ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 347

เช้าวันรุ่งขึ้นตอนที่กู้โม่หานตื่นขึ้นมา หัวสมองว่างเปล่า หนังตาหนักจนแทบจะลืมขึ้นมาไม่ได้

“เสิ่นอี่ว์”

“ข้าน้อยอยู่”

เสิ่นอี่ว์ได้ยินเสียงร้องเรียก ก็รีบวิ่งเข้ามาทางหน้าประตู

กู้โม่หานมองดูเขา พร้อมถามขึ้นด้วยสีหน้ามึนงงว่า “เมื่อวานใครเป็นคนช่วยข้า?”

เมื่อวานเขาจำได้เพียงว่าไปยังสระอาบน้ำพร้อมกับหนานหว่านเยียน จากนั้นทั้งสองคนก็ตกลงน้ำ ความทรงจำหลังจากนั้นก็เริ่มวุ่นวาย

หวนคิดถึงภาพที่น่ากลัวที่สุดตอนเป็นเด็กอย่างต่อเนื่อง และยังคิดถึงภาพตอนที่ถูกช่วยเหลือขึ้นมา

เสิ่นอี่ว์รีบถามขึ้นทันทีว่า “ท่านอ๋อง พระชายาช่วยท่านไว้ และพระชายาก็ให้ยาถอนพิษแก่ท่าน”

เป็นหนานหว่านเยียนที่ช่วยชีวิตเขาไว้

เขานึกว่าเมื่อวาน เขากระทำกับนางขนาดนั้น นางจะต้องโกรธโมโห ไม่ให้เขาได้สุขสบายแน่

แต่ทำไมถึงได้รู้สึกคุ้นเคยขนาดนั้น......

คิดถึงคำพูดหนานหว่านเยียนที่พูดว่าเคยช่วยชีวิตเขาไว้พวกนั้น กู้โม่หานขมวดคิ้วแน่น กำผ้าห่มไว้แน่นอยู่อย่างครุ่นคิด แล้วถามขึ้นว่า “ตอนนี้พระชายาอยู่ที่ไหน?”

“คือ.....” เสิ่นอี่ว์ยกมือเกาหัวอยู่อย่างค่อนข้างลำบากใจ พร้อมพูดขึ้นว่า “วันนี้พระชายาจัดงานเลี้ยงเล็กๆในเรือนเซียงหลิน บอกว่าเพื่อช่วยคลายเครียดให้กับพระชายารอง แต่....”

หนานหว่านเยียนจัดงานเลี้ยงให้กับหยุนอี่ว์โหรว?

สีหน้ากู้โม่หานเผยให้เห็นถึงอาการตกตะลึง นี่เป็นไปได้อย่างไร พร้อมพูดขึ้นว่า “พูดออกมา ไม่ต้องเก็บซ่อนไว้”

“ขอรับ” เสิ่นอี่ว์พูดขึ้นว่า “พระชายาเชิญแม่นางเจียงของจวนไท่ฟู่ ตลอดจนคุณหนูขุนนางตระกูลใหญ่ในเมืองหลวง ล้วนเป็นคุณหนูที่พระชายารองเคยเรียนเชิญมา อีกอย่าง พระชายาเชื้อเชิญพระชายารอง บอกว่าในเมื่อท่านอ๋องไม่กักบริเวณแล้ว งั้นก็ไม่ต้องกักบริเวณแล้ว”

เมื่อคืนหนานหว่านเยียนยังพูดว่าไม่อยากเห็นหยุนอี่ว์โหรวอีก วันนี้ทำไมถึงเป็นฝ่ายไปหานางก่อน?

นางกำลังคิดจะทำอะไร?

กู้โม่หานไม่มีทางรู้ว่า เมื่อคืนหนานหว่านเยียนกระทำให้โกรธกริ้วอย่างมาก จึงอยากที่จะสั่งสอนหยุนอี่ว์โหรว ให้นางกินลูกกลอนพูดความจริง เปิดเผยธาตุแท้ออกมา จะได้ไม่ต้องก่อเรื่องไปเรื่อยๆ

กู้โม่หานกระตุกคิ้ว แววตาเยือกเย็นจนเสิ่นอี่ว์ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่

เขาลงมาจากเตียง รีบเปลี่ยนเสื้อผ้า พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าจะไปดู เจ้าไม่ต้องตามไป”

“ขอรับ” สิ่นอี่ว์รีบยกมือประสานอย่างนอบน้อม มองดูเงาหลังกู้โม่หานหายลับไป ในใจรู้สึกไม่สงบอย่างบอกไม่ถูก

วันนี้พระชายากระทำอย่างไม่ปกติ ยังไม่รู้ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่ขอให้คนที่ซวยไม่ใช่ท่านอ๋อง....

ในเรือนเซียงหลิน เวลานี้

หนานหว่านเยียนให้ลูกทั้งสองพี่น้องไปเรียนหนังสือ แล้วก็ตั้งโต๊ะกลมอยู่ในลานไว้ตั้งแต่แรกแล้ว ยกน้ำชาขึ้นมาดื่มอย่างใจเย็น พร้อมรอดูเรื่องสนุก

ทันใดนั้น ด้านนอกลานมีเสียงดังขึ้นมาว่า “หม่อมฉันถวายบังคมพระชายา....”

หนานหว่านเยียนเงยหน้า แล้วก็เห็นเจียงหรูเยว่ พาคุณหนูของแต่ละตระกูลมามากมาย กำลังเดินเข้ามาในลานด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

มีประสบการณ์สองครั้งก่อนที่ผ่านมา ตอนนี้เจียงหรูเยว่หวั่นเกรงหนานหว่านเยียนอย่างมาก

เมื่อนางเข้ามา ก็รีบถวายความเคารพหนานหว่านเยียนก่อน

หนานหว่านเยียนมองดูพวกนาง คิ้วงดงามเลิกขึ้นเล็กน้อย พร้อมแสร้งพูดอย่างเป็นมิตรว่า “ที่ข้าเชิญทุกคนมาในวันนี้ เพราะอยากช่วยคลายเหงาให้กับพระชายารองหยุน ทุกคนอยากพูดคุยอะไรกันก็ตามสบาย ไม่ต้องพิธีรีตอง ทุกคนนั่งลง”

“เพคะ พระชายา” ทุกคนต่างนั่งลง

หนานหว่านเยียนก็วางถ้วยชาลง นิ้วมือสั่นไหวอย่างควบคุมไม่ได้

แย่จริงๆ

เมื่อคืน เพื่อล้วงกู้โม่หานขึ้นมาจากสระอาบน้ำ นางต้องสูญเสียกำลังอย่างมาก จนกล้ามเนื้อเจ็บปวดไปหมด แทบจะทำให้ตนเองเหนื่อยจนหมดแรง

คนตัวโตขนาดนั้นแล้ว ยังว่ายน้ำไม่เป็น ต้องให้นางไปช่วย และทั่วร่างกายของเขาเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ ตัวหนักอย่างมาก

เขามีอาการจมน้ำจริงๆ หมดสติไม่รู้ตัว นางรีบผายปอดให้เขา จากนั้นก็ฝังเข็มป้อนยาให้เขาช่วยเขาถอนพิษ

ยิ่งทำเรื่องพวกนี้แล้วนางก็ยิ่งโกรธโมโห ทำไมความชั่วร้ายที่หยุนอี่ว์โหรวกระทำ นางจะต้องเป็นคนรับผลที่ตามมา เกือบจะเสียตัว ตกน้ำเย็นจนตัวสั่นยังต้องช่วยชีวิตคน เก็บกวาดเรื่องเละเทะ

กู้โม่หานไม่ลงโทษผู้หญิงเสแสร้ง แต่นางต้องทำอะไร ไม่อย่างนั้นนางไม่สามารถที่จะระบายความแค้นได้

หนานหว่านเยียนกำลังครุ่นคิดอยู่ เจียงหรูเยว่มองดูสีหน้าหนานหว่านเยียนที่เหมือนยิ้มแต่ไม่ยิ้ม เดาไม่ออกว่านางคิดอยากทำอะไร

หยุนอี่ว์โหรวกับหนานหว่านเยียนไม่ถูกกัน แต่ตอนนี้หนานหว่านเยียนกลับจัดงานเลี้ยงเพื่อให้หยุนอี่ว์โหรวคลายเหงา ความสัมพันดีกันถึงขนาดนี้แล้วหรือ?

ในขณะที่กำลังคิดอยู่ เจียงหรูเยว่ก็เห็นหยุนอี่ว์โหรวเดินมา ท่าทีค่อนข้างขาวซีด แต่ก็ยืนอยู่ด้านนอกลาน ยังมีวี่แววที่เหมือนคิดจะย้อนกลับไป นางรีบพูดขึ้นว่า “พระชายารองหยุนมาแล้วหรือ ทำไมถึงยืนอยู่ด้านนอกไม่เข้ามาล่ะ?”

หยุนอี่ว์โหรวกำลังครุ่นคิดกับการกระทำของหนานหว่านเยียนในวันนี้ คิดว่ายังไงเรื่องนี้ก็ต้องเป็นแผน แล้วก็เป็นอย่างที่คิด เพิ่งมาถึงเรือนเซียงหลิน ก็มองเห็นพวกคุณหนูตระกูลใหญ่ปากพล่อยมากมาย

นางอยากย้อนกลับไปทันที กลับถูกเจียงหรูเยว่ร้องเรียกไว้ สายทางทุกคนล้วนหันมามองนาง

รวมทั้งสายตาของหนานหว่านเยียน นางค่อยๆหันมามองหยุนอี่ว์โหรว พร้อมพูดขึ้นว่า “พระชายารอง ทำไมไม่เข้ามา?”

หยุนอี่ว์โหรวชะงักฝีเท้าทันที สายตาฉายแววเยือกเย็น

หนานหว่านเยียน นังสารเลว นางคิดอยากทำอะไรกันแน่?

นางขมวดคิ้วอดกลั้นไว้ หันเดินเข้าไปพร้อมกับจ้างฮวา บนหน้างดงามขาวซีดเผยรอยยิ้มแย้ม

“เรียนพระชายา เมื่อกี้หม่อมฉันเห็นมีคนอยู่เยอะ จึงนึกว่ามาผิดที่”

เจียงหรูเยว่พูดขึ้นมาอย่างสงสัยว่า “ทำไมเจ้าไม่รู้หรือ? วันนี้พระชายาตั้งใจเรียกพวกเรามา เพื่อคลายเหงาให้กับเจ้า”

หยุนอี่ว์โหรวนั่งลงด้านข้างเจียงหรูเยว่ สีหน้ายังคงยิ้มแย้ม

“ข้ารู้ ข้าแค่ไม่คิดว่า ทุกคนจะมาหมด”

พูดเสร็จ นางเหลือบมองดูบนคอของหนานหว่านเยียน มีร่องรอยกัดอย่างเด่นชัด เห็นได้ชัดเจนขนาดนี้ แสดงว่าเมื่อคืนกู้โม่หานรุนแรง.....

นางหดม่านตาลง จู่ๆก็ยิ้มไม่ออก กัดฟันอยู่อย่างเจ็บปวดอิจฉาริษยา พร้อมกำชายแขนเสื้อไว้แน่น

นางอุตส่าห์ลงทุนทำคนอื่นกลับได้ประโยชน์ไป ปกติแม้แต่จุ๊บก็ไม่ได้รับ แต่หนานหว่านเยียนกลับได้มีโอกาสใกล้ชิดกู้โม่หานขนาดนั้น

สมควรตายจริงๆ

หนานหว่านเยียนไม่พูดอะไร ท่ามกลางคนพวกนี้ นางเพียงแค่แทะเมล็ดทานตะวันรอดูเรื่องสนุกเท่านั้นก็พอ

และแล้ว เจียงหรูเยว่เหลือบเห็นสีหน้าหยุนอี่ว์โหรวแย่ลง ก็มีเรื่องให้พูดขึ้นมา แกล้งทำเป็นพูดกับคนด้านข้างว่า “ข้าเห็นสีหน้าพระชายารองหยุนไม่ค่อยดี หรือว่าเมื่อคืนวันเกิดของอ๋องอี้ เกิดเรื่องอะไรไม่ดีหรือเปล่า?”

ประโยคนี้ กระเด็นเข้าหูหยุนอี่ว์โหรว ที่กำลังปวดใจทรมานอยู่อย่างจัง

นางเหมือนถูกคนใช้มีดฟันเป็นพันหมื่นครั้ง ริมฝีปากขาวซีด พยายามฝืนยิ้ม

“แม่นางเจียงพูดว่าอะไรกัน วันเกิดท่านอ๋องจะเกิดเรื่องไม่ดีได้อย่างไร”

“ข้าเพียงแค่ช่วงหลายวันนี้พักผ่อนไม่เพียงพอ สุขภาพจึงค่อนข้างแย่เท่านั้น”

หนานหว่านเยียน แทบจะกลั้นหัวเราะไม่ไหว

นางพูดขึ้นมาอย่างเรียบเฉยว่า “สุขภาพของพระชายารองยังแย่อยู่หรือ? แต่ข้าจำได้ว่า เมื่อคืนต่อหน้าท่านอ๋อง เจ้าบอกว่าร่างกายเจ้าหายดีแล้ว พร้อมที่จะเข้าห้องหอ.....”

“พระชายาดื่มชาหน่อยไหม เมื่อคืนหม่อมฉันนึกว่าร่างกายหายดีแล้ว แต่ความจริงยังไม่หายดี” เห็นนานหว่านเยียนกำลังจะพูดเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานออกมา หยุนอี่ว์โหรวรีบพูดแทรกขึ้นมาดักไว้

เจียงหรูเยว่มองดูทั้งสองคนคุยกัน เห็นได้ชัดว่ามีเรื่องปิดบังคนอื่นอยู่ กระตุ้นความอยากรู้ของนางขึ้นมาทันที

นางเลียริมฝีปาก พร้อมพูดขึ้นด้วยสีหน้าท่าทีตื่นเต้นว่า “มีเรื่องแบบนี้ด้วยหรือ? งั้นจะต้องเป็นเพราะหมอในจวนฝีมือแย่ ปล่อยไว้แบบนี้ได้อย่างไร หากไม่สามารถรักษาพระชายารองหยุน แล้วเมื่อไหร่จะได้มีลูกให้กับท่านอ๋อง?”

เจียงหรูเยว่คนนี้ พูดแทงใจดำหยุนอี่ว์โหรวได้อย่างเหมาะเจาะพอดี

หยุนอี่ว์โหรวยกถ้วยน้ำชาขึ้นมา ถ้วยน้ำชาเกือบจะหลุดตก รู้สึกห่อเหี่ยวไม่สดชื่นและสลดใจอย่างมาก

นังโง่คนนี้ อะไรไม่ควรพูดก็พูดอยู่นั่นแหละ.....

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้