ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 471

หนานหว่านเยียนเองก็ไม่ได้คิดมาก อย่างไรเสียวันนี้ก็ยังไม่ได้เฉลิมฉลองเทศกาล เช่นนั้นพรุ่งนี้ค่อยเฉลิมฉลองด้วยกันก็ได้ “เช่นนั้นท่านก็พักผ่อนเถิด พรุ่งนี้ข้าจะพาหนูน้อยทั้งสองคนเข้าวัง ท่านก็ระวังตัวด้วย”

“อืม” โม่หวิ่นหมิงตอบรับ แล้วก็กลับหลังเรือน ไปพร้อมกับอาจี้

ไม่มีผู้ใดเห็น วินาทีที่โม่หวิ่นหมิงหันหลังกลับไป นัยน์ตาดอกท้อคู่นั้นก็ดำมืดลงทันที และได้ก่อเกิดแนวทางที่ชัดเจนอย่างลับๆ……

เพลานี้ เซียงเหลียนกับเซียงอวี้ก็เดินมา ช่วยหนูน้อยจัดเก็บของขวัญ จัดเก็บของขวัญไปพลาง และเอ่ยกับหนานหว่านเยียนด้วยความตื่นเต้นไปพลาง: “พระชายา บ่าวได้ยินมาว่าองค์หญิงแคว้นเทียนเซิ่งงดงามอย่างยิ่ง แต่นิสัยนั้นมุทะลุ กล้าหาญ ท่านอาจจะได้เจอเร็วๆ นี้”

“ข้าจะได้เจอเร็วๆ นี้?” หนานหว่านเยียนขมวดคิ้ว ความครุ่นคิดถูกดึงกลับมา “เหตุใดจึงพูดเช่นนั้น?”

เซียงอวี้เงยหน้าขึ้นมามองหนานหว่านเยียน “พระชายาท่านลืมแล้วหรือ? ก่อนหน้านี้บ่าวเคยพูดให้ท่านฟังแล้ว ว่าทุกๆ สิบปี แคว้นเทียนเซิ่งจะส่งทูตมายังแคว้นซีเหย่เพื่อเป็นการเสริมการทูตให้มั่นคง”

“วันนี้พวกเขาก็คงถึงกันแล้ว ได้ยินมาว่าอ๋องผิงเซวียนและองค์หญิงฮั่นเฉิงแห่งแคว้นเทียนเซิ่งมากันหมดเลย เทศกาลปีใหม่ในวันพรุ่งนี้ ท่านกับท่านอ๋องก็ต้องเข้าวังเพื่อไปร่วมงานเลี้ยง ย่อมต้องได้เจอเป็นแน่”

องค์หญิงแห่งแคว้นเทียนเซิ่งเองก็มาด้วย?

นัยน์ตาของหนานหว่านเยียนไหวติงเล็กน้อย

นางเกือบลืมเรื่องนี้ไปเสียแล้ว แคว้นเทียนเซิ่งกับซีเหย่นั้นมีสัมพันธไมตรีต่อกัน สัมพันธ์ทางการทูตของทั้งสองแคว้นในครั้งนี้ ดูเหมือนว่าองค์หญิงต้องมาอภิเษกสมรส และดูเหมือนว่าท่านอ๋องเจ็ดเองก็กำลังจ้องตาเป็นมัน

“พวกเขาเก่งมากเลยหรือ?” ซาลาเปาน้อยกะพริบตาใสแป๋วอย่างไขสือ หันไปเอ่ยถามเซียงอวี้

เซียงเหลียนยิ้มอย่างอ่อนโยน แล้วเอ่ยต่อว่า “เล่ากันว่าอ๋องผิงเซวียนนั้นสง่างามน่าเกรงขาม รูปโฉมงดงาม กล้าหาญ แต่ไม่ว่าอย่างไร เขาก็ไม่เก่งกาจเท่าท่านอ๋องของท่านทั้งสองดอก ชื่อเสียงของท่านอ๋องนั้นเลื่องลือไปทั่ว ล้วนเป็นตำนานทั่วทุกที่”

ได้ยินเช่นนั้น ภายในใจของเกี๊ยวน้อยกับซาลาเปาน้อยก็รู้สึกภาคภูมิใจ

อย่างไรเสีย พ่อเฮงซวยก็เก่งกาจมากจริงๆ เขาเป็นถึงเทพสงครามผู้สง่างามเชียวนะ

เซียงอวี้ก็เอ่ยต่ออีกประโยค “ได้ยินว่าคนแคว้นเทียนเซิ่งนั้นแข็งแกร่งกล้าหาญ และแม้แต่องค์หญิงฮั่นเฉิงเองก็เหมือนกัน สูงกว่าผู้หญิงทั่วไปมาก ไม่รู้ว่าจะมีเสน่ห์มากล้นเพียงใด”

นัยน์ตาของหนานหว่านเยียนเคลื่อนไหวไปมา แต่ก็ไม่ได้เอ่ยอะไร

องค์หญิงฮั่นเฉิงมีเสน่ห์มากล้นเพียงใดนางไม่รู้ แต่พรุ่งนี้คงจะค่อนข้างลำบาก เพราะอย่างไรเสียองค์หญิงจะอภิเษกสมรสกับผู้ใด ก็คือปัญหาใหญ่……

เพียงแต่ เพลานี้นางขี้เกียจที่จะคิดเรื่องพวกนี้ ยุ่งมานานถึงเพียงนี้ วันนี้ก็ใกล้จะฉลองปีใหม่แล้ว ไปเตรียมของอร่อยๆ ก่อนดีกว่า

หนานหว่านเยียนยิ้มแป้น “เกี๊ยวน้อย ซาลาเปาน้อย แม่จะไปเตรียมของอร่อยๆ มา อีกเดี๋ยวก็ตั้งหม้อไฟกัน พวกเจ้าเล่นอยู่ที่นี่สักประเดี๋ยวนะ”

“ได้เลยๆ” เด็กน้อยทั้งสองดีใจขึ้นมาทันที แต่เทศกาลที่ครึกครื้นเช่นนี้ กู้โม่หานกลับดูเหมือนว่าจะอยู่คนเดียว

เด็กน้อยทั้งสองคนมองหน้ากัน ต่างฝ่ายต่างก็มีความคิดในหัว

……

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ หนานหว่านเยียนก็ยกหม้อจากหลังครัวเดินออกมา “หม้อไฟมาแล้ว!”

นางเพิ่งจะเดินออกมาจากหลังครัว ก็เห็นกู้โม่หานนั่งตัวตรงอยู่ข้างโต๊ะ กำลังคุยอยู่กับเด็กทั้งสองคนพอดี เขาสวมเสื้อคลุมยาวผ่าหน้าสีดำ ตรงแขนเสื้อมีขนสุนัขจิ้งจอกสีเงินเทาหุ้มอยู่ ใบหน้าด้านข้างของเขางดงามมองอย่างไรก็ไม่พอ รูปร่างสูงโปร่งงามสง่า มงกุฎสีเงินนั้น ช่างงดงามหรูหราไร้ที่ติ

หนานหว่านเยียนขมวดคิ้วทันที แล้ววางหม้อทองแดงในมือไว้บนเตาไฟอีกฝั่ง จากนั้นก็เดินไปทางกู้โม่หาน “ท่านอ๋องมาได้อย่างไรหรือ?”

กู้โม่หานได้ยินเสียงการเคลื่อนไหว จึงหันกลับไปดูก็ปะทะเข้ากับแววตาเปล่งประกายของหนานหว่านเยียนอย่างที่คิด

นัยน์ตาคู่งามของเขาไหวติงเล็กน้อย ดวงตาแสดงสีหน้าตกตะลึงออกมา

วันนี้หนานหว่านเยียนสวมใส่ชุดโบราณลายดอกไห่ถังสีแดง มีผ้าพันคอเหมือนกับหนูน้อยทั้งสองคน ซึ่งประดับด้วยขนกระต่ายสีขาว ผมสีดำขลับทางด้านหลัง ปักด้วยปิ่นสีเงิน ดูสบายๆ แต่กลับปิดบังความงามไว้ไม่ได้

ไม่ตบแต่งใบหน้า ก็ทำให้ผู้คนมองแวบเดียวก็จดจำได้เนิ่นนาน

กู้โม่หานมองดูครู่หนึ่ง แล้วเก็บอาการไว้ มองหนานหว่านเยียนอย่างแน่วแน่ “พรุ่งนี้ก็เป็นเทศกาลปีใหม่แล้ว ข้าอยากมาทานข้าวด้วยกันกับภรรยาและลูกสาว มีอันใดไม่เหมาะสมหรือ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้