ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 341

หนานหว่านเยียนถูกเขาพูดจนรู้สึกไม่เป็นสุข พยายามพูดแก้ต่างให้ตนเองว่า “เจ้าลงโทษข้าไม่ได้ ทุกครั้งที่เจ้าแตะต้องตัวข้า สายตาเหมือนอย่างจะกินคน เป็นใครใครก็หวาดกลัว ที่ข้ามีการตอบโต้แบบนั้นถือว่าสมเหตุสมผล”

เขาเพียงจับจ้องมองดูนาง รอบกายเต็มไปด้วยความกดดัน หนานหว่านเยียนรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก เงียบไม่พูดอะไร

กู้โม่หานไม่สนใจการหยอกล้อของนางที่ผ่านแล้ว ตอนนี้เขาเพียงแค่อยากจะถามนางว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร แต่เขาเพิ่งรู้ว่า ไม่ว่าจะถามหรือไม่ถาม คนที่หงุดหงิดก็ล้วนเป็นตัวเขาเอง

จู่ๆ กู้โม่หานค่อนข้างโกรธจัด มองดูนางพร้อมพูดขึ้นว่า “หนานหว่านเยียน ข้าไม่สนว่าเจ้าจะมีความลับอีกมากน้อยแค่ไหน ยังมีหนังสือที่น่าละอายแอบซ่อนอีกกี่เล่ม หรือไปพัวพันกับชายอื่นอีก ต่อไปหากมีเรื่องไหนปรากฏตรงหน้าข้า ข้าไม่ปล่อยไว้แน่”

เขาเปลี่ยนเรื่องพูดอย่างรวดเร็วมาก หนานหว่านเยียนแทบตามไม่ทัน

นางมองดูใบหน้าที่บูดบึ้งของกู้โม่หาน อารมณ์ท่าทีเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย คิดว่าเขาคงไม่เห็นถึงความผิดปกติอะไรมั้ง

แต่รูปร่างหน้าตาของนางเป็นของเจ้าของร่างเดิม เขาจะดูออกได้อย่างไรว่าวิญญาณเปลี่ยนไปแล้ว

กลัวว่าจะทำให้เขาคิดมากอีก ยิ่งพูดก็ยิ่งผิด นางจึงพูดตอบอย่างเชื่อฟังว่า “ขอเพียงเจ้าไม่หาเรื่อง ข้าก็จะไม่สร้างเรื่อง ตอนนี้วางบุญคุณความแค้นส่วนตัวระหว่างเราก่อน เรื่องแย่งชิงอำนาจสำคัญที่สุด”

กู้โม่หานกวาดสายตามองดูนางแวบหนึ่ง อารมณ์ท่าทีค่อยๆเย็นชาลง พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้ารู้”

ตอนพลบค่ำ รถม้ามาจอดตรงหน้าประตูจวนอ๋องอี้

หนานหว่านเยียนกับกู้โม่หานลงตามกันมาจากรถม้า พร้อมเข้าไปในจวน

หวางหมัวมัวเดินออกมาพอดี มองเห็นกู้โม่หาน ดวงตาสั่นไหวเล็กน้อย

“พระชายา ท่านอ๋อง พวกเจ้ากลับมาแล้วหรือ”

หวางหมัวมัรีบเดินมารับ แล้วก็มองดูหนานหว่านเยียนอย่างค่อนข้างลำบากใจ

“ข้ากลับเรือนก่อน หวางหมัวมัว สองวันนี้ควรเปลี่ยนยาเสด็จแม่แล้ว พรุ่งนี้ข้าเอาไปให้ที่เรือนจิ้งฉาน” หนานหว่านเยียนฉลาด รู้ว่านางมีเรื่องจะคุยกับกู้โม่หานเป็นการส่วนตัว

“บ่าวรับทราบ ขอบพระทัยพระชายา” หวางหมัวมัวตอบอย่างซาบซึ้ง จากนั้นก็มองดูหนานหว่านเยียนจากไป

กู้โม่หานหันไปมองหวางหมัวมัว พร้อมถามขึ้นว่า “หมัวมัวมีเรื่องจะพูด?”

ไม่อย่างนั้นจะออกจากเรือนมาได้อย่างไร ปกติหมัวมัวเฝ้าอยู่ในห้องของเสด็จแม่

หวางหมัวมัวถอนหายใจเบา แววตาฉายแววรู้สึกผิด

“ท่านอ๋อง พระชายารองหยุนกตัญญู รู้ว่าเหนียงเหนียงกลับมา ก็หอบร่างกายที่อ่อนแอ มาช่วยบ่าวต้มยาให้กับหยีเฟยเหนียงเหนียง แต่ดูเหมือนอาการของนางกำเริบ วันนี้จึงถูกน้ำร้อนลวกมือ บาดแผลค่อนข้างสาหัส บ่าวให้คนมารักษาแล้ว”

ได้ยินแบบนี้ เดิมคิ้วปกติของกู้โม่หานก็ขมวดย่นขึ้นมา แววตาแฝงไปด้วยความเย็นชา พร้อมพูดขึ้นว่า “ต้มยาให้เสด็จแม่?”

หวางหมัวมัวมองไม่เห็นถึงความผิดปกติ จึงพูดต่อไปอีกว่า “ใช่ บ่าวบอกแล้วว่าไม่ต้อง แต่พระชายารองหยุนยืนยันจะทำเอง ยังพูดว่าท่านอ๋องดูแลนางเป็นอย่างดี นางจะลืมบุญคุณไม่ได้ บ่าวใจอ่อนจึง...ขอท่านอ๋องโปรดอภัย”

ดวงตากู้โม่หานสั่นไหวเล็กน้อย พร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่เกี่ยวกับหมัวมัว ข้ารู้แล้ว”

หวางหมัวมัวรีบผงกหัว รู้ว่ากู้โม่หานชอบหยุนอี่ว์โหรว รีบล้วงเอาขวดยามาจากในแขนเสื้อยื่นให้เขา

“ท่านอ๋องจะไปดูพระชายารองใช่ไหม นี่เป็นยารักษาบาดแผลน้ำร้อนลวก ตอนที่ท่านไปหาพระชายารอง ทายาให้นางด้วย บ่าวเห็นว่าพระชายารองเชื่อฟังดี แค่ร่างกายอ่อนแอไปหน่อย ต้องบำรุงรักษา ถึงจะสามารถมีลูกให้ท่านอ๋องได้”

มีลูก.....

กู้โม่หานขมวดคิ้ว สีหน้าเยือกเย็นลง

หวางหมัวมัวเห็นเขาไม่ขยับไม่พูด จึงถามขึ้นว่า “ท่านอ๋อง? ท่านอย่าใจลอยแล้ว รีบไปหาพระชายารองเถอะ”

กู้โม่หานคิดไปคิดมา รับยามาพร้อมพูดขึ้นว่า “ข้ารู้แล้ว ข้าจะไปดูนาง”

พูดเสร็จ เขาก็เดินหายลับไปจากสายตาหวางหมัวมัว

หยุนอี่ว์โหรวบาดเจ็บเพราะต้มยาให้เสด็จแม่ เขาควรที่จะไปดู

กู้โม่หานเก็บขวดยาไว้ในกระเป๋าแขนเสื้อ แล้วเดินไปทิศทางเรือนจู๋หลาน

ตรงหน้าประตูเรือน จ้างฮวามองเห็นกู้โม่หานมาแต่ไกล สายตาสั่นไหว พร้อมรีบไปรับอย่างนอบน้อมว่า “จ้างฮวา ถวายบังคมท่านอ๋อง”

กู้โม่หานหรี่ตาเหลือบมองดูนางอย่างเย็นชา พร้อมพูดขึ้นว่า “พระชายารองหยุนล่ะ?”

สายตาจ้างฮวามืดหมองลงเล็กน้อย กลับพูดขึ้นด้วยสีหน้าเป็นกังวลว่า

“เรียนท่านอ๋อง วันนี้พระชายารองหยุนตื่นแต่เช้าไปยังเรือนจิ้งฉานเพื่อต้มยาให้กับหยีเฟยเหนียงเหนียง แต่ถูกน้ำร้อนลวกมืออย่างไม่ได้ตั้งใจ ตอนนี้กำลังนั่งอยู่ในห้อง โทษตัวเองว่าทำได้ไม่ดี ทำให้หวางหมัวมัวต้องเป็นห่วง”

“อืม” ขนตายาวของกู้โม่หานเคลื่อนไหวเล็กน้อย ไม่ได้พูดอะไรอีก เดินมาหยุดตรงหน้าประตูสักพัก คิดถึงแววตาคาดหวังของหวางหมัวมัว จึงยังคงผลักประตูเดินเข้าไป

“ท่านอ๋อง?” หยุนอี่ว์โหรวมองเห็นเงาร่างสูงใหญ่ของกู้โม่หานราวกับเทพสวรรค์มาโปรด ดวงตาทั้งคู่เป็นประกายแวววาว พร้อมพูดออกมาอย่างดีใจว่า “ท่านมาได้อย่างไร?”

นางลุกขึ้นมาจากข้างโต๊ะ รีบเดินออกมาน้อมตัวต้อนรับ พร้อมพูดขึ้นว่า “โหรวเอ๋อร์ไม่ได้เตรียมการต้อนรับ ขอท่านอ๋องโปรดอภัย”

กู้โม่หานพูดขึ้นมาว่า “ลุกขึ้นมาเถอะ”

หยุนอี่ว์โหรวลุกขึ้นมา มองดูเขาอย่างยิ้มแย้ม

เขามองดูมือของนาง สายตาหยุนอี่ว์โหรวสั่นไหว เอามือไปไว้ข้างหลัง ตั้งใจจะปกปิดบาดแผลน้ำร้อนที่ลวกมือจนเป็นแผลน่ากลัว

นางแสดงท่าทีอ่อนหวานเชื่อฟัง พร้อมพูดขึ้นว่า “โหรวเอ๋อร์ได้ยินว่าท่านกับพระชายาออกไปข้างนอก คิดว่าหวางหมัวมัวอยู่ที่เรือนจิ้งฉานคนเดียวอาจจะเหนื่อย จึงอยากไปช่วยนาง แต่ซุ่มซ่าม ทำให้ตนเองบาดเจ็บ แต่ท่านอ๋องไม่ต้องห่วง โหรวเอ๋อร์ไม่เป็นอะไรมาก"

ที่จริงบาดแผลค่อนข้างสาหัส จนบวมขึ้นมาแล้ว

กู้โม่หานหันไปมองทางอื่นอย่างเงียบๆ ล้วงเอายาที่หวางหมัวมัวให้เขายื่นให้หยุนอี่ว์โหรวด้วยคิ้วขมวด

“ข้ารู้ว่าเจ้าหวังดี แต่ต่อไปอย่าไปต้มยาที่เรือนจิ้งฉานอีก พักผ่อนอยู่ในเรือนดีๆ”

“เรื่องเสด็จแม่ มีหวางหมัวมัวคอยดูแล ยังมีบ่าวใช้คนอื่นคอยช่วย เจ้าไม่ต้องห่วง นี่เป็นยารักษาแผลน้ำร้อนลวก เจ้ารับไว้ ให้สาวใช้ของเจ้าทาให้เจ้าทุกวัน”

เขาขีดเส้นกั้นระหว่างเขากับหยุนอี่ว์โหรวแต่แรกแล้ว

พวกเขาสองคนไม่มีความสัมพันแบบชู้สาว แต่เขาคำนึงถึงบุญคุณที่นางเคยช่วยชีวิต ยังไงก็ไม่ใจร้ายกับนาง

แต่หยุนอี่ว์โหรวกลับอึ้ง ดวงตาแดงๆขึ้นมา

นางมองดูกู้โม่หานอย่างน้อยใจ ใช้มือที่ถูกน้ำร้อนลวกคว้าจับแขนเสื้อของนางไว้ พร้อมพูดขึ้นว่า “ท่านอ๋องเห็นว่าโหรวเอ๋อร์โง่มากใช่ไหม เรื่องแค่นี้ก็ทำได้ไม่ดี"

กู้โม่หานชักเสื้อคลุมตนเองกลับมา พูดขึ้นด้วยท่าทีซับซ้อนว่า “ไม่ใช่ เพียงแค่ไม่มีความจำเป็น”

หยุนอี่ว์โหรวกัดริมฝีปาก แล้วพูดกับจ้างฮวาที่อยู่ด้านข้างว่า “เจ้ารีบไปชงน้ำชาให้ท่านอ๋อง เอาขนมที่ข้าทำมาด้วย ท่านอ๋องชอบทาน”

นางต้องรั้งกู้โม่หานไว้

หวางหมัวมัวช่วยนางแล้ว หากรักษาโอกาสไว้ไม่ได้ งั้นก็เป็นปัญหาของตนเองแล้ว....

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้