ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 64

สรุปบท บทที่ 64 แม่เจ้าทำเรื่องร้ายไว้น้อยหรือ?: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

สรุปเนื้อหา บทที่ 64 แม่เจ้าทำเรื่องร้ายไว้น้อยหรือ? – ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ โดย อารั่ง

บท บทที่ 64 แม่เจ้าทำเรื่องร้ายไว้น้อยหรือ? ของ ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ในหมวดนิยายประวัติศาสตร์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย อารั่ง อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ให้ตายสิ เหตุใดจึงถูกลูกสาวเห็นเข้าได้!

หนานหว่านเยียนแอบตำหนิตัวเองอยู่ในใจแล้วตบหน้ากู้โม่หานอย่ารวดเร็ว นางลุกขึ้นนั่งโดยมิลังเล

กู้โม่หานโมโหมาก เขากำลังงุนงง เมื่อครู่เขาถูกนางตบอีกแล้ว! แต่ด้วยศักดิ์ศรี เขาจึงมิได้ตำหนิหนานหว่านเยียนว่าอย่างไร

มือข้างหนึ่งของกู้โม่หานดันเตียงเอาไว้ อีกข้างหนึ่งจับไปที่เอวของหนานหว่านเยียนแล้วออกแรงหยิกไปที่ร่างของนาง เขาลุกขึ้นราวกับมิมีอะไรเกิดขึ้น

หนานหว่านเยียนขมวดคิ้ว เจ้าบ้านี่ กล้าดีอย่างไรมาแก้แค้นนาง!

จากนั้นนางก็ตบไปที่มือของกู้โม่หานอย่างรังเกียจแล้วจ้องมองเขาด้วยความดุดัน นางหันไปยิ้มให้กับลูกๆ “วันนี้กินอะไรกัน เหตุใดจึงกลับมาเร็วนัก?”

แม้ว่ากู้โม่หานจะโกรธ แต่เขาก็มิอาจโมโหต่อหน้าเด็กๆ ได้ จึงทำเพียงเฝ้ามองดูสามแม่ลูกสนทนากันอย่างเงียบๆ

หนานหว่านเยียนตั้งใจเปลี่ยนหัวข้อสนทนาเพื่อปกปิดบรรยากาศอันคลุมเครือ แต่ใครจะรู้เล่าว่าเจ้าเกี๊ยวน้อยมีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างรวดเร็ว นางเข้ามาขวางตรงหน้าหนานหว่านเยียนไว้

ซาลาเปาก็เดินตามเข้ามาติดๆ สองพี่น้องหยุดยืนอยู่ตรงหน้าหนานหว่านเยียน กางแขนออกทำเป็นกำแพง ดวงตาทั้งสี่จับจ้องไปที่กู้โม่หาน

คนเลว กล้าอาศัยช่วงที่พวกนางมิอยู่มารังแกท่านแม่ โชคดีเหลือเกินที่พวกนางกลับมาแล้ว มิเช่นนั้นท่านแม่คงจะถูกรังแกอีก

กู้โม่หานยังมิทันได้สติกลับคืนมา เขามองเห็นเจ้าก้อนน้อยสองคนนี้ที่อยู่ตรงหน้า หัวใจเขาก็อ่อนไหวแล้วเอ่ยถามด้วยความสับสนว่า “เหตุใดพวกเจ้าจึงมองข้าเช่นนี้?”

เกี๊ยวน้อยผลักขาของกู้โม่หานด้วยความดุดัน นางกัดฟันตะโกนว่า “คนเลว เจ้าอยู่ให้ห่างท่านแม่ของข้า!”

นางชูกำปั้นน้อยๆ ของตนขึ้นโบกไปท่ามกลางอากาศ พยายามทำตัวให้ดุร้าย แต่มองไปช่างน่ารัก

ในทางกลับกัน ซาลาเปาดูเป็นห่วงกังวล นางจับมือของหนานหว่านเยียนมองไปทางซ้ายขวา โชคดีที่มิได้รับบาดเจ็บ

“ท่านแม่อย่าได้กลัว ข้าและพี่จะปกป้องท่านแม่เอง ท่านเจ็บตรงไหนหรือไม่?”

หนานหว่านเยียนรู้สึกซาบซึ้งใจยิ่งนัก นางตั้งใจปิดปากแน่น เจ้าเกี๊ยวน้อยเห็นท่าทีของนางเช่นนั้น ดวงตาอันกลมโตก็จ้องมองไปทางกู้โม่หานแล้วเอ่ยถามด้วยความดุเดือดว่า “เจ้า เจ้ามาทำอะไรอีก เจ้าคิดจะรังแกท่านแม่อีกแล้วใช่หรือไม่?”

กู้โม่หานจึงได้เข้าใจว่า แม่หนูน้อยทั้งสองกำลังเรียกร้องความยุติธรรมให้กับหนานหว่านเยียน จึงรู้สึกว่าเขาเป็นศัตรู

มิได้พบหน้าเพียงแค่สองวัน เขารู้สึกชื่นชอบแม่หนูน้อยทั้งสองขึ้นมามาก ท่าทางทำเหมือนกับคนโตเช่นนี้ ช่างใจกล้าเหลือเกิน ราวกับเขาในตอนเล็กๆ ที่มิเกรงกลัวสิ่งใด

“ข้ามาให้แม่เจ้าไปดูอาการเสิ่นอี่ว์ มิได้รังแกนางแต่อย่างใด”

รอยยิ้มปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา เมื่อได้รับการเตือนจากซาลาเปา เขาจึงได้ตระหนักถึงวัตถุประสงค์ที่เดินทางมา

นอกจากจุดประสงค์นี้แล้ว เขาเองก็อยากจะมาดูแม่หนูทั้งสองด้วย อยากจะลองมาสืบถามหนานหว่านเยียนดูว่าท่านพ่อแท้ๆ ของแม่หนูทั้งสองนี้เป็นใครกันแน่

หนานหว่านเยียนได้ยินดังนั้นก็เข้าใจได้ทันที นางเองก็เกือบลืมเรื่องอาการบาดเจ็บของตนไปแล้ว

แต่เกี๊ยวน้อยโมโหเสียจนกระทืบเท้าปึงปัง “ท่านแม่บาดเจ็บเพียงนี้ ท่านยังจะให้ท่านแม่ไปทำงานอีก เหตุใดท่านจึงชั่วร้ายนักหนา”

ซาลาเปาก็มิเห็นด้วยเช่นกัน นางจ้องมองไปทางกู้โม่หานด้วยความขุ่นเคืองใจ “นั่นสิ ท่านแม่เจ็บปวดรวดร้าวถึงเพียงนี้ มิอาจขยับเขยื้อนตัวได้ ท่านมีสิทธิ์อันใดมาใช้ท่านแม่ หากท่านเก่งจริงก็ไปรักษาเองสิ เชอะ!”

แม้จะกล่าวดังนั้น แต่มิรู้ว่าเพราะเหตุใดทุกครั้งที่นางเห็นกู้โม่หาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขารังแกหนานหว่านเยียน ในใจของนางก็รู้สึกปวดใจและเสียใจมาก

กู้โม่หานพูดมิออก เขามิอาจโต้เถียงกับแม่หนูน้อยทั้งสองคนนี้ได้เลย

เขามิมีเหตุผลที่จะปฏิเสธนาง

แต่บัดนี้เมื่อถูกเจ้าหนูน้อยทั้งสองตำหนิ เขากลับรู้สึกผิด และอยากจะขอโทษสองพี่น้องนี้

ผู้ชายชะงักลงแล้วเอ่ยขึ้นว่า “ข้าอธิบาย......”

“แต่ถึงอย่างไร......” เกี๊ยวน้อยกล่าวขึ้นขัดจังหวะเขา “การที่จะขับไล่แขกที่มาเยือนมิใช่วิธีการต้อนรับของเรา ท่านแม่เคยกล่าวเอาไว้ ใครก็ตามที่มาเยือนเรือนล้วนเป็นแขก ในเมื่อท่านเดินทางมาแล้ว พวกเราจะให้ท่านอยู่ร่วมรับประทานอาหารด้วยก็ได้ มิเช่นนั้นเกรงว่าเมื่อท่านจากไปแล้วจะไปให้ร้ายมารดาข้าอีก”

ดวงตาของเกี๊ยวน้อยเป็นประกาย นางหันไปขยิบตาให้กับซาลาเปา

ซาลาเปายังมิทันตั้งตัว เมื่อครุ่นคิดแล้วก็พยักหน้าตอบว่า “อืม”

กู้โม่หานสับสนในใจ ดวงตาเขาสั่นคลอน “เจ้าแน่ใจหรือว่าจะให้ข้าอยู่ร่วมมื้ออาหารด้วย?”

ท่าทีของเจ้าหนูน้อยเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันเหลือเกินจนทำให้เขารู้สึกงงงวย แต่ปฏิกิริยาแรกที่เขามีนั้นก็คือความประหลาดใจและความดีใจจากก้นบึ้ง

เขายังมิเคยร่วมกินข้าวกับพวกนางเลย......

ซาลาเปาน้อยกล่าวว่า “อืม พวกเราจะมิยอมปล่อยให้ผู้อื่นคิดว่าท่านแม่ขี้เหนียวเป็นอันขาด ท่านและท่านแม่อยู่รอที่นี่เถอะ ข้ากับพี่สาวจะไปหยิบอาหารมาให้ แต่! ท่านอย่าได้คิดรังแกท่านแม่อีก”

เมื่อกล่าวจบเด็กน้อยทั้งสองก็รีบตรงออกไปทางประตู ดวงตาของพวกเขาหันมาประสานกัน รอยยิ้มบนใบหน้าสองพี่น้องเผยถึงความชั่วร้ายเล็กน้อย

หากรอฤกษ์งามยามดี มิสู้กับมีโอกาสเหมาะเจาะ จงรีบใช้โอกาสนี้จัดการเขาเถอะ!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้