ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 651

สรุปบท บทที่ 651 อย่าคิดหมายปองตำแหน่งฮองเอา: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

ตอน บทที่ 651 อย่าคิดหมายปองตำแหน่งฮองเอา จาก ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 651 อย่าคิดหมายปองตำแหน่งฮองเอา คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายประวัติศาสตร์ ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ที่เขียนโดย อารั่ง เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

หนานหว่านเยียนตกใจ เฟิงยางยิ่งเหงื่อแตกพลั่ก

ทั้งคู่ไม่กล้าหยุด อวี๋เฟิงกดไหล่หนานหว่านเยียนทันที “ฮ่องเต้กำลังพูดกับเจ้า ทำไมเจ้าไม่ฟัง?”

สีหน้าของหนานหว่านเยียนเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน เฟิงยางก็หยุดฝีเท้าแล้วหันไปมองหนานหว่านเยียน แต่กลับเห็นสายตาสงบเยือกเย็นของหนานหว่านเยียน บ่งบอกว่าให้นางออกไปก่อน

นางต้องกัดริมฝีปากและผงกศีรษะเบาๆ ล่าถอยไป แต่แทนที่จะเดินไปไหนไกล กลับอำพรางลมหายใจซ่อนตัวอยู่หลังภูเขาจำลอง เผื่อเกิดปัญหาอะไร

อีกด้านหนึ่ง แม้ว่าหนานหว่านเยียนจะกระวนกระวายอยู่ในใจ แต่ก็ยังสงบสติอารมณ์ได้ พลางหันกลับไปคารวะกู้โม่หานด้วยความเคารพ โดยตั้งใจลดเสียงลง

“ไม่ทราบว่าฝ่าบาทเรียกบ่าวไว้ด้วยเรื่องอันใดเพคะ?”

กู้โม่หานถึงมีโอกาสได้เผชิญหน้ากับหนานหว่านเยียนตรงๆ

เขาหรี่ดวงตาอันทรงเสน่ห์อย่างเย็นชา มองหนานหว่านเยียนตั้งแต่หัวจรดเท้า แต่กลับพบว่ารูปร่างของนางคล้ายกับคนคนหนึ่ง นิ้วของเขากำแน่น “เงยหน้าขึ้น”

ในอ้อมอกของเขา เกี๊ยวน้อยกลับเลียริมฝีปากด้วยความตื่นเต้นลังเล ดวงตาโตคู่นั้นจ้องตรงไปที่หนานหว่านเยียน ร้อนแผดเผาอย่างถึงที่สุด

หนานหว่านเยียนกระแอมด้วยความประหม่า ประสานฝ่ามือที่มีเหงื่อออก แต่ยังคงเงยหน้าขึ้นตามคำสั่งของกู้โม่หาน เผยให้เห็นใบหน้าที่เปลี่ยนโฉมมาอย่างพิถีพิถัน

“เพคะ”

กู้โม่หานมองดูสตรีที่แต่งกายอย่างเรียบง่ายและหน้าตาธรรมดาที่อยู่ตรงหน้า แววตาสั่นเทา ค่อนข้างผิดหวัง

รูปร่างของสาวใช้คนนี้จะมองอย่างไรก็เหมือนหนานหว่านเยียน แต่เมื่อพิจารณาอย่างถี่ถ้วน นอกจากรูปร่างของนางแล้ว ก็ไม่มีตรงไหนสัมพันธ์กับหนานหว่านเยียนเลย ใบหน้าแตกต่าง แม้แต่กลิ่นกายก็แตกต่างอย่างสิ้นเชิง

เมื่อคิดว่าหนานหว่านเยียนจากไปสองเดือนแล้ว จนป่านนี้ยังไร้วี่แวว หัวใจของเขาก็ว่างเปล่า เหมือนถูกคว้านเนื้อออกไปชิ้นใหญ่

เขาคงคิดถึงนางมากเกินไปจริงๆ ตอนนี้เมื่อเห็นผู้หญิงคนหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายกับนางมาก ก็คิดว่ามีโชคและความหวังรางๆ

กู้โม่หานยิ้มเยาะตัวเองในใจ ริมฝีปากบางมีความขมขื่นอย่างคลุมเครือ

ความจริงแล้ว นางพยายามขบคิดหาวิธีหนีไปทุกวิถีทาง แล้วจะตกหลุมพรางกลับมาได้อย่างไร

และครั้งนี้หนานหว่านเยียนอยู่ใกล้กับกู้โม่หานมากขึ้น แม้ว่าจะต้องการเพิกเฉยต่อสถานการณ์ของเขา แต่ก็พิจารณาเขาอย่างรอบคอบชัดเจน

ไม่ได้เจอกันสองเดือน กู้โม่หานไม่เพียงซูบผอมลง มือขวาของเขายังดูไม่ประสานกันอีก ขณะที่อุ้มเกี๊ยวน้อย ก็มักจะหันออกไปด้านนอกเป็นนิสัย

แต่แขนเสื้อนั้นยาวเกินไป นางมองไม่เห็นเงื่อนงำใดๆ แค่รู้สึกว่ามือขวาของเขาได้รับบาดเจ็บ

ส่วนมือซ้ายของเขามีแหวนนิ้วก้อยเพิ่มขึ้นมาอีกวง นางมองปราดเดียวก็จำได้ในทันที มันทำจากปิ่นระย้าที่นางเคยสวมในพิธีมอบบรรดาศักดิ์

แหวนนิ้วก้อยมีรูปทรงปราดเปรียวทันสมัย แต่มีกลีบยื่นออกมาที่ขอบหยกฝัง คล้ายกับดอกไอริส

เมื่อสวมมันบนนิ้วก้อยขาวเรียวยาวของกู้โม่หาน จะเห็นได้ชัดว่าไม่เหมาะเลย ไม่เพียงแต่ดูเป็นผู้หญิงเท่านั้น แต่ยังไม่ค่อยเข้ากันอีกด้วย วางอยู่บนข้อนิ้วของเขาอย่างฝืนๆ

สีหน้าท่าทางของหนานหว่านเยียนดูแปลกไป เขาเอาปิ่นระย้าของนางมาทำเป็นแหวนสวมนิ้วได้อย่างไร…

เกี๊ยวน้อยขยุกขยิกอยู่ในอ้อมกอดของกู้โม่หาน ลงสู่พื้นอย่างราบรื่น

แต่เขาก็ไม่ได้ทำอะไรรุนแรงเกินไป แค่เอื้อมมือไปที่เกี๊ยวน้อยอย่างอ่อนโยนรักใคร่ พลางเอ่ยปากกระซิบเบาๆ ว่า “อานผิง มานี่”

เกี๊ยวน้อยปล่อยมือกลับมาอยู่ข้างๆ กู้โม่หานอย่างไม่เต็มใจ พลางมองหนานหว่านเยียนตาปริบๆ บุ้ยปากก้มหน้าลง

ฝ่ามือของหนานหว่านเยียนว่างเปล่า ปลายนิ้วงุ้มเข้า กำหมัดอย่างอ้างว้าง สายตาที่มองเกี๊ยวน้อย เป็นความเจ็บปวดที่ไม่อยากพรากจาก

สีหน้านี้ถูกกู้โม่หานจับได้ เขาตกใจ ขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ

แต่เมื่อพิจารณาจากที่นางเพิ่งปกป้องเกี๊ยวน้อยไปเมื่อครู่ อาจเป็นเพราะว่าชอบเด็กมาก ไม่เช่นนั้นคงไม่แสดงสายตาเศร้าสร้อยเช่นนี้

และหญิงผู้นี้มีมารยาทและสุภาพ ไม่น่าจะเป็นบ่าวจริงๆ การที่สามารถปรากฏตัวที่นี่ได้ บางทีอาจได้รับเลือกจากเสด็จย่าให้เข้าวังเพื่อคัดเลือกชายา

กู้โม่หานถูแหวนนิ้วก้อยที่มือขวา คิ้วและดวงตากดลงเบาๆ น้ำเสียงไม่เร็วไม่ช้า แต่มีคำเตือนแฝงอยู่อย่างคลุมเครือ

“ข้าไม่สนว่าเจ้าจะสมัครใจเข้าวังหรือไม่ แต่เชื่อว่าเจ้าก็เป็นคนฉลาดคนหนึ่ง”

“ตำแหน่งในฮองเอา ไม่ใช่สิ่งที่เจ้าควรคิดฝัน”

หนานหว่านเยียนก้มหน้าลงพยักหน้าเล็กน้อย แต่น้ำเสียงมีความโล่งใจระคนดีใจ “เพคะ บ่าวเข้าใจ”

ดูเหมือนว่ากู้โม่หานจะถือว่านางเป็นผู้สมัครสนมแล้ว แต่เช่นนี้ก็ดี ตราบใดที่จำนางไม่ได้ แผนการทั้งหมดก็สามารถดำเนินต่อไปได้ตามปกติ

กู้โม่หานเห็นหนานหว่านเยียนมีเหตุผล จึงถามคำถามอีกสองข้อ “พ่อของเจ้าคือใคร มีตำแหน่งอยู่ในวังหรือ?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้