หนานหว่านเยียนรู้สึกเจ็บแปลบอยู่ในใจ แต่ไม่ได้แสดงออกมาทางสีหน้า เพียงแค่ยืนเงียบๆ เชื่อฟังและสุภาพ
ข้างหลังนาง เฟิงยางก็โค้งคำนับอย่างเชื่อฟังเช่นกัน
ไทเฮายกพระหัตถ์ขึ้นและโบกมือให้หนานเหยียนลุกขึ้น “ข้าได้ยินมาว่า เมื่อวานที่งานเลี้ยงในวัง เจ้าได้ช่วยซื่อจือไว้?”
หนานหว่านเยียนยืนตัวตรง ทูลความตามจริง
“หม่อมฉันทนเห็นซื่อจือเจ็บปวดเช่นนั้นไม่ได้ จึงได้เข้าช่วยเหลือ นับว่าเป็นเกียรติแก่หม่อมฉันที่สามารถช่วยชีวิตซื่อจือไว้ได้”
เดินทางสายกลาง ท่าทีของไทเฮาที่มีต่อหนานหว่านเยียนนั้นถือว่าผ่อนคลาย นางตอบรับด้วยความเห็นชอบ
จากนั้น สายตาของนางได้จับจ้องไปที่หนานหว่านเยียน ค่อยๆ เอ่ยปากถามอีกครั้งว่า “จงเป็นคนซื่อตรง ทักษะทางการแพทย์นี้ของเจ้านี้ ได้เรียนรู้ตั้งแต่เมื่อไหร่?”
หนานหว่านเยียนไม่ได้ยินความสงสัยหรือเคร่งขรึมในน้ำเสียงของไทเฮา จึงผ่อนคลายลง แล้วพูดคุยเป็นเพื่อนเหล่าไท่ไท่
“ทูลไทเฮา ตระกูลของหม่อมฉันฝึกฝนวิชาแพทย์มาหลายชั่วอายุคน ทักษะทางการแพทย์ของหม่อมฉันก็เรียนรู้มาจากพ่อและปู่เช่นกัน”
ไทเฮาพยักหน้าเบาๆ ฟังเสียงที่ไป๋จื่อพูด รวมถึงความเฉยเมยในสายตาของไป๋จื่อ ทำให้นางนึกถึงหนานหว่านเยียนขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ
ไม่รู้ว่ากำลังบ่นพึมพำหรือกระซิบบอกใคร นางตบหัวเข่าตัวเองแล้วพูดว่า “เหมือน เหมือนทีเดียว…”
ตั้งแต่หนานหว่านเยียนจากไป นางไม่ได้มีความรู้สึกดีเป็นพิเศษกับสตรีที่เข้ามาในวังอย่างไม่หยุดหย่อน ไม่เกิดความโปรดปรานผู้ใด
แต่นางแนะนำคนจากวังหลังให้กู้โม่หานซ้ำแล้วซ้ำอีก เพื่อให้กู้โม่หานพิจารณา ตอนนี้เมื่อได้เห็นไป๋จื่อ ก็ดูเหมือนว่านางจะเข้าใจสาเหตุที่กู้โม่หานเก็บไป๋จื่อไว้โดยเพิกเฉยต่อคำทัดทาน
มันคล้ายกับเยียนเอ๋อร์ในปีนั้น ที่ทำให้นางรู้สึกคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก แม้ว่าจะไม่ชอบ แต่ก็ไม่รังเกียจเช่นกัน
คิดได้ดังนั้นนางก็ถอนหายใจ “ไป๋จื่อ เจ้ารู้ไหมว่าเหตุใดข้าถึงเรียกเจ้ามาที่นี่?”
“หม่อมฉันโง่เขลา ไทเฮาได้โปรดแจ้งให้ทราบเถิด”
ไทเฮามองหนานหว่านเยียนอย่างลึกซึ้ง “เจ้าเป็นคู่หมั้นของแม่ทัพน้อยหยุนใช่ไหม?”
เฟิงยางขมวดคิ้ว มองไปที่หนานหว่านเยียนด้วยความกังวล แต่หนานหว่านเยียนกลับพยักหน้าเหมือนปกติ “เพคะ”
สีหน้าของไทเฮายิ่งเคร่งขรึมขึ้น “เจ้าเป็นภรรยาของขุนนาง ฮ่องเต้พาเจ้าเข้ามาในวัง มันผิดประเพณี เขาเป็นโอรสแห่งสวรรค์ เป็นฮ่องเต้ ทั่วราชสำนักและทั่วโลกมีสายตานับไม่ถ้วนจับจ้องมาที่เขา รอดูเขาทำผิดพลาด”
ความปรารถนาสูงสุดของข้าในชีวิตนี้ คือการได้เห็นฮ่องเต้เป็นกษัตริย์ที่ชาญฉลาด นำพาแคว้นซีเหย่ให้สงบสุข ชายแดนมีเสถียรภาพ รุ่งเรืองสงบสุข ดังนั้นข้าจะไม่มีวันปล่อยให้เขาทำผิดพลาด เจ้าเข้าใจไหม?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้
อ่าน ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 998 - 1,846 www.sunnewsfocus.com...
อ่านยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 998 - 1846 sunnewsfocus.com นะคะ...
ขัดใจหลายหย่าง 1. นางเอก - ก็รู้ว่าตัวเองสู้เเพ้อ๋องทุกครั้ง เเทนที่จะฝึกวิชาป้องกันตัวบ้าง เเต่ก็ไม่เห็นทำไร 2. ลูก - ก็เห็นอยู่ว่าเเม่ตัวเองทุกข์ใจที่ต้องอยู่กับอ๋อง เเทนที่จะสนับสนุนให้เลิก เเต่ยังจะให้คบกันต่อ คือพวกเอ็งจะขาดพ่อไม่ได้เลยรึไงฟะ 3. อ๋อง - รักเเต่ใช้วิธีผิด นางไม่ยอมก็ขังนางไว้ เจอผู้ชายคนไหนก็ขู่จะทำร้ายเค้า ? เป็นพระเอกที่ห่วยบัดซบ...
ใครที่คิดว่าหนานหว่านเยียนอคติเกินไป ลองย้อนไปดูสิ่งที่กู้โม่หานทำกับนางเอกในช่วงแรกๆ ว่ามันสมควรให้อภัยกันง่ายๆมั้ย...
ไม่แปลกหรอกที่นางเอกจะเกลียดกู้โม่หาน และไม่ยอมให้อภัยกู้โม่หาน ก่อนหน้านั้นหนานหว่านเยียนโดนทำร้ายทั้งกายและจิตใจมามาก โดนจับขังในเรือนเย็น ทั้งตั้งท้องลูก คลอดลูกเอง เลี้ยงเอง ข้าวที่จะกินแทบจะหาไม่ได้ พระเอกมักจะเลือกช่วยหยุนอี่โหรวก่อนนางเอกเสมอ สมควรได้รับที่สิ่งทำไว้ในอดีต นางเอกไม่ได้ทำอะไรผิดแต่โดนพระเอกกระทำมาโดยตลอด...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
กลับมาอัพเดทหน่อยจ้า..แอด,😁😁...
รออัพเดทนะคะ...
ขอเรื่อง หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์...