่อยจ้า..แอด,😁😁...
รออัพเดทนะคะ...
ขอเรื่อง หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์...