กู้โม่หานตกตะลึง เขามองไปยังเด็กน้อยทั้งสองที่จากไป ความคิดในใจมากมายมิอาจบรรยายได้ แต่ท้ายที่สุดแล้วเขาก็เลือกที่จะอยู่ในห้องต่อ แล้วหาเก้าอี้มาวางนั่งลง
หนานหว่านเยียนก็ประหลาดใจเช่นกัน นี่เป็นครั้งแรกที่นางมิรู้ว่าสองพี่น้องกำลังวางแผนการใดอยู่
ช่างเถอะ นางขี้เกียจจะไปครุ่นคิด นางปล่อยกู้โม่หานไว้ตรงนั้นแล้วไปเปลี่ยนเสื้อผ้าของตนเอง
ในครั้งนี้กู้โม่หานมิได้หันไปมองจริงๆ เขาเพียงแค่ได้ยินเสียงของเสื้อผ้านาง สมองนั้นก็จินตนาการว่าได้ใกล้ชิดกับหนานหว่านเยียนเหมือนเมื่อครู่
ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกหงุดหงิดทันที
ระหว่างทางที่สองพี่น้องเดินไปยังห้องครัว เดินไปเดินมา ซาลาเปาก็รู้สึกเศร้าเล็กน้อย
ต่อมาน้ำเสียงของนางก็เอ่ยขึ้นอย่างบางเบาว่า “ท่านพี่......เดิมทีข้าคิดว่าเขาเป็นคนเลว เป็นคู่ชีวิตของท่านแม่ เขาหน้าตาหล่อเหลา คู่ควรกับท่านแม่ที่เป็นหญิงงามเหลือเกิน”
“ในวันนั้นพี่เซียงอวี้บอกกับข้าว่าเขาเป็นเทพแห่งสงครามในซีเหย่ เขากำจัดศัตรูนับมิถ้วน ข้าคิดว่า......เขาจะสามารถปกป้องท่านแม่ปกป้องพวกเราได้ ครั้งแรกที่ข้าเห็นเขายืนอยู่ข้างกายท่านแม่นั้น ก็รู้สึกว่าช่างเหมาะสมกับท่านแม่เหลือเกิน”
“ท่านพี่ ข้าโง่หรือ? เหตุใดจึงมิเข้าใจว่าเขาเลวร้ายเช่นนั้น รังแกท่านแม่เช่นนั้น แต่ข้าก็รู้สึกอึดอัดใจ มิอยากให้เขารังแกท่านแม่......”
เมื่อได้ยินดังนั้น ฝีเท้าของเกี๊ยวน้อยก็หยุดลง นางรู้สึกปวดใจกับน้องสาวแสนโง่คนนี้ เรื่องมาถึงบัดนี้แล้ว นางยังคงคิดหาข้อแก้ตัวให้กับเจ้าวายร้ายอย่างกู้โม่หานอีก
แต่นางก็รู้ดีว่าซาลาเปาเป็นผู้มีจิตใจอ่อนโยนมาตั้งแต่เด็ก และอยากจะมีพ่อ ในวันนั้นที่พี่เซียงอวี้อธิบายฉากที่กู้โม่หานสังหารศัตรูในสนามรบ ดวงตาของซาลาเปาแวววาวเพียงใด นางเองก็เห็น
ซาลาเปามิได้โง่ นางเพียงแค่เสียดายและมิอยากยอมรับเรื่องราวความจริงนี้ก็เท่านั้น
เกี๊ยวน้อยเอื้อมมืออันอ้วนท้วมของนางออกไปจับซาลาเปาไว้แล้วปลอบโยนด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “ซาลาเปามิได้โง่ พวกเรามิได้ผิด ท่านแม่ก็มิผิด เจ้าคนเลวนั่นต่างหากที่มิคู่ควรกับท่านแม่ คนเลวร้ายเช่นนั้นมิคู่ควรที่จะเป็นท่านพ่อของเรา!”
ซาลาเปาครุ่นคิดอยู่เนิ่นนาน จากนั้นจึงเงยหน้าขึ้น หางตาเปียกปอนไปด้วยน้ำตา
นางกุมมือเกี๊ยวน้อยไว้แน่น “ท่านพี่กล่าวได้ถูกต้องแล้ว พวกเราจะต้องให้บทเรียนสั่งสอนเขาเสียบ้าง แก้แค้นให้ท่านแม่ เขามิเหมาะสมกับท่านแม่ของเรา ซาลาเปามิอยากได้พ่อที่ชอบทำร้ายแม่แบบนี้!”
“อืม!”
ขณะเดียวกันภายในห้อง
กู้โม่หานมีความคิดมากมายอยู่ในใจ ท้ายที่สุดแล้วเมื่อนึกถึงภูมิหลังของเจ้าหนูทั้งสองที่มิรู้ว่าเป็นอย่างไรกันแน่ เขาก็ยิ่งรู้สึกอึดอัด ในใจรู้สึกคันยิบๆ และยิ่งคิดยิ่งโมโห
จู่ๆ เขาก็เงยหน้าขึ้นมองดูหนานหว่านเยียน ดวงตานั้นช่างมืดมน มองมาทางนางอย่างลึกซึ้ง
หนานหว่านเยียนเห็นแววตาของเขาที่จับจ้องมาทางตน สายตาทั้งคู่ประสานกัน นางรีบสะบัดหน้าหนี
จู่ๆ ชายเจ้าเล่ห์ผู้นี้มองนางแบบนั้นทำไมกัน ยิ่งมองก็ยิ่งโมโห หงุดหงิดจริงเชียว
นางเอ่ยปากขึ้นก่อนแล้วพูดกับกู้โม่หานอย่างไร้ความอดทนว่า “ข้าจะไปดูอาการให้เสิ่นอี่ว์เอง หากท่านอ๋องมิมีเรื่องใดแล้ว มาทางไหนจงไปทางนั้น อย่ามาระรานข้าที่นี่อีกเลย ข้าวใหม่ปลามันควรที่จะไปบ่มเพาะความรักกันมิใช่หรือ?”
เมื่อได้ยินดังนั้นกู้โม่หานก็ขมวดคิ้วแน่น “เจ้ากล้าไล่ข้าไปงั้นหรือ ทางด้านของโหรวเอ๋อร์ข้ามีวิธีจัดการของข้าเอง เจ้ามิต้องมายุ่ง!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้
อ่าน ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 998 - 1,846 www.sunnewsfocus.com...
อ่านยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 998 - 1846 sunnewsfocus.com นะคะ...
ขัดใจหลายหย่าง 1. นางเอก - ก็รู้ว่าตัวเองสู้เเพ้อ๋องทุกครั้ง เเทนที่จะฝึกวิชาป้องกันตัวบ้าง เเต่ก็ไม่เห็นทำไร 2. ลูก - ก็เห็นอยู่ว่าเเม่ตัวเองทุกข์ใจที่ต้องอยู่กับอ๋อง เเทนที่จะสนับสนุนให้เลิก เเต่ยังจะให้คบกันต่อ คือพวกเอ็งจะขาดพ่อไม่ได้เลยรึไงฟะ 3. อ๋อง - รักเเต่ใช้วิธีผิด นางไม่ยอมก็ขังนางไว้ เจอผู้ชายคนไหนก็ขู่จะทำร้ายเค้า ? เป็นพระเอกที่ห่วยบัดซบ...
ใครที่คิดว่าหนานหว่านเยียนอคติเกินไป ลองย้อนไปดูสิ่งที่กู้โม่หานทำกับนางเอกในช่วงแรกๆ ว่ามันสมควรให้อภัยกันง่ายๆมั้ย...
ไม่แปลกหรอกที่นางเอกจะเกลียดกู้โม่หาน และไม่ยอมให้อภัยกู้โม่หาน ก่อนหน้านั้นหนานหว่านเยียนโดนทำร้ายทั้งกายและจิตใจมามาก โดนจับขังในเรือนเย็น ทั้งตั้งท้องลูก คลอดลูกเอง เลี้ยงเอง ข้าวที่จะกินแทบจะหาไม่ได้ พระเอกมักจะเลือกช่วยหยุนอี่โหรวก่อนนางเอกเสมอ สมควรได้รับที่สิ่งทำไว้ในอดีต นางเอกไม่ได้ทำอะไรผิดแต่โดนพระเอกกระทำมาโดยตลอด...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
กลับมาอัพเดทหน่อยจ้า..แอด,😁😁...
รออัพเดทนะคะ...
ขอเรื่อง หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์...