หนานหว่านเยียนใจหายวาบไปทันที รอยยิ้มบนใบหน้าที่สวยงามหายวับไปหมด ขมวดคิ้วขึ้นและร้อนรนเล็กน้อยอยากจะผลักเขาออก “ท่านจะทำอะไร ปล่อยมือนะ!”
กู้โม่หานไม่ปล่อย ในดวงตาดำสนิทเต็มไปด้วยความหงุดหงิด “ข้ามีเรื่องจะพูดกับเจ้า”
พูดอะไรงั้นหรือ พูดว่าตอนนี้เขาไม่ชอบใจมาก พูดว่าเขาไม่ชอบให้พวกนางแม่ลูกไปดีกับผู้ชายอื่นขนาดนี้ อย่างน้อยก็ห้ามดีกับคนอื่นมากกว่าดีกับเขา หรือจะพูดว่าที่จริงเขาชอบหนานหว่านเยียน ดังนั้นจึงไม่ชอบให้ข้างกายนางมีคนอื่นอยู่…….
เขาจะพูดออกไปได้ยังไง เขาจะกล้าพูดได้ยังไง?!
หนานหว่านเยียนจะเชื่อหรือเปล่ายังเป็นอีกเรื่อง แต่จะขำเขาแน่นอน
กู้โม่หานจิตใจว้าวุ่น ในสมองยุ่งเหยิงไปหมด ความโกรธกับความหึงหวงตีกันเป็นก้อน โมโหจนสมองแทบจะไม่มีสติแล้ว แถมยังมีความไม่สบายอยู่ด้วย
ถ้าเป็นเมื่อก่อน เขายังมีความหวังว่าจะสามารถรั้งสามแม่ลูกไว้ได้ แต่ว่าตอนนี้ โดยเฉพาะพอเสด็จแม่ฟื้นขึ้นมาแล้ว อยู่ ๆ เขาก็รู้สึกว่ายิ่งอยู่หนานหว่านเยียนกับยัยหนูสองคนก็ยิ่งห่างไกลจากเขาไปเรื่อย ๆ
ไกลจน เขาเกือบจะเอื้อมไม่ถึงแล้ว
“ท่านมีอะไรก็ว่ามา จะมากดตัวข้าไว้ทำไม?” หนานหว่านเยียนขมวดคิ้วขึ้นมา แล้วหวนนึกถึงท่าทางบุ่มบ่ามในคืนที่เมาเหล้าของกู้โม่หาน ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา
ด้านหลังของนางติดกับกำแพงที่เยือกเย็น บวกกับสีหน้าที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาของกู้โม่หาน ความรู้สึกไม่สบายใจอย่างรุนแรงพุ่งเข้ามาสู่หัวใจ
ที่จริง นางรู้สึกไม่ค่อยเข้าใจว่าช่วงนี้กู้โม่หานเป็นอะไร มักจะปฏิบัติต่อนางอย่างไม่ชัดเจน บางครั้งก็บีบคั้นคนทุกอย่าง บางครั้งก็เย็นชาเป็นอย่างมาก แถมบางครั้งยังลงไม้ลงมือกับนางอย่างไม่สงบนิ่ง……
นอกจากเรื่องลงไม้ลงมือพวกนี้แล้ว นางก็นึกถึงพวกผู้ป่วยจิตเภท ในระยะแรกก็จะเกิดอาการจิตเภทเช่นนี้เหมือนกัน แล้วก็มองไปที่กู้โม่หานอย่างร้อนใจเล็กน้อย “กู้โม่หาน ท่านไม่ได้ไม่สบายตรงไหนใช่ไหม หรือว่า ให้ข้าช่วยตรวจดูให้ท่านหน่อยได้ไหม?”
ถ้ากู้โม่หานมีปัญหาทางจิตเภท งั้นลูกสาวนางก็แย่แล้ว พวกโรคทางจิตเวชนั้นเป็นโรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมนะ
กู้โม่หานราวกับเป็นงูที่ถูกบีบอยู่ตรงหัวใจ สีหน้าดูย่ำแย่มากขึ้นมาทันที “หนานหว่านเยียน ข้าไม่ได้ป่วย”
เขาก็แค่รู้สึกควบคุมตัวยากหน่อยก็เท่านั้น ไหนจะเรื่องของเสด็จแม่ เรื่องของจวนเฉิงเซี่ยง เรื่องของนาง และเรื่องของยัยหนูทั้งสอง ทำให้เขากลุ้มใจเป็นอย่างมาก และความกลุ้มแบบนี้ก็มีมาช่วงหนึ่งแล้ว
ความรู้สึกยิ่งถูกกดดัน เขาก็ยิ่งรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่า เรื่องราวมันเกินการควบคุมไปแล้ว
หนานหว่านเยียนรู้สึกมึนงงเล็กน้อย จากนั้นก็หงุดหงิดขึ้นมา “ท่านไม่ป่วยก็ไม่ป่วยซิ จะมาดุทำไม ต่อไปถ้าท่านป่วยข้าก็ไม่รักษาให้ท่านหรอก ปล่อยมือ ถ้ายังไม่ปล่อยมืออีกข้าจะ อื้อ อื้อ……”
คำพูดของนางยังพูดไม่ทันจบ อยู่ ๆ ริมฝีปากก็รู้สึกถึงความอ่อนนุ่ม ชายหนุ่มจูบปากนางไว้อย่างหนักหน่วง
เขากอดรัดเอวนางไว้แน่น หลับตาจูบนางไป
อยู่ ๆ ก็รู้สึกว่านี่คือเรื่องที่ถูกต้อง
เรื่องมันควรจะเป็นแบบนี้แหละ กักตัวนางไว้ข้างกายเขา แบบนี้แหละถูกต้องแล้ว
หนานหว่านเยียนเบิกตากว้างทั้งคู่ จ้องมองชายหนุ่มรูปงามตรงหน้า เขาได้คืบจะเอาศอก บุกรุกเข้าไปยึดครอง และจูบอย่างบ้าคลั่งยิ่งกว่าครั้งไหน ๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้
อ่าน ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 998 - 1,846 www.sunnewsfocus.com...
อ่านยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 998 - 1846 sunnewsfocus.com นะคะ...
ขัดใจหลายหย่าง 1. นางเอก - ก็รู้ว่าตัวเองสู้เเพ้อ๋องทุกครั้ง เเทนที่จะฝึกวิชาป้องกันตัวบ้าง เเต่ก็ไม่เห็นทำไร 2. ลูก - ก็เห็นอยู่ว่าเเม่ตัวเองทุกข์ใจที่ต้องอยู่กับอ๋อง เเทนที่จะสนับสนุนให้เลิก เเต่ยังจะให้คบกันต่อ คือพวกเอ็งจะขาดพ่อไม่ได้เลยรึไงฟะ 3. อ๋อง - รักเเต่ใช้วิธีผิด นางไม่ยอมก็ขังนางไว้ เจอผู้ชายคนไหนก็ขู่จะทำร้ายเค้า ? เป็นพระเอกที่ห่วยบัดซบ...
ใครที่คิดว่าหนานหว่านเยียนอคติเกินไป ลองย้อนไปดูสิ่งที่กู้โม่หานทำกับนางเอกในช่วงแรกๆ ว่ามันสมควรให้อภัยกันง่ายๆมั้ย...
ไม่แปลกหรอกที่นางเอกจะเกลียดกู้โม่หาน และไม่ยอมให้อภัยกู้โม่หาน ก่อนหน้านั้นหนานหว่านเยียนโดนทำร้ายทั้งกายและจิตใจมามาก โดนจับขังในเรือนเย็น ทั้งตั้งท้องลูก คลอดลูกเอง เลี้ยงเอง ข้าวที่จะกินแทบจะหาไม่ได้ พระเอกมักจะเลือกช่วยหยุนอี่โหรวก่อนนางเอกเสมอ สมควรได้รับที่สิ่งทำไว้ในอดีต นางเอกไม่ได้ทำอะไรผิดแต่โดนพระเอกกระทำมาโดยตลอด...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
กลับมาอัพเดทหน่อยจ้า..แอด,😁😁...
รออัพเดทนะคะ...
ขอเรื่อง หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์...