สิ้นเสียง เด็กหญิงทั้งสองก็ยิ่งเป็นกังวลมากขึ้น
หนานหว่านเยียนตกตะลึง ชำเลืองโม่หวิ่นหมิง แล้วจิบชาคำหนึ่ง “ข้าช่วยชีวิตเสิ่นอี่ว์ไว้ได้ แต่ข้าไม่สามารถรับประกันได้ว่าเขาจะฟื้น”
พูดตามตรง อาการบาดเจ็บที่ศีรษะของเสิ่นอี่ว์นั้นร้ายแรงมาก พรุ่งนี้นางต้องคอยสังเกตอาการให้ดี
เกี๊ยวน้อยและซาลาเปาน้อยถอนหายใจด้วยความโล่งอก จากนั้นก็กัดริมฝีปากล่างอย่างประหม่า
สำหรับพวกนางแล้วพี่เสิ่นอี่ว์ก็เหมือนกับอวี๋เฟิง ล้วนเป็นคนที่พวกนางโปรดปราน หากแม้แต่ท่านแม่ยังหมดหนทางล่ะก็…
โม่หวิ่นหมิงจับจ้องคิ้วที่ขมวดแน่นของหนานหว่านเยียน ใบหน้ามีความเหนื่อยล้า เขาขมวดคิ้ว คาดเดาว่าเรื่องราวไม่ง่ายดายอย่างนั้น มีอะไรเกิดขึ้นกับหนานหว่านเยียนอีกไหม
แต่ถ้านางไม่บอก เขาก็บังคับนางไม่ได้
เขาพยักหน้าพลางพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ทำเต็มที่แล้วก็ปล่อยให้ชะตาฟ้าลิขิต เวลาก็ล่วงเลยมามากแล้ว เจ้าควรพักผ่อนให้เพียงพอก่อน เพื่อจะได้มีแรงรักษาเขาต่อไป”
หนานหว่านเยียนยิ้มให้โม่หวิ่นหมิง “อืม ขอบคุณนะท่านน้า”
เขาแตะหน้าผากของเกี๊ยวน้อยและซาลาเปาน้อย “พวกเจ้าสองคน จะเป็นห่วงแค่ไหนก็ถึงเวลาเข้านอนแล้ว ไม่เช่นนั้นแม่ของพวกเจ้าจะเป็นห่วง”
เกี๊ยวน้อยและซาลาเปาน้อยง่วงมากอยู่แล้ว แต่เพราะเป็นห่วงหนานหว่านเยียนและเสิ่นอี่ว์ จึงถ่างตาไม่ยอมนอน ตอนนี้เห็นหนานหว่านเยียนปลอดภัยดีแล้ว เด็กทั้งสองก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาก
เกี๊ยวน้อยยังจูงมือซาลาเปาน้อยอยู่ มองหนานหว่านเยียน แล้วพูดอย่างอ่อนโยน “ท่านแม่ ข้ากับซาลาเปาน้อยอยากนอนกับท่านแม่”
หนานหว่านเยียนเผลอหัวเราะ จิตใจที่สั่นคลอนเมื่อครู่ สงบนิ่งขึ้นในทันที
เด็กทั้งสองเพิ่งถูกลอบสังหาร แต่ตอนนี้กลับกล้าหาญถึงเพียงนี้ ทำให้นางรู้สึกทั้งสงสารและดีใจ
เมื่อเห็นรอยยิ้มที่ไร้เดียงสาไม่มีพิษภัยตรงหน้า นางก็สบายใจขึ้นบ้าง อุ้มทั้งสองขึ้นมากอดแน่น “แม่ยังพอมีพลังอยู่ จะร้องเพลงกล่อมพวกเจ้าดีไหม? วันนี้พวกเจ้าตกใจมา ร้องเพลงกล่อม เมื่อขับไล่ความทุกข์ทุกอย่างให้หมดสิ้น”
เด็กทั้งสองพยักหน้า “ดีเจ้าค่ะ”
หนานหว่านเยียนพาเด็กน้อยทั้งสองกลับไปที่ห้อง ก่อนไปก็ชำเลืองมองโม่หวิ่นหมิง “ท่านน้ารอข้าก่อน ดึกๆ ข้าจะมาดูขาให้ท่าน”
“ตกลง” โม่หวิ่นหมิงยิ้มบางๆ มองหนานหว่านเยียนพาเด็กๆ เข้าไปในห้อง รอยยิ้มจึงค่อยๆ หุบลง
เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำให้หว่านหว่านไม่พอใจขนาดนี้
ผ่านไปสักพักขฌ หนานหว่านเยียนก็กล่อมเด็กน้อยทั้งสองจนหลับ มองคิ้วที่ขมวดแน่นของซาลาเปาน้อยที่อยู่ในความฝัน เกี๊ยวน้อยกำหมัดแน่น แววตาของดวงตาของหนานหว่านเยียนเย็นเยียบ
นางกลับมาหาโม่หวิ่นหมิง ตรวจดูอาการบาดเจ็บที่ขาให้เขา พลางเอ่ยปากพูดเบาๆ
“ท่านน้า ท่านน่าจะรู้เรื่องพระราชโองการแล้ว ตอนนี้กู้โม่หานเป็นไท่จื่อ ด้วยความช่วยเหลือจากไทเฮาและขุนนางบางคนอย่างลับๆ เชื่อว่าการยึดอำนาจจะราบรื่นกว่าที่ข้ามคิดไว้มาก”
“แม้ว่าเวลาหนึ่งเดือนจะเร่งด่วนไปหน่อย แต่ข้าจะจัดการอย่างดี อีกหนึ่งเดือนข้างหน้า ข้าจะพาเด็กหญิงทั้งสองจากไป ท่านไม่ต้องห่วง”
รอยยิ้มอันอบอุ่นปรากฏขึ้นบนใบหน้าของโม่หวิ่นหมิง “ข้าเข้าใจแล้ว แต่เจ้าอย่ากดดันตัวเองเกินไป ถ้าจัดการสถานการณ์ใดไม่ได้ ก็บอกข้า ข้าจะอยู่เคียงข้างเจ้าเสมอ”
พูดจบ เขาก็ยื่นนิ้วเรียวยาวออกมา แตะคิ้วที่ขมวดแน่นของหนานหว่านเยียนเบาๆ รู้สึกสงสารมาก
“ดูคิ้วสิ ขมวดขนาดนี้ เด็กผู้หญิงขมวดคิ้วแล้วไม่สวยเลย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้
อ่าน ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 998 - 1,846 www.sunnewsfocus.com...
อ่านยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 998 - 1846 sunnewsfocus.com นะคะ...
ขัดใจหลายหย่าง 1. นางเอก - ก็รู้ว่าตัวเองสู้เเพ้อ๋องทุกครั้ง เเทนที่จะฝึกวิชาป้องกันตัวบ้าง เเต่ก็ไม่เห็นทำไร 2. ลูก - ก็เห็นอยู่ว่าเเม่ตัวเองทุกข์ใจที่ต้องอยู่กับอ๋อง เเทนที่จะสนับสนุนให้เลิก เเต่ยังจะให้คบกันต่อ คือพวกเอ็งจะขาดพ่อไม่ได้เลยรึไงฟะ 3. อ๋อง - รักเเต่ใช้วิธีผิด นางไม่ยอมก็ขังนางไว้ เจอผู้ชายคนไหนก็ขู่จะทำร้ายเค้า ? เป็นพระเอกที่ห่วยบัดซบ...
ใครที่คิดว่าหนานหว่านเยียนอคติเกินไป ลองย้อนไปดูสิ่งที่กู้โม่หานทำกับนางเอกในช่วงแรกๆ ว่ามันสมควรให้อภัยกันง่ายๆมั้ย...
ไม่แปลกหรอกที่นางเอกจะเกลียดกู้โม่หาน และไม่ยอมให้อภัยกู้โม่หาน ก่อนหน้านั้นหนานหว่านเยียนโดนทำร้ายทั้งกายและจิตใจมามาก โดนจับขังในเรือนเย็น ทั้งตั้งท้องลูก คลอดลูกเอง เลี้ยงเอง ข้าวที่จะกินแทบจะหาไม่ได้ พระเอกมักจะเลือกช่วยหยุนอี่โหรวก่อนนางเอกเสมอ สมควรได้รับที่สิ่งทำไว้ในอดีต นางเอกไม่ได้ทำอะไรผิดแต่โดนพระเอกกระทำมาโดยตลอด...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
กลับมาอัพเดทหน่อยจ้า..แอด,😁😁...
รออัพเดทนะคะ...
ขอเรื่อง หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์...