ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 652

เมื่อครู่ตอนที่นางปกป้องเกี๊ยวน้อย เขาได้ยินอยู่ไม่มากก็น้อย ทั้งๆ ที่รู้ว่าตำแหน่งของตัวเองด้อยกว่าเจียงหรูเยว่ แต่ก็กล้าหาญพอไม่เกรงกลัวต่ออำนาจ สอนลูกสาวออกมาได้อย่างนี้ คงจะเป็นพ่อได้ไม่เลวทีเดียว

ให้รางวัลบ้างก็สมควรแล้ว

นี่ถือได้ว่าเป็นคำถามที่ทำให้หนานหว่านเยียนชะงักงัน พ่อของนาง...นางเองก็ไม่รู้จักขุนนางหลายคนในราชสำนัก ภายในเวลาชั่วครู่เดียวยังไม่สามารถแต่งเรื่องขึ้นมาได้ จึงรู้สึกตื่นตระหนกขึ้นมาทันที

หนานหว่านเยียนกัดริมฝีปาก แล้ววางมือลงก่อนจะคลึงปลายนิ้วโดยไม่รู้ตัว เพื่อปกปิดความกังวล

แต่ในไม่ช้า นางก็สำรวมความคิด เงยหน้าขึ้นมองกู้โม่หานอย่างเยือกเย็น ก้มตัวเล็กน้อยเพื่อทักทาย

“บ่าวรู้ว่าฝ่าบาทต้องการให้รางวัลแก่บ่าวที่ปกป้ององค์หญิงใหญ่อานผิง แต่บ่าวคิดว่า การปกป้องเจ้าหญิงเป็นสิ่งที่ควรทำในฐานะข้าราชบริพาร บ่าวแค่ทำในเรื่องที่ควรทำเท่านั้น ฝ่าบาทไม่จำเป็นต้องให้รางวัลแก่บ่าวหรือพ่อเพราะเรื่องนี้”

หนานหว่านเยียนเอาแต่อธิบายเพื่อเอาตัวรอด แต่ไม่คาดคิดเลยว่ากู้โม่หานที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับนางแววตาว่างเปล่า ในดวงตามีการสั่นสะเทือนอันร้อนผ่าว

การกระทำภายในจิตใต้สำนึกของนางเมื่อครู่เข้าสู่สายตาของเขาอย่างครบถ้วน เห็นได้ชัดว่าเป็นการกระทำที่หนานหว่านเยียนจะทำออกมาอย่างไม่รู้ตัว

ในขณะที่นางกำลังประหม่า การเคลื่อนไหวเหล่านี้จะปรากฏบ่อยขึ้น

กู้โม่หานมองไปที่หนานหว่านเยียนด้วยความตกใจ ไม่ได้สนใจคำพูดของนางเลย

“เจ้าทำสิ่งเหล่านี้เป็นได้ยังไง?”

ทำสิ่งเหล่านี้เป็น

ทำอะไร?

สีหน้าของหนานหว่านเยียนชะงักงัน รู้สึกอธิบายไม่ถูก แต่ภูมิหลังของครอบครัวถึงอย่างไรก็ตบตาไปก่อน หลังจากสงบจิตใจลงบ้าง ก็มองไปทางกู้โม่หานด้วยสีหน้างุนงง “ที่ฝ่าบาทพูดถึงคืออะไรเพคะ?”

กู้โม่หานจับจ้องหนานหว่านเยียนอย่างใกล้ชิด พยายามมองนางให้ออกอย่างหมดจด

ยิ่งมองนานเท่าไหร่ก็ยิ่งรู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ หนานหว่านเยียนจะไม่พูดคุยกับเขาอย่างใจเย็น ในเมื่อนางจากไปแล้ว ก็จะไม่วิ่งกลับมาเอง

ไฟในดวงตาของเขาค่อยๆ สงบลง กลับสู่สภาวะสงบอีกครั้ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้