ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 340

หนานหว่านเยียนอยากจะชกหน้าเขาจริงๆ แต่ก็อดทนไว้ แสยะมุมปากพูดว่า “หลงตัวเอง ข้าแค่อยากจะบอกว่า ผู้คนจำนวนมาก ล้วนแต่เป็นชายชราที่มีบุคลิกภาพเป็นปัญญาชน มีความเย่อหยิ่งมีศักดิ์ศรีของตัวเอง ท่านทำให้พวกเขามายืนข้างท่านได้ ก็นับว่าโชคดีมากแล้ว”

พูดตามตรง ในตอนแรกนางยังคิดว่างานเลี้ยงน้ำชานี้จะกลายเป็นการประชุมที่จริงจังและเย็นชา พูดไปพูดมาก็ไม่ได้ความจริงจากใจอยู่ดี แต่นางไม่คาดคิดว่ากู้โม่หานจะตรงไปตรงมาขนาดนี้ เป้าหมายของเขาชัดเจนมาก

พูดจนขุนนางพวกนั้นตั้งตัวรับไม่ทัน ผลลัพธ์ก็ไม่เลว

หลังจากคิดอยู่พักหนึ่ง นางก็วางขาที่เจ็บลง หาท่วงทาที่สบาย “เจ้าคารมไม่ธรรมดา ขอเพียงไปเยี่ยมกระท่อมสามครั้ง(การไปเชื้อเชิญขอความช่วยเหลือหรือไปเยี่ยมเยียนด้วยความจริงใจ) คนเหล่านี้จะเป็นของคุณโดยพื้นฐาน”

“หืม? เยี่ยมกระท่อมอะไร?” กู้โม่หานคิ้วขมวดขึ้นเรื่อยๆ พอเห็นหนานหว่านเยียนห่างจากเขาไปอีก ในใจก็ยิ่งหงุดหงิด

เขาจึงลุกขึ้นอย่างสง่างาม ก้าวเท้ายาวไปทางด้านหนึ่ง แล้วนั่งลงข้างๆ หนานหว่านเยียน

เขาหันหน้าไป จ้องมองสตรีผู้มีท่าทีระแวดระวังอย่างจริงจัง “ได้ยินไม่ชัด”

หนานหว่านเยียนทำอะไรเขาไม่ได้ เมื่อคิดให้รอบคอบ บรรพบุรุษเหล่านี้ไม่เข้าใจความหมายของคำว่าไปเยี่ยมกระท่อมสามครั้งจริงๆ ดังนั้นนางจึงลุกขึ้นนั่งและอธิบาย

“เยี่ยมกระท่อมสามครั้ง ความหมายก็ตามชื่อเลย คือการไปเยี่ยมที่กระท่อมสามครั้ง กระท่อมเป็นชื่อสถานที่”

“กาลครั้งหนึ่งเคยมีคนผู้หนึ่งที่มุ่งมั่นจะพิชิตโลก ต้องการเอาชนะนักปราชญ์ด้วยวิธีการทุกรูปแบบ ดังนั้นเขาจึงไม่เกรงกลัวต่อความยากลำบาก ไปเยี่ยมเยียนนักปราชญ์ผู้นี้สามครั้งติดต่อกัน ในที่สุดด้วยความจริงใจของเขา ทุกอย่างก็เป็นไปได้ เขาได้ในทุกสิ่งที่ต้องการ แล้วยังได้โลกใบนี้อีกด้วย”

ไม่รู้ทำไม กู้โม่หานมองผู้หญิงที่อยู่ใกล้เขาแค่คืบที่พูดจาเป็นคุ้งเป็นแคว ในใจเกิดความประหลาดใจเล็กน้อย ยิ่งไปกว่านั้น ยังจดจำและชื่นชมนาง

เขายิ่งรู้สึกว่า หนานหว่านเยียนในตอนนี้เป็นเหมือนดวงดาวยามค่ำคืน ที่ส่องแสงสว่างระยิบระยับได้ตลอดเวลา

นอกจากใบหน้านี้ นางไม่มีความคล้ายคลึงกับหนานหว่านเยียนคนก่อนเลย

สายตาของกู้โม่หานลุ่มลึก “คิดไม่ถึงเลยว่า เจ้าจะรู้อะไรมากมาย”

เมื่อหนานหว่านเยียนได้รับคำชม จมูกของนางก็เชิดขึ้น “แน่นอน ข้ารู้อะไรมากมาย!”

เมื่อกู้โม่หานเห็นความภาคภูมิใจของนาง ก็อดมีความคิดที่จะหยอกล้อนางไม่ได้

“พระชายารู้หลายสิ่งหลายอย่างจริงๆ ชอบอ่านหนังสือทุกประเภท เช่นเดียวกับพวกหนังสือที่อ่านเมื่อเช้านี้ คิดว่ามีเรื่องที่ยังรู้อีกมาก”

หนานหว่านเยียนเอามือปิดปากของกู้โม่หาน

นางกัดฟัน สีหน้าดูเคอะเขินอย่างเห็นได้ชัด “ข้ากำลังอ่านพวกคัมภีร์แพทย์จีนอยู่ ไม่ใช่อย่างที่ท่านพูดสักหน่อย”

สัมผัสที่อ่อนโยนทำให้ร่างกายของเขาแข็งทื่อ ไม่นานก็ได้สติกลับมา มือใหญ่จับข้อมือของนาง พลันเลิกคิ้วขึ้น

“ข้าไม่ได้พูดอะไรไม่ดีเลย เจ้าต่างหากที่ส่อพิรุธเอง?”

“แต่ว่า เจ้าชอบหนังสือประเภทนั้น หรือว่า…เจ้าจะเหงา?”

เขาจงใจดึงหนานหว่านเยียนเข้ามาในอก น้ำเสียงทุ้มต่ำฟังดูเหมือนหมอกควันอันเลือนราง

“เหงาอะไร?” นางชอบอ่านนิยาย แค่ต้องการผ่อนคลายเท่านั้น หนานหว่านเยียนปัดมือของเขา “ข้าคิดว่าเป็นเพราะข้าชอบ ทุกคนเป็นผู้ใหญ่กันหมดแล้ว ท่านก็อย่าแสร้งทำเป็นบริสุทธิ์ผุดผ่อง ชอบยุ่งแต่เรื่องของข้า ข้าไม่เชื่อหรอกว่าท่านไม่เคยดูรูปโป๊เปลือย”

ชายหญิงจะเหมือนกันได้อย่างไร?

แม้ว่าเขาจะไม่เคยเห็นของเหล่านั้นมาก่อนจริงๆ

เมื่อก่อนเขาไม่สนใจ ไม่มีความต้องการ จะไปดูของพวกนั้นทำไม?

แต่เมื่อไม่นานมานี้…

กู้โม่หานหยุดความคิดของตัวเอง แล้วนึกถึบางสิ่งได้ในทันใด เขาจับคางของนาง จ้องมองนางไม่วางตา

“หนานหว่านเยียน เมื่อก่อนข้าเคยดึงเสื้อผ้าของเจ้า แต่เจ้าหวงตัวยิ่งกว่าลูกสุนัขจิ้งจอก หน้าแดงหูแดงเขินอายเหลือเกิน ข้ายังคิดว่าเจ้าช่างเป็นผู้หญิงที่ใสซื่อบริสุทธิ์จริงๆ”

“ตอนนี้ดูเหมือนว่า เจ้าเข้าใจทุกอย่างแล้ว กล้าดียังไงมาเล่นตลกกับข้าตอนนั้น เจ้าสมควรได้รับโทษอะไรดี?”

เขาไม่เพียงนึกถึงเรื่องนี้เท่านั้น เขายังนึกถึงครั้งแรกของหนานหว่านเยียน ไม่ใช่ของเขา

ทันใดนั้น เขาก็รู้สึกไม่พอใจและหงุดหงิดมาก

ในอดีตเขาแค่เกลียดที่หนานหว่านเยียนไม่เพียงแต่น่ารำคาญ แต่ยังปล่อยตัวสำส่อนสวมเขาให้เขาอีกด้วย แต่ตอนนี้เขากลับสนใจความจริงในตอนนั้นโดยไม่มีเหตุผล

เขาอยากรู้เหลือเกินว่าครั้งแรกของนาง ได้มอบให้กับไอ้สารเลวตัวไหนกันแน่…

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้