หนานหว่านเยียนตกใจ เฟิงยางยิ่งเหงื่อแตกพลั่ก
ทั้งคู่ไม่กล้าหยุด อวี๋เฟิงกดไหล่หนานหว่านเยียนทันที “ฮ่องเต้กำลังพูดกับเจ้า ทำไมเจ้าไม่ฟัง?”
สีหน้าของหนานหว่านเยียนเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน เฟิงยางก็หยุดฝีเท้าแล้วหันไปมองหนานหว่านเยียน แต่กลับเห็นสายตาสงบเยือกเย็นของหนานหว่านเยียน บ่งบอกว่าให้นางออกไปก่อน
นางต้องกัดริมฝีปากและผงกศีรษะเบาๆ ล่าถอยไป แต่แทนที่จะเดินไปไหนไกล กลับอำพรางลมหายใจซ่อนตัวอยู่หลังภูเขาจำลอง เผื่อเกิดปัญหาอะไร
อีกด้านหนึ่ง แม้ว่าหนานหว่านเยียนจะกระวนกระวายอยู่ในใจ แต่ก็ยังสงบสติอารมณ์ได้ พลางหันกลับไปคารวะกู้โม่หานด้วยความเคารพ โดยตั้งใจลดเสียงลง
“ไม่ทราบว่าฝ่าบาทเรียกบ่าวไว้ด้วยเรื่องอันใดเพคะ?”
กู้โม่หานถึงมีโอกาสได้เผชิญหน้ากับหนานหว่านเยียนตรงๆ
เขาหรี่ดวงตาอันทรงเสน่ห์อย่างเย็นชา มองหนานหว่านเยียนตั้งแต่หัวจรดเท้า แต่กลับพบว่ารูปร่างของนางคล้ายกับคนคนหนึ่ง นิ้วของเขากำแน่น “เงยหน้าขึ้น”
ในอ้อมอกของเขา เกี๊ยวน้อยกลับเลียริมฝีปากด้วยความตื่นเต้นลังเล ดวงตาโตคู่นั้นจ้องตรงไปที่หนานหว่านเยียน ร้อนแผดเผาอย่างถึงที่สุด
หนานหว่านเยียนกระแอมด้วยความประหม่า ประสานฝ่ามือที่มีเหงื่อออก แต่ยังคงเงยหน้าขึ้นตามคำสั่งของกู้โม่หาน เผยให้เห็นใบหน้าที่เปลี่ยนโฉมมาอย่างพิถีพิถัน
“เพคะ”
กู้โม่หานมองดูสตรีที่แต่งกายอย่างเรียบง่ายและหน้าตาธรรมดาที่อยู่ตรงหน้า แววตาสั่นเทา ค่อนข้างผิดหวัง
รูปร่างของสาวใช้คนนี้จะมองอย่างไรก็เหมือนหนานหว่านเยียน แต่เมื่อพิจารณาอย่างถี่ถ้วน นอกจากรูปร่างของนางแล้ว ก็ไม่มีตรงไหนสัมพันธ์กับหนานหว่านเยียนเลย ใบหน้าแตกต่าง แม้แต่กลิ่นกายก็แตกต่างอย่างสิ้นเชิง
เมื่อคิดว่าหนานหว่านเยียนจากไปสองเดือนแล้ว จนป่านนี้ยังไร้วี่แวว หัวใจของเขาก็ว่างเปล่า เหมือนถูกคว้านเนื้อออกไปชิ้นใหญ่
เขาคงคิดถึงนางมากเกินไปจริงๆ ตอนนี้เมื่อเห็นผู้หญิงคนหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายกับนางมาก ก็คิดว่ามีโชคและความหวังรางๆ
กู้โม่หานยิ้มเยาะตัวเองในใจ ริมฝีปากบางมีความขมขื่นอย่างคลุมเครือ
ความจริงแล้ว นางพยายามขบคิดหาวิธีหนีไปทุกวิถีทาง แล้วจะตกหลุมพรางกลับมาได้อย่างไร
และครั้งนี้หนานหว่านเยียนอยู่ใกล้กับกู้โม่หานมากขึ้น แม้ว่าจะต้องการเพิกเฉยต่อสถานการณ์ของเขา แต่ก็พิจารณาเขาอย่างรอบคอบชัดเจน
ไม่ได้เจอกันสองเดือน กู้โม่หานไม่เพียงซูบผอมลง มือขวาของเขายังดูไม่ประสานกันอีก ขณะที่อุ้มเกี๊ยวน้อย ก็มักจะหันออกไปด้านนอกเป็นนิสัย
แต่แขนเสื้อนั้นยาวเกินไป นางมองไม่เห็นเงื่อนงำใดๆ แค่รู้สึกว่ามือขวาของเขาได้รับบาดเจ็บ
ส่วนมือซ้ายของเขามีแหวนนิ้วก้อยเพิ่มขึ้นมาอีกวง นางมองปราดเดียวก็จำได้ในทันที มันทำจากปิ่นระย้าที่นางเคยสวมในพิธีมอบบรรดาศักดิ์
แหวนนิ้วก้อยมีรูปทรงปราดเปรียวทันสมัย แต่มีกลีบยื่นออกมาที่ขอบหยกฝัง คล้ายกับดอกไอริส
เมื่อสวมมันบนนิ้วก้อยขาวเรียวยาวของกู้โม่หาน จะเห็นได้ชัดว่าไม่เหมาะเลย ไม่เพียงแต่ดูเป็นผู้หญิงเท่านั้น แต่ยังไม่ค่อยเข้ากันอีกด้วย วางอยู่บนข้อนิ้วของเขาอย่างฝืนๆ
สีหน้าท่าทางของหนานหว่านเยียนดูแปลกไป เขาเอาปิ่นระย้าของนางมาทำเป็นแหวนสวมนิ้วได้อย่างไร…
เกี๊ยวน้อยขยุกขยิกอยู่ในอ้อมกอดของกู้โม่หาน ลงสู่พื้นอย่างราบรื่น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้
อ่าน ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 998 - 1,846 www.sunnewsfocus.com...
อ่านยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 998 - 1846 sunnewsfocus.com นะคะ...
ขัดใจหลายหย่าง 1. นางเอก - ก็รู้ว่าตัวเองสู้เเพ้อ๋องทุกครั้ง เเทนที่จะฝึกวิชาป้องกันตัวบ้าง เเต่ก็ไม่เห็นทำไร 2. ลูก - ก็เห็นอยู่ว่าเเม่ตัวเองทุกข์ใจที่ต้องอยู่กับอ๋อง เเทนที่จะสนับสนุนให้เลิก เเต่ยังจะให้คบกันต่อ คือพวกเอ็งจะขาดพ่อไม่ได้เลยรึไงฟะ 3. อ๋อง - รักเเต่ใช้วิธีผิด นางไม่ยอมก็ขังนางไว้ เจอผู้ชายคนไหนก็ขู่จะทำร้ายเค้า ? เป็นพระเอกที่ห่วยบัดซบ...
ใครที่คิดว่าหนานหว่านเยียนอคติเกินไป ลองย้อนไปดูสิ่งที่กู้โม่หานทำกับนางเอกในช่วงแรกๆ ว่ามันสมควรให้อภัยกันง่ายๆมั้ย...
ไม่แปลกหรอกที่นางเอกจะเกลียดกู้โม่หาน และไม่ยอมให้อภัยกู้โม่หาน ก่อนหน้านั้นหนานหว่านเยียนโดนทำร้ายทั้งกายและจิตใจมามาก โดนจับขังในเรือนเย็น ทั้งตั้งท้องลูก คลอดลูกเอง เลี้ยงเอง ข้าวที่จะกินแทบจะหาไม่ได้ พระเอกมักจะเลือกช่วยหยุนอี่โหรวก่อนนางเอกเสมอ สมควรได้รับที่สิ่งทำไว้ในอดีต นางเอกไม่ได้ทำอะไรผิดแต่โดนพระเอกกระทำมาโดยตลอด...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
กลับมาอัพเดทหน่อยจ้า..แอด,😁😁...
รออัพเดทนะคะ...
ขอเรื่อง หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์...