ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 351

นางเชื่อไสยศาสตร์มาโดยตลอด หลังขบคิดถึงปฏิกิริยาของกู้โม่หานก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่นเทา

“เจ้าหมายความว่าอย่างไร” ได้ยินหยุนอี่ว์โหรวก็ค่อยๆ หยุดร้องไห้

จ้างฮวารีบเข้ามาหา เข้าใกล้หูนาง

“บ่าวได้ยินมาว่า ตอนหนานหว่านเยียนกลับมาจวนเฉิงเซี่ยงครั้งที่แล้ว ภายในจวนเฉิงเซี่ยงมีอีเหนียงคนหนึ่งดื่มสุราที่นางให้ เลยกลายเป็นคนวิปลาสเช่นนี้เจ้าค่ะ”

“บ่าวจึงเดาว่า หากดื่มชาที่หนานหว่านเยียนให้ หรือคนที่กินยาที่นางให้ ล้วนกลายเป็นเช่นนี้เจ้าค่ะ กล่าววาจาที่ไม่อยากพูดออกมาย่างควบคุมไม่ได้ นะ นางจะต้องเป็นปีศาจแน่เลยเจ้าค่ะ”

พูดจบ ตัวจ้างฮวาก็ตกใจจนขนลุกซู่ไปทั้งตัว

น้ำตาหยุนอี่ว์โหรวหยุดไหล ดวงตาแดงก่ำเปล่งประกาย

“เจ้ากล่าวเพ้อเจ้ออะไรน่ะ ใต้หล้านี้มีปีศาจที่ใดกัน”

นางไม่เชื่อเรื่องพวกนี้

แต่การเปลี่ยนแปลงของหนานหว่านเยียนในตอนนี้ ก็มากมายเกินไป

เมื่อห้าปีก่อน เห็นอยู่ว่าหนานหว่านเยียนรักกู้โม่หานจะเป็นจะตาย ทว่าตอนนี้กลับดูเหมือน ไม่มีความรู้สึกอะไรต่อกู้โม่หานเลย

กอปรกับ หนานหว่านเยียนห้าปีที่แล้วเป็นเพียงคนไร้ประโยชน์ ไม่รู้อะไรเลย ทั้งน่าเกลียดไร้ที่เปรียบและโง่เขลาจนเป็นได้แค่สตรีถูกเล็งเป้าเท่านั้น

แต่หนานหว่านเยียนห้าปีต่อมา ไม่เพียงมีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมเท่านั้น ทั้งยังรักษาใบหน้าของตนเองแล้วด้วย สวยโดดเด่นเกินใคร

การเปลี่ยนแปลงแปลกประหลาดของหนานหว่านเยียนมีมาไม่รู้จบ ช่างน่าสงสัยจริงๆ

หยุนอี่ว์โหรวเหมือนจะจับประเด็นสำคัญได้ จึงยกมือเช็ดน้ำตา

“นางไม่มีทางกลายเป็นปีศาจได้ แต่ถ้าหากสิ่งที่นางทำนั้นสร้างความวุ่นวายได้ ต่อให้นางบริสุทธิ์ ข้าก็จะกลับขาวเป็นดำ”

จ้างฮวากะพริบตาอย่างซื่อบื้อ “ความหมายของนายหญิง คือ จะลงมือเรื่องที่นางเป็นปีศาจหรือเจ้าคะ”

“ถูกต้อง” ในใจหยุนอี่ว์โหรวพลันรู้สึกดีขึ้นมาก พอคิดว่าเรื่องนี้อาจทำให้เกิดความตื่นตระหนก นางก็อดหัวเราะเยาะไม่ได้ กำมือแน่นขนัด “ปกติผู้คนล้วนเชื่อและหวาดกลัวผีสางเทวดา ยิ่งเป็นเรื่องปีศาจเช่นนี้ ยิ่งทำให้ผู้คนขลาดกลัว”

“จ้างฮวาเจ้ามาช่วยข้าสักสองสามเรื่อง”

นางต้องอาศัยสถานการณ์นี้ พลิกกลับสถานการณ์อย่างสมบูรณ์ เหยียบย่ำนังคนชั้นต่ำหนานหว่านเยียนนั้นไว้ใต้ฝ่าเท้า!

จ้างฮวาตกตะลึง ใบหน้าเปลี่ยนเป็นซีดขาวเล็กน้อย “จะ จะต้องทำเช่นนั้นจริงหรือเจ้าคะ”

ขนตาหยุนอี่ว์โหรวลู่ลง ดวงตาประกายแดงกระหายเลือด

“หากสตรีไม่ร้ายกาจ สถานะจะไม่มั่นคง เข้าใจหรือไม่ จ้างฮวา”

“บ่าวเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ” จ้างฮวากัดฟัน ขานรับ แล้วถอยออกไป

ในขณะเดียวกัน กู้โม่หานที่กลับมาถึงเรือนซีเฟิงก็ไม่อาจสงบใจอยู่นาน

ทุกคราที่เขาอยากจะเอ่ยปากพูดจา สิ่งที่ออกมาจากปาก ล้วนเป็นความคิดสัตย์จริงที่สุดในใจเขา

เขานั่งที่โต๊ะพลางคิดสลับซับซ้อน

ข้าจะชอบหนานหว่านเยียนได้อย่างไร!

“ข้าชอบเพียงหนาน...” ก่อนจะพูดจบ เขาใช้แรงขบกรามตนเองแน่น ปิดปากลงอย่างแรง

ต้องเป็นเพราะเขาถูกอะไรบางอย่างกระตุ้นแน่ ถึงทำให้ควบคุมไม่ได้เช่นนี้

ต้องใช่แน่!

ภายในห้อง กู้โม่หานราวกับสติแตก ในขณะที่รู้สึกว่าตนเองใกล้จะเป็นบ้า ก็พูดคำที่ฝังลึกภายในใจ

เหตุใดเขาถึงกลายเป็นเช่นนี้ หรือว่า เขาจะชอบหนานหว่านเยียนเข้า โดยไม่รู้ตัวจริงๆ ?

ทันใดนั้น เสียง “เพียะ” ดังขึ้น!

เขาตบตัวเองอย่างรุนแรง ความเจ็บปวดร้อนผ่าวทำให้เขาหวาดหวั่น แต่ก็ทำให้มีสติขึ้นหลายส่วน

“ข้าไม่มีทางชอบหนานหว่านเยียน!”

นางเป็นแค่สตรีคู่อาฆาตเท่านั้น!

ในที่สุด กู้โม่หานตบโต๊ะหยัดกายยืนขึ้น เสียงดังสั่นสะท้านบรรยากาศโดยรอบ และไม่มีความรู้สึกที่ควบคุมตัวเองไม่ได้อย่างนั้นอีก ท้ายที่สุดเขาก็กลับมาเป็นปกติ

เสิ่นอี่ว์ที่กำลังจะเคาะประตูเข้ามาได้ยิน ก็อดตัวแข็งทื่ออยู่กับที่ไม่ได้ “ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ?”

ท่านอ๋องเป็นอะไรไป เหตุใดอยู่ดีๆ ถึงกล่าวว่าตนเองไม่ชอบพระชายาเล่า

ใบหน้าหล่อเหลาของกู้โม่หานซีดขาว แต่ดวงตากลับที่จ้องมองเสิ่นอี่ว์บึ้งตึง แผ่ออร่าภูมิฐาน เสิ่นอี่ว์พลันเหงื่อแตกพลั่ก “ข้าน้อยไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้นพ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋องโปรดวางใจ! ”

หรือว่าทั้งสองเพิ่งทะเลาะกัน ที่เรือนเซียงหลินอีกแล้ว?

แล้วเรื่องที่เข้าต้องพูด...

“มีเรื่องอะไร” กู้โม่หานกำหมัดแน่น ริมฝีปากบางเปล่งคำพูดเย็นชาออกมาสามคำ

เสิ่นอี่ว์รีบกล่าวอย่างนอบน้อม “ทูลท่านอ๋องเมื่อครู่ทางเจิ้งซือเย่ส่งคนมางานพระราชสมภพของท่าน ทั้งบอกข้าน้อยว่า วันพระราชสมภพของท่านอ๋องเป็นเรื่องสำคัญ ทุกปีต่อจากนี้ จะมาเข้าเฝ้าด้วยตนเองพ่ะย่ะค่ะ”

หมายความว่า พวกเขาเต็มใจที่ลงเรือลําเดียวกันกับเขารึ

แววตากู้โม่หานฉายแววยินดี ความหงุดหงิดเมื่อครู่ก็จางหายไปเล็กน้อย

ตราบใดที่พวกเจิ้งซือเย่แสดงท่าที เรื่องที่เขาจะยึดอำนาจ ก็สามารถเร่งกระบวนการได้

“เป็นเช่นนั้นก็ดี อีกเดี๋ยวเจ้าไปเลือกของ ส่งไปจวนใต้เท้าทุกคนด้วยตนเอง บอกว่าข้าชอบของขวัญมาก หากมีโอกาส จะเชิญใต้เท้าทั้งหลายมาชมจันทร์ที่จวนอ๋องแน่นอน”

“พ่ะย่ะค่ะ ข้าน้อยจะจัดการเรื่องนี้ให้เป็นอย่างดีแน่นอน แต่ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ” เสิ่นอี่ว์สูดหายใจเข้าลึก สีหน้าเป็นกังวล “หยุนเหิงบุตรชายภรรยาเอกของจวนแม่ทัพอาการของโรคลมบ้าหมูยังไม่หายดี ข้าน้อยได้ยินมาว่า แม่ทัพหยุนเดือดดาลมาก ไปเอะอะต่อหน้าฮองเฮาแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

“พระชายาอาจถูกเรียกเข้าวังในไม่ช้า ถามหาความรับผิดชอบ...”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้