คำพูดนี้เห็นชัดว่าเป็นคำเตือน เตือนนางว่าห้ามจากเขานานเกินไป
คิ้วดกดำของหนานหว่านเยียนขมวด
ตอนนี้ความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของของกู้โม่หานท่วมท้นจริงๆ ปกติยังดี สามารถรักษามาดของกษัตริย์ของแว่นแคว้นได้ แต่ถ้าหากนางคลาดสายตาเขา เขาก็จะซ่อนหางจิ้งจอกของเขาเอาไว้ไม่ได้...
แต่ดีร้ายอย่างไรตอนนี้นางได้มีเวลาอยู่ตามลำพังกับท่านน้าแล้ว จึงไม่ชักช้าอีก “ข้าจะพยายามรีบที่สุด”
พูดจบ นางก็หันกายเดินขึ้นชั้นสอง
กู้โม่หานจ้องเงาร่างหนานหว่านเยียนค่อยๆ ไกลออกไป นัยน์ตาสวยงามอึมครึมเต็มไปด้วยความลึกล้ำ
เขาพยักหน้าเล็กน้อย นิ้วเรียวยาวกำหมัดแน่น ความเย็นยะเยือกปกคลุมทั่วร่างเขา
จนเมื่อร่างของหนานหว่านเยียนหายไปจากสายตาของเขา กู้โม่หานถึงหันหลังไป หาที่นั่งกับซาลาเปาน้อย
เขาอารมณ์ขุ่นมัว แต่มองซาลาเปาน้อยน่ารักน่าทะนุถนอมในอ้อมแขน สีหน้าอดนุ่มนวลขึ้นมาไม่ได้
ทันใดนั้น กู้โม่หานสังเกตเห็นสายตาของบุตรสาวจ้องไปที่หนึ่งในโรงน้ำชา จึงมองตามสายตาของซาลาเปาน้อย เขาก็เห็นกระดานหมากรุกที่ทำจากหยกอยู่ตรงมุมห้อง
เขาเอ่ยถามเสียงเบาว่า “เจ้าอยากเดินหมากรึ”
เกี๊ยวน้อยเหลือบมองเขา พูดด้วยน้ำเสียง “อื้อ”
เมื่อได้ยิน อารมณ์ของกู้โม่หานก็ดีขึ้นเล็กน้อย พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “คาดไม่ถึงว่าเจ้าจะเดินหมากเป็น บิดามารดาเคยสอนเจ้ารึ”
ซาลาเปาน้อยได้แต่โบกมืออย่างตื่นตระหนก เพื่อไม่ให้ความลับแตก “ไม่ใช่ ไม่มีใครสอนข้า ข้าไม่เคยเดินหมาก เพียงมองก็คิดว่ามันน่าสนุก อยากลองดู...”
กู้โม่หานหลังได้ยินก็ไม่ได้หยอกนางอีก พาซาลาเปาน้อยเดินไปตรงกระดานหมาก “ในเมื่อเป็นเช่นนั้น งั้นข้าสอนเจ้าเดินละกัน”
“แต่ว่า แพ้แล้วห้ามร้องไห้ขี้มูกโป่งนะ”
ซาลาเปาน้อยพยักหน้าอย่างเขินอาย รู้สึกอบอุ่นในใจ สถานการณ์ในตอนนี้ทำให้นางอดนึกถึงฉากที่นางกับเสด็จพ่อแข่งหมากล้อมกับท่านปู่หมิง ที่จวนอี้อ๋องเมื่อก่อนไม่ได้
เฟิงยางตามกู้โม่หานกับซาลาเปาน้อยทุกย่างก้าว ก่อนหนานหว่านเยียนกลับมา นางต้องปกป้องความปลอดภัยของคุณหนูน้อย
แต่นางเห็นสีหน้ามีความสุขของซาลาเปาน้อยตอนอยู่กับกู้โม่หาน ความคิดพลันเปลี่ยนเป็นซับซ้อน
หลังหนานหว่านเยียนเดินขึ้นชั้นสองไปแล้ว ก็ตรงไปยังห้องที่อยู่สุดทางเดิน
นางเร่งฝีเท้า กำลังจะเปิดประตู ประตูห้องพลันถูกคนเปิดออกมาจากด้านในอย่างร้อนอกร้อนใจ
หนานหว่านเยียนชะงัก สบตาดุจดอกท้ออ่อนโยนของโม่หวิ่นหมิง และยิ้มทันที “ท่านน้า”
โม่หวิ่นหมิงจ้องมองหนานหว่านเยียน รู้สึกตื่นเต้นลิงโลด
เมื่อครู่ก็มีคนมารายงานแล้ว ว่าหนานหว่านเยียนกับกู้โม่หานและยังมีซาลาเปาน้อยมาที่นี่
เขาจึงอดอยากเจอนาง เร็วขึ้นอีกหน่อยไม่ได้
เขามีความต้องการจะสวมกอดหนานหว่านเยียนไว้ในอ้อมแขน ข้อนิ้วคมขัดสั่นครั้งแล้วครั้งเล่า แต่สุดท้ายเขาก็ซ่อนความรู้สึกนี้ไว้ในใจ
“เข้ามาคุยกัน”
เขาหันกลับเดินเข้าห้องไป หนานหว่านเยียนตามเขาเข้าไป แล้วปิดประตูลง เขาหยิบเบาะรองนั่งที่เตรียมไว้ก่อนหน้านี้ออกมา ปูลงบนเก้าอี้อย่างใส่ใจ ประคองหนานหว่านเยียนนั่งลง
หนานหว่านเยียนรู้สึกอบอุ่นในใจ “ขอบคุณท่านน้า”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้
อ่าน ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 998 - 1,846 www.sunnewsfocus.com...
อ่านยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 998 - 1846 sunnewsfocus.com นะคะ...
ขัดใจหลายหย่าง 1. นางเอก - ก็รู้ว่าตัวเองสู้เเพ้อ๋องทุกครั้ง เเทนที่จะฝึกวิชาป้องกันตัวบ้าง เเต่ก็ไม่เห็นทำไร 2. ลูก - ก็เห็นอยู่ว่าเเม่ตัวเองทุกข์ใจที่ต้องอยู่กับอ๋อง เเทนที่จะสนับสนุนให้เลิก เเต่ยังจะให้คบกันต่อ คือพวกเอ็งจะขาดพ่อไม่ได้เลยรึไงฟะ 3. อ๋อง - รักเเต่ใช้วิธีผิด นางไม่ยอมก็ขังนางไว้ เจอผู้ชายคนไหนก็ขู่จะทำร้ายเค้า ? เป็นพระเอกที่ห่วยบัดซบ...
ใครที่คิดว่าหนานหว่านเยียนอคติเกินไป ลองย้อนไปดูสิ่งที่กู้โม่หานทำกับนางเอกในช่วงแรกๆ ว่ามันสมควรให้อภัยกันง่ายๆมั้ย...
ไม่แปลกหรอกที่นางเอกจะเกลียดกู้โม่หาน และไม่ยอมให้อภัยกู้โม่หาน ก่อนหน้านั้นหนานหว่านเยียนโดนทำร้ายทั้งกายและจิตใจมามาก โดนจับขังในเรือนเย็น ทั้งตั้งท้องลูก คลอดลูกเอง เลี้ยงเอง ข้าวที่จะกินแทบจะหาไม่ได้ พระเอกมักจะเลือกช่วยหยุนอี่โหรวก่อนนางเอกเสมอ สมควรได้รับที่สิ่งทำไว้ในอดีต นางเอกไม่ได้ทำอะไรผิดแต่โดนพระเอกกระทำมาโดยตลอด...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
กลับมาอัพเดทหน่อยจ้า..แอด,😁😁...
รออัพเดทนะคะ...
ขอเรื่อง หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์...