ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 63

แต่สิ่งที่เขาต้องยอมรับนั้นก็คือ......

เมื่อครู่ตอนที่เขาเห็นหนานหว่านเยียน หัวใจของเขาแทบจะหยุดเต้น

“กรี๊ด!” จู่ๆ เสียงกรีดร้องก็ดังขึ้น ทำลายบรรยากาศอันคลุมเครือในห้องไปทันที

กู้โม่หานรู้สึกว่าหูแทบจะหนวก ความรู้สึกอันลึกซึ้งเมื่อครูจางไป เขามองดูสตรีบ้าคลั่งคนนี้ด้วยความขยะแขยง

“กู้ โม่ หาน! เจ้าเป็นผีหรืออย่างไรกัน เหตุใดเจ้าจึงเดินเบานัก!” หนานหว่านเยียนกำลังอ่านหนังสือนิยายอย่างเคลิบเคลิ้ม บังเอิญถึงฉากที่นายหญิงจัดการตัวร้ายด้วยมือของตนอยู่ นางรู้สึกชื่นชมไปกับเนื้อเรื่อง

เมื่อสังเกตเห็นว่ามีลมหายใจของผู้อื่นอยู่ในห้อง เดิมทีนางคิดว่าลูกทั้งสองกลับมาแล้ว

ใครจะคิดเล่าว่าเมื่อนางหันกลับไปมองดูพบกับกู้โม่หานที่ยืนอยู่ ชวนให้‘ประหลาดใจ’

สายตาที่เขาจ้องมองมาทางนางนั้นมองอย่างมิเขินอาย ความประหลาดแฝงอยู่ในแววตาเขา

หนานหว่านเยียนชี้นิ้วไปทางกู้โม่หานแล้วกัดฟันด้วยความโมโห “เจ้าๆ ๆ มิมีกิริยามารยาทหรืออย่างไร? มิรู้หรือการเข้าห้องคนอื่นต้องเคาะประตูก่อน เจ้าทำเช่นนี้อาจทำให้ข้าตกใจตายได้รู้หรือไม่!”

ผู้ชายมองไปทางหนานหว่านเยียน เสแสร้งทำท่าทางยิ้มอย่างสงบเสงี่ยม “หึๆ เจ้าใจกล้ามากมิใช่หรืออย่างไร ข้ามองมิออกว่าพระชายาผู้กล้าหาญของข้านี้ จะมีความกลัวด้วย”

แม้ว่าสมองของเขาจะยังคงงุนงงจากเสียงกรีดร้องเมื่อครู่ของหนานหว่านเยียน แต่แผ่นหลังอันเปลือยเปล่าของหญิงสาวที่ถูกเปิดเผยออกมาบัดนี้ ทำให้เขาอดมิได้ที่จะรู้สึกกระสับกระส่าย

แต่เขาพยายามระงับความรู้สึกนั้นแล้วเผชิญหน้ากับนางอย่างใจเย็น

เมื่ออยู่ต่อหน้านาง เขาจะแพ้มิได้

หนานหว่านเยียนโมโหยิ่งนัก นางกัดฟันกรอดแล้วจ้องมองไปทางกู้โม่หาน “เจ้าคิดว่าคนอื่นๆ ล้วนไร้หัวใจเช่นเจ้าหรือ เจ้าจับจ้องมองดูคนอื่นด้วยความเยือกเย็น อีกทั้งทำให้ผู้อื่นต้องตกใจ หนังหน้าของเจ้าหนายิ่งกว่ากำแพงสิบเท่า!”

กู้โม่หานเลิกคิ้วเข้าหากันเล็กน้อย เขามองไปยังหนานหว่านเยียนที่กำลังโมโห บัดนี้กลับรู้สึกว่านางน่ารัก

มุมปากของเขาเผยอยิ้มขึ้นโดยมิรู้ตัว

เมื่อเห็นดังนั้น หนานหว่านเยียนก็อดมิได้ที่จะตัวสั่นขนลุกไปทั่ว

“เจ้าหัวเราะอะไรกัน ข้าบอกว่าหนังหน้าเจ้าหนายิ่งกว่ากำแพง ข้าพูดผิดไปหรือ?”

ใบหน้าของกู้โม่หานแข็งทื่อทันที เขาเพิ่งรู้ตัวเองว่าเขายิ้มขึ้น จากนั้นจึงได้กลับคืนสู่ท่าทางเย็นชาตามปกติ

“ล้อเล่นหรือ ข้ายิ้มให้เจ้า? ดูเหมือนเจ้าจะตกใจเสียจนสับสน เอ่ยวาจาไร้สาระออกมา”

หญิงสาวหัวเราะในใจ ชายผู้นี้ไร้ทางแก้จริงๆ กล้าทำแต่มิกล้ารับ แต่การที่จู่ๆ กู้โม่หานยิ้มให้กับนาง นางก็ขยะแขยงจนแทบอาเจียน

หนานหว่านเยียนพยุงตนเองขึ้นจากเตียงด้วยแขนข้างหนึ่ง หวังจะลุกขึ้น

ทันใดนั้นเองเสื้อผ้าที่นางใส่กลับด้านอยู่ก็ไถลลื่นลงไปจากไหล่ทันที แล้ว......

ใบหน้าอันหล่อเหลาของกู้โม่หานแดงเรื่อขึ้นทันที

“กรี๊ด......!”

เสียงกรีดร้องดังออกมาจากภายในห้องอีกครั้ง หนานหว่านเยียนรีบคว้าชายเสื้อของตนเอาไว้แล้วรวบมันเข้ามา มือทั้งสองข้างปิดหน้าอกแน่นหนา

นางเพิ่งจะรู้ตัวว่านางยังมิทันสวมใส่เสื้อผ้าให้กระชับ โชคดีที่นางมีปฏิกิริยาว่องไว มิอย่างนั้นท่านอ๋องบ้ากามคนนี้คงจะลวนลามนางแน่

หนานหว่านเยียนเงยหน้าขึ้นเห็นว่ากู้โม่หานยังคงมองนางอยู่ เมื่อนึกถึงเมื่อครู่ท่าทางที่เขาสนทนากับนางแล้วจ้องมองนางเช่นนี้ ความโมโหก็พลุ่งพล่านขึ้นในทันใด “เจ้าอ๋อง เจ้าผีทะเล บ้ากาม เจ้าหน้าด้านหน้าทน!”

ในสายตาของผู้ชาย การที่หนานหว่านเยียนโมโหเช่นนี้ราวกับเจ้าแมวตัวน้อยที่ขนชี้ฟู กำลังระบายความโกรธมาที่ตน

มิได้มีผลกระทบอันใดเลย

แต่ใบหน้าของเขายังคงดูมิพอใจ ขมวดคิ้วเข้าหากันกล่าวว่า “พอได้แล้ว เจ้าจะตะโกนโหวกเหวกโวยวายถึงเมื่อไหร่กัน หากเจ้ายังมิหุบปากข้าจะตัดลิ้นของเจ้าเสีย!”

หนานหว่านเยียนรีบหุบปากลงแล้วดึงหมอนจากด้านข้างเข้ามาปิดบังร่างของตนเอาไว้ ชี้ไปที่ผู้ชายกล่าวว่า “เจ้า เจ้าหลับตาเสีย ข้าจะสวมเสื้อผ้า หากเจ้ากล้าแอบมองข้า ข้าจะ ข้าจะทำให้เจ้าตายทั้งเป็น!”

ใบหน้าของนางแดงเรื่อ ดวงตาแดงก่ำ ท่าทางราวกับถูกใครเอาเปรียบมา

กู้โม่หานกลืนน้ำลายลงคอเบาๆ เขาหายใจเข้าลึก พยายามสงบสติอารมณ์ เนื่องจากได้รับบทเรียนในครั้งก่อน ครั้งนี้เขาจะมิยอมให้หนานหว่านเยียนดูถูกเขาแน่นอน

ศักดิ์ศรีลูกผู้ชายของเขา จะให้สตรีผู้นี้มาย่ำยีได้อย่างไร

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้