แต่ความจริงแล้ว สามารถได้พบกับกู้โม่เฟิงในเวลานี้ ภายในใจของกู้โม่หานมิทราบเพราะเหตุใด เขายังคงรู้สึกผ่อนคลายอยู่บ้างเล็กน้อยด้วยซ้ำ
บางทีอาจเพราะได้รับความกดดันนานมากเกินไปแล้ว ตอนนี้สามารถมีพี่น้องสักคนอยู่เคียงข้างพูดคุยสนทนาด้วยกัน เขาก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งเช่นกัน
กู้โม่เฟิงทำท่ามุ่ยปาก นั่งตัวตรงและกระแอมไอให้คล่องคอแล้วพูดว่า
“ความจริงก็มิใช่เรื่องใหญ่โตอันใดเช่นกัน ก็คือช่วงเวลาใกล้ๆ นี้ข้ามีความรู้สึกหงุดหงิดรำคาญใจอยู่บ้างเล็กน้อย ต้องการมาสนทนาพูดคุยกับฮ่องเต้”
สองวันนี้เขามิได้อยู่ในวัง กลับได้ยินเสียงซุบซิบนินทามาแล้วมิน้อย
วันนี้ทันทีที่เห็นกู้โม่หานเขาก็เข้าใจกระจ่างแล้ว อารมณ์ของกู้โม่หานไม่ค่อยดีมากนัก ในเวลาเช่นนี้หากเขาคอยเป็นเพื่อนอยู่ข้างกาย สองพี่น้องสรวลเสเฮฮาหัวเราะกันอย่างสนุกสนานครึกครื้น บางทีอาจช่วยให้กู้โม่หานคลี่คลายอารมณ์ให้สงบลงได้
“หืม?” กู้โม่หานเลิกคิ้วขึ้นเต็มเปี่ยมด้วยความสนใจรู้สึกสนุก เผยอริมฝีปากเผยรอยยิ้มออกมาวูบ มีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่นอยู่หลายส่วน “ข้างกายของเฉิงอ๋องมีสตรีรายล้อมดูตัวจำนวนมากมาย ยังมีช่วงเวลาที่รู้สึกหงุดหงิดรำคาญใจด้วยหรือ?”
กู้โม่เฟิงถลึงตามองเขาแล้วคราหนึ่ง การดูตัวสตรีนั้นยังมิใช่การช่วยทลายวงล้อมแก้ปัญหาให้เขาหรอกหรือ คราวนี้ช่างประเสริฐนัก กลับหัวเราะเยาะเขาขึ้นมาแล้ว
“ข้าไม่ต้องการสนทนากับฮ่องเต้เกี่ยวกับเรื่องนี้ ช่วงเวลาล่าสุดนี้หลินเอ๋อร์เจ็บไข้ได้ป่วยสุขภาพไม่ค่อยดีนัก คำพูดเพ้อยามหลับฝันก็เอาแต่พูดถึงหนานชิงชิงซ้ำแล้วซ้ำเล่าตลอดมา ข้าเห็นแล้วรู้สึกช่างปวดใจยากทนทานจริงๆ เด็กคนนี้กำพร้ามารดาแล้วตั้งแต่เล็กๆ ข้า……”
กู้โม่เฟิงพูดพลางก็เปลี่ยนเป็นหน้านิ่วคิ้วขมวดขึ้นมาแล้ว ไม่สามารถเข้าใจสารพัดสารพันจริงๆ “เจ้าว่า หนานชิงชิงที่เป็นมารดาคนนี้ ไฉนจึงจิตใจเหี้ยมโหดอำมหิตถึงเพียงนั้นเล่า?”
“ข้าตอนนั้นก็ได้ช่วยชีวิตนางเอาไว้อย่างสุดความสามารถแล้ว นางกลับฆ่าตัวตายไปแล้วภายในวัดชิงอัน? ตอนที่นางใช้ความตายยุติปัญหาทั้งหมดนั้น หรือว่านางมิเคยคิดถึงหลินเอ๋อร์บ้างเลยแม้แต่น้อยเชียวหรือ?!”
ความผิดของหนานชิงชิงช่างสุดแสนชั่วร้ายใหญ่หลวงยิ่งนัก จำเป็นต้องได้รับการลงโทษเช่นกัน แต่ตอนนั้นเขาละเว้นชีวิตของหนานชิงชิง มิใช่ก็เพราะเห็นแก่หลินเอ๋อร์หรอกหรือ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม คนอย่างน้อยต้องยังมีชีวิตอยู่ เพราะการมีชีวิตอยู่นั้น ก็จะทำให้ลูกน้อยมีความหวัง!
สตรีนางนั้นกลับจริงจังอย่างยิ่งมิยินยอมรอมชอมแม้แต่น้อย กระทำอัตวินิบาตกรรมโดยตรงไปแล้ว!
กู้โม่หานเหลือบมองกู้โม่เฟิงที่สีหน้าเขียวคล้ำหม่นหมองคราหนึ่ง บนใบหน้าละเอียดอ่อนนิ่งสงบราบเรียบ ดวงตาสีดำสนิทหยีลงเล็กน้อย กลับสงบปากสงบคำมิออกเสียงใดๆ
ภายในความทรงจำของเขา หนานชิงชิงหาใช่คนที่แสวงหาความตายด้วยตัวเองอย่างง่ายดายเช่นนั้นไม่ นางเป็นคนมีความทะเยอทะยาน คนที่วางแผนเพื่ออนาคตของตัวเองเช่นนั้น ไหนเลยจะแสวงหาความตายโดยง่ายดายเล่า?
เรื่องนี้มีจุดที่น่าสงสัยอยู่จริงๆ
แต่ตอนนี้คนก็ตายไปแล้ว ซากศพและจดหมายลาตาย ทั้งหมดล้วนแสดงให้เห็นว่านั่นคือหนานชิงชิงอย่างจริงแท้แน่นอนแล้ว คิดมากไปนั้นก็ไม่มีประโยชน์ต่อเรื่องราวเช่นกัน กล่าวถึงที่สุดแล้วในโลกนี้ คนตายไหนเลยจะสามารถฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่
ทันใดนั้นกู้โม่เฟิงโบกไม้โบกมือ ข่มความขุ่นข้องหงุดหงิดภายในใจลง “เอาล่ะ ไม่พูดเรื่องที่ทำให้เสียอารมณ์หมดสนุกเหล่านี้แล้ว คิดขึ้นมาหลินเอ๋อร์ก็คงเพียงแค่รู้สึกไม่สบายใจเท่านั้น เขาคิดท่านแม่แล้ว ผ่านช่วงเวลานี้ไป ร่างกายฟื้นฟูแข็งแรงแล้วย่อมจะดีขึ้นเอง ก็จะไม่เอาแต่พูดถึงหนานชิงชิงซ้ำแล้วซ้ำเล่าเช่นนั้นอีกแล้วเช่นกัน”
เขาเพียงแค่ปวดใจเป็นห่วงลูกที่ยังเล็กๆ ก็กำพร้ามารดาแล้ว อดที่จะพูดระบายบ่นความคับแค้นขุ่นเคืองในใจออกมา กลับทราบอย่างลึกซึ้งว่าจุดประสงค์ที่เข้าวังนั้นมิใช่เพื่อพูดเรื่องนี้
เขามองไปทางกู้โม่หาน พูดอย่างยิ้มแย้มแจ่มใสว่า “ฮ่องเต้ สองวันแล้วที่ข้ามิได้เข้าเฝ้าตอนออกว่าราชการในท้องพระโรงช่วงเช้าและไม่ได้เข้าวังมา ดูเหมือนว่าข้าจะพลาดเรื่องสำคัญภายในพระราชวังแห่งนี้ไปแล้วหลายเรื่องทีเดียว”
บนใบหน้าขาวผ่องและเย็นชาของกู้โม่หาน ปรากฏประกายเย็นเยียบขึ้นวูบหนึ่ง
เขาเหลือบสายตามองกู้โม่เฟิงเฉียงๆ คราหนึ่ง พูดด้วยน้ำเสียงทุ้มหนักว่า “ในเมื่อเจ้าสามารถกล่าววาจาเช่นนี้ออกมาได้ ก็พิสูจน์ให้เห็นชัดแล้วว่าเจ้าหาได้พลาดแม้แต่เรื่องเดียวไม่”
“ข่าวสารภายในวังแห่งนี้ ช่างเผยแพร่ออกไปรวดเร็วจริงๆ”
กู้โม่เฟิงจ้องมองอารมณ์การแสดงออกของกู้โม่หาน พลันเขารู้สึกขนลุกชูชันขึ้นมาอยู่บ้างเล็กน้อย รอยยิ้มก็งำประกายลงบ้างแล้วเช่นกัน
“เรื่องนี้ท่านมิอาจโทษผู้อื่น กล่าวถึงที่สุดแล้วการกลับมาของฮองเฮาเป็นเรื่องใหญ่ แต่ข้าก็คิดมิถึงจริงๆ เช่นกันว่า ที่แท้ไป๋จื่อก็คือฮองเฮานั่นเอง”
มิน่าล่ะวันนั้นตอนที่นางช่วยเหลือหลินเอ๋อร์นั้น จึงมีส่วนที่คล้ายกับหนานหว่านเยียนมากมายถึงเพียงนั้น แต่ตอนนั้นเขายังคิดว่า เป็นสตรีคนหนึ่งที่เชี่ยวชาญทักษะของหมอเช่นเดียวกับหนานหว่านเยียนเท่านั้น ไหนเลยจะคิดว่านางก็คือหนานหว่านเยียนนั่นเอง!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้
อ่าน ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 998 - 1,846 www.sunnewsfocus.com...
อ่านยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 998 - 1846 sunnewsfocus.com นะคะ...
ขัดใจหลายหย่าง 1. นางเอก - ก็รู้ว่าตัวเองสู้เเพ้อ๋องทุกครั้ง เเทนที่จะฝึกวิชาป้องกันตัวบ้าง เเต่ก็ไม่เห็นทำไร 2. ลูก - ก็เห็นอยู่ว่าเเม่ตัวเองทุกข์ใจที่ต้องอยู่กับอ๋อง เเทนที่จะสนับสนุนให้เลิก เเต่ยังจะให้คบกันต่อ คือพวกเอ็งจะขาดพ่อไม่ได้เลยรึไงฟะ 3. อ๋อง - รักเเต่ใช้วิธีผิด นางไม่ยอมก็ขังนางไว้ เจอผู้ชายคนไหนก็ขู่จะทำร้ายเค้า ? เป็นพระเอกที่ห่วยบัดซบ...
ใครที่คิดว่าหนานหว่านเยียนอคติเกินไป ลองย้อนไปดูสิ่งที่กู้โม่หานทำกับนางเอกในช่วงแรกๆ ว่ามันสมควรให้อภัยกันง่ายๆมั้ย...
ไม่แปลกหรอกที่นางเอกจะเกลียดกู้โม่หาน และไม่ยอมให้อภัยกู้โม่หาน ก่อนหน้านั้นหนานหว่านเยียนโดนทำร้ายทั้งกายและจิตใจมามาก โดนจับขังในเรือนเย็น ทั้งตั้งท้องลูก คลอดลูกเอง เลี้ยงเอง ข้าวที่จะกินแทบจะหาไม่ได้ พระเอกมักจะเลือกช่วยหยุนอี่โหรวก่อนนางเอกเสมอ สมควรได้รับที่สิ่งทำไว้ในอดีต นางเอกไม่ได้ทำอะไรผิดแต่โดนพระเอกกระทำมาโดยตลอด...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
กลับมาอัพเดทหน่อยจ้า..แอด,😁😁...
รออัพเดทนะคะ...
ขอเรื่อง หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์...