“บัดนี้แวะพำนักอยู่ในศาลาพักม้า”
“เยียนเอ๋อร์ ไม่ว่ารักว่าเจ้ากับฝ่าบาทจะไม่ลงรอยอะไรกัน ก็ปล่อยผ่านไปสักระยะหนึ่งก่อนเถิด วันพรุ่งนี้คณะทูตของต้าเซี่ยเดินทางเข้าวังหลวงแล้ว เจ้ากับฮ่องเต้ต้องแสดงให้พวกเขาได้เห็นถึง พลังอำนาจและความน่าเกรงขามของราชวงศ์แคว้นซีเหย่เรา!”
คณะทูตแคว้นต้าเซี่ยมาถึงแล้วอย่างนั้นหรือ?!
หนานหว่านเยียนพลันเบิกตากว้างด้วยความตระหนกทันใด
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อใดกัน? ไหนท่านน้าบอกว่าติดต่อกันไม่ได้มิใช่หรือ เหตุใดบัดนี้แม้แต่คนในวังหลวงยังทราบว่าคณะทูตจากต้าเซี่ยมาถึงแล้ว ทว่ากลับกันท่านน้ามิได้รับข่าวความคืบหน้าแม้แต่น้อย?
“เยียนเอ๋อร์?” ไทฮองไทเฮาเห็นหนานหว่านเยียนกำลังใจลอย ก็ส่งเสียงเรียกนางเบา ๆ
หนานหว่านเยียนดึงสติกลับมาทันใด เพิ่งรู้สึกตัวว่าตนเองตอบสนองโจ่งแจ้งเกินไป ก็รีบผุดรอยยิ้มอันอ่อนโยนและอบอุ่นขึ้น “เข้าใจแล้วเพคะ วันพรุ่งนี้ข้าจะจัดการทุกสิ่งให้เพียบพร้อม เสด็จย่าอย่าได้กังวลใจเลย”
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น วันหนึ่งคณะทูตจากต้าเซี่ยก็ต้องมาถึง!
หวังว่าตอนที่กู้โม่หานทราบฐานะที่แท้จริงของนางแล้ว จะไม่ตระหนกตกใจแล้วกัน
และนางเอง ท้ายที่สุดก็ต้องจากที่แห่งนี้ไปเช่นเดียวกัน…
กู้โม่หานและเสิ่นอี่ว์มาถึงห้องทรงพระอักษรแล้ว
กู้โม่หานวันนี้นับว่าอารมณ์ดีนัก เดินตรงไปนั่งข้างโต๊ะทันที นิ้วเรียวยาวเคาะหน้าโต๊ะเบาๆ ยกปลายคางขึ้นแทนคำพูดบอกเสิ่นอี่ว์ “เรื่องใด ว่ามา”
เสิ่นอี่ว์เอ่ยทันใด “ทูลฝ่าบาท กระหม่อมได้รับข่าวมา ความว่าคณะทูตแคว้นต้าเซี่ยบัดนี้เดินทางมาถึงศาลาพักม้าแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
“เดิมพวกเขาต้องการเข้าวัง แต่เพราะวันนี้ท่านมิได้ประทับอยู่ที่วังหลวง กระหม่อมจึงส่งคนไปแจ้งให้พวกเขารับทราบแล้ว พรุ่งนี้เช้า จะไปรับพวกเขาเข้าวังหลวงอีกครั้งพ่ะย่ะค่ะ”
เสิ่นอี่ว์ถวายรายงานด้วยสีหน้าราบเรียบ ทว่าในใจกลับประหม่าอยู่เล็กน้อย
ว่ากันว่าคนที่ถูกส่งไปพบคณะทูตวันนี้ ไม่เห็นท่านผู้นั้นนำหน้า ท่าทางลึกลับยิ่งนัก ทำให้พวกเขารู้สึกสงสัยเล็กน้อย
คณะทูตแคว้นต้าเซี่ยมาถึงแล้วอย่างนั้นหรือ?
กู้โม่หานเลิกคิ้วเล็กน้อย นัยน์ตาสวยงามที่ดำขลับดุจหมึกฮุยโม่ ฉายประกายประหลาดใจขึ้นมาแวบหนึ่ง
เขาหวนคิดถึงทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นในจวนแม่ทัพวันนี้ ก่อนนัยน์ตาจะหรี่ลงเล็กน้อย จังหวะที่ปลายนิ้วเคาะหน้าโต๊ะพลันกระชั้นขึ้นโดยไม่รู้ตัว
หลังจากนั้น กู้โม่หานเอ่ยขึ้นประโยคหนึ่งด้วยเสียงเรียบ “ข้าทราบแล้ว เจ้าจงไปสั่งให้คนเตรียมความพร้อมให้ดี นี่เป็นเป็นครั้งแรกที่แคว้นต้าเซี่ยส่งคณะทูตมาเยือนแคว้นซีเหย่ จะสะเพร่าไม่ได้เด็ดขาด”
เสิ่นอี่ว์ผงกศีรษะด้วยความนอบน้อม “กระหม่อมเข้าใจแล้ว พ่ะย่ะค่ะ!”
เขาเพิ่งคิดว่าจะออกไป กลับเห็นกู้โม่หานกำลังจมดิ่งในห้วงความคิด คล้ายว่ายังมีบางอย่างที่พูดไม่หมด เขาจึงเอ่ยปากถามไปประโยคหนึ่ง “ฝ่าบาท ยังมีเรื่องใดประสงค์รับสั่งหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”
กู้โม่หานคิดถึงบรรดาสาวใช้และบ่าวรับใช้กลุ่มนั้นที่หอย่างหมิงวันนี้ ก็เอ่ยถามขึ้นคล้ายมีความคิดบางอย่าง
“คราแรกที่เจ้าไปสืบเรื่องโม่หวิ่นหมิง ได้ทราบหรือไม่ว่าเบื้องหลังฐานะของเขามีสิ่งใดผิดปกติ?”
พวกคนที่หอน้ำชากลุ่มนั้นดูมิใช่คนธรรมดา แต่ละคนมีวิทยายุทธชั้นสูง หากเป็นสามัญชนทั่วไปไม่มีทางเรียกใช้คนกลุ่มนี้ได้โดยเด็ดขาด หากจะบอกว่าเบื้องหลังโม่หวิ่นหมิงผู้นั้นไร้อิทธิพลอำนาจ หัวเด็ดตีนขาดอย่างไรเขาก็ไม่มีวันเชื่อ
เสิ่นอี่ว์กลับมองกู้โม่หานอย่างประหลาดใจ
“ฝ่าบาท ตอนแรกกระหม่อมทำหน้าที่ตามพระบัญชาของท่านทุกประการ สืบเรื่องท่านน้าและพระมารดาผู้ให้กำเนิดฮองเฮาเหนียงเหนียงแล้วพ่ะย่ะค่ะ ก็พบเพียงว่าพระมารดาของฮองเฮาเหนียงเหนียงเป็นเศรษฐีคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่มาถึงแคว้นซีเหย่ใหม่ ๆ ก็สร้างแรงสั่นสะเทือนให้คนมาสนใจไม่น้อย ส่วนท่านปู่หมิงคนนั้น ก็พบว่าอยู่ด้วยกันกับพระมารดาของฮองเฮาเหนียงเหนียงที่เมืองหลวงนี้พ่ะย่ะค่ะ ตอนนั้นเขายังอายุน้อยมาก มิได้มีอะไรน่าสนใจเป็นพิเศษ เป็นน้องชายบุญธรรมที่เรียบร้อยเชื่อฟังคนหนึ่งเท่านั้นพ่ะย่ะค่ะ”
เรื่องเหล่านี้ ฝ่าบาทก็ทราบตั้งแต่แรกแล้วมิใช่หรือ วันนี้เหตุใดอยู่ดีๆ ถึงได้ถามขึ้นมาอีก?
หรือฝ่าบาทจะเห็นบางสิ่งไม่ชอบมาพากลแล้ว?
“ไม่มีสิ่งใดผิดปกติ…” กู้โม่หานหลุบตาลง พึมพำประโยคนี้ออกมาด้วยเสียงเบาหวิว ทว่าสายตากลับดุดันน่าเกรงขามไร้ความอ่อนโยน
“เจ้าจงสั่งคนไปจับตาดู ‘หอย่างหมิง’ ในเมืองหลวงไว้ ไม่ว่ามีสิ่งใดผิดไปจากปกติ จงเร่งกลับมารายงานข้าทันใด”
“และทุกคนที่เข้าออกภายในนั้น จงเพิ่มกำลังตรวจสอบและเฝ้าจับตาดูอย่างเข้มงวด”
ไม่ทราบว่าเหตุใด นับแต่ออกจากหอย่างหมิงมาวันนี้ ในใจเขามีความรู้สึกประหวั่นพรั่นพรึงบางอย่างอยู่ตลอด
บางทีสั่งให้คนเฝ้าจับตาดูไว้สักหน่อย อาจจะพอทำให้จิตใจสงบลงได้บ้าง
เสิ่นอี่ว์เห็นสีหน้าของเขาเคร่งขรึมน่าเกรงขาม ก็สนองพระบัญชาด้วยความเคร่งขรึมเช่นกัน “กระหม่อมรับทราบขอรับ จะส่งคนไปเฝ้าจับตาดูเดี๋ยวนี้ ขอฝ่าบาทโปรดวางใจ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้
อ่าน ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 998 - 1,846 www.sunnewsfocus.com...
อ่านยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 998 - 1846 sunnewsfocus.com นะคะ...
ขัดใจหลายหย่าง 1. นางเอก - ก็รู้ว่าตัวเองสู้เเพ้อ๋องทุกครั้ง เเทนที่จะฝึกวิชาป้องกันตัวบ้าง เเต่ก็ไม่เห็นทำไร 2. ลูก - ก็เห็นอยู่ว่าเเม่ตัวเองทุกข์ใจที่ต้องอยู่กับอ๋อง เเทนที่จะสนับสนุนให้เลิก เเต่ยังจะให้คบกันต่อ คือพวกเอ็งจะขาดพ่อไม่ได้เลยรึไงฟะ 3. อ๋อง - รักเเต่ใช้วิธีผิด นางไม่ยอมก็ขังนางไว้ เจอผู้ชายคนไหนก็ขู่จะทำร้ายเค้า ? เป็นพระเอกที่ห่วยบัดซบ...
ใครที่คิดว่าหนานหว่านเยียนอคติเกินไป ลองย้อนไปดูสิ่งที่กู้โม่หานทำกับนางเอกในช่วงแรกๆ ว่ามันสมควรให้อภัยกันง่ายๆมั้ย...
ไม่แปลกหรอกที่นางเอกจะเกลียดกู้โม่หาน และไม่ยอมให้อภัยกู้โม่หาน ก่อนหน้านั้นหนานหว่านเยียนโดนทำร้ายทั้งกายและจิตใจมามาก โดนจับขังในเรือนเย็น ทั้งตั้งท้องลูก คลอดลูกเอง เลี้ยงเอง ข้าวที่จะกินแทบจะหาไม่ได้ พระเอกมักจะเลือกช่วยหยุนอี่โหรวก่อนนางเอกเสมอ สมควรได้รับที่สิ่งทำไว้ในอดีต นางเอกไม่ได้ทำอะไรผิดแต่โดนพระเอกกระทำมาโดยตลอด...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
กลับมาอัพเดทหน่อยจ้า..แอด,😁😁...
รออัพเดทนะคะ...
ขอเรื่อง หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์...