ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 820

หยุนอี่ว์โหรวจ้องมองพ่อบ้านกาวโดยไม่ละสายตา ทุกคำไม่ได้พูดเป็นการข่มขู่ แต่ทุกคำ ล้วนแอบตำหนิพ่อบ้านกาวที่ไม่ควรสลับตัวพวกนางในตอนนั้น

นางคุ้นเคยกับการทำเช่นนี้ ใช้ความภักดีของคนทำให้พวกเขารู้สึกผิด เพื่อใช้ให้ทำงานให้นางด้วยความเต็มใจ

พ่อบ้านกาวให้ความสำคัญต่อนางขนาดนั้น จึงไม่มีข้อยกเว้นเช่นกัน

ได้ยินดังนั้น พ่อบ้านกาวจึงรีบคุกเข่าลงด้วยความหวาดหวั่น โขกศีรษะเสียงดังอย่างรุนแรงสองครั้ง “ข้าน้อย ไม่กล้าขัดจวิ้นจู่เด็ดขาดพ่ะย่ะค่ะ!”

“เมื่อเป็นคำสั่งของจวิ้นจู่ เช่นนั้นถึงข้าน้อยจะตายก็ไม่เสียที เพียงแค่ทำให้จวิ้นจู่บรรลุเป้าหมายเท่านั้นพ่ะย่ะค่ะ! ประเดี๋ยวข้าน้อยกลับไป ก็จะจัดเตรียมคนในเรื่องนี้ อย่างไรเสียก็ขอให้จวิ้นจู่พักผ่อนรักษาสุขภาพอยู่ที่นี่ รอข่าวดีจากข้าน้อยพ่ะย่ะค่ะ!”

เขาก้มศีรษะลง สีหน้ากลัดกลุ้มเล็กน้อย

อันที่จริงเขาไม่เคยคิดที่จะลงมือกับหนานหว่านเยียน แม้เขาจะรู้สึกว่าตัวตนของหนานหว่านเยียนนั้นยุ่งยาก แต่ก็ไม่เคยคิดจะลงมือฆ่าหนานหว่านเยียนมาก่อน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหนานหว่านเยียนคือยอดดวงใจของกู้โม่หาน อีกอย่าง หนานหว่านเยียนก็นับได้ว่าเป็นหมอเทวดาที่รักษาคนทั่วหล้า เป็นคนที่เขารู้สึกเลื่อมใสอยู่เล็กน้อยซึ่งที่หาได้ยาก

แต่จวิ้นจู่คือนายน้อยที่เขาสาบานว่าจะปกป้องไปตลอดชีวิต ยิ่งกว่านั้นเรื่องนี้ เดิมทีก็เกิดขึ้นเพราะเขา ดังนั้นเขาจึงเต็มใจที่จะฟังหยุนอี่ว์โหรว

นางบอกว่าต้องการกำจัดหนานหว่านเยียน เช่นนั้นก็จะกำจัดหนานหว่านเยียน ช่วยนายน้อยขจัดอุปสรรคทุกอย่าง เป็นหน้าที่ของเขา!

สิ้นสุดเสียง ในที่สุดหยุนอี่ว์โหรวก็ยิ้มด้วยความสบายใจ แต่น้ำตากลับยังคลอเบ้าอยู่

นางแสร้งทำเป็นมองดูพ่อบ้านกาวด้วยความสงสาร ทั้งยังทอดถอนใจด้วยความจนปัญญาอีก “พ่อบ้านกาว เรื่องนี้ทำให้เจ้าลำบากใจแล้วจริงๆ”

“แต่เจ้าก็รู้ หากว่าพวกข้าไม่ทำเช่นนี้ งั้นคนที่จะถูกคนมองว่าเป็นคนอ่อนแอ ก็คือพวกข้าแล้ว”

“ข้าน้อยเข้าใจพ่ะย่ะค่ะ” พ่อบ้านกาวลุกขึ้นช้าๆ มองไปยังใบหน้าน้อยๆอันซีดขาวของหยุนอี่ว์โหรว น้ำเสียงตำหนิตัวเองเป็นอย่างมาก

“เพราะข้าน้อยไม่ได้คิดให้รอบคอบ ตอนนั้นกังวลเพียงจะให้ท่านเติบโตขึ้นมาอย่างปลอดภัย แต่กลับคิดไม่ถึงว่าจะถูกคนเจาะหาช่องโหว่ ทำให้เกิดสถานการณ์เช่นวันนี้ ยังมีเรื่องราวก่อนหน้านั้นอีก ก็เป็นข้าน้อยที่ไม่ได้ปกป้องท่านให้ดี ทุกอย่างล้วนเป็นความผิดของข้าน้อย.....”

หากเหตุการณ์นั้นไม่ได้เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ เขาก็สามารถบอกฐานะที่แท้จริงของหยุนอี่ว์โหรวกับคนอื่นได้โดยตรง และไม่ต้องฝืนโกหกด้วยคำพูดโน้มน้าวที่ไร้น้ำหนักเพื่อให้จบลงเช่นนี้

แต่ตอนนี้ พวกเขาไม่มีโอกาสเช่นนั้นอีกแล้ว

นายน้อยใช้เนี่ยพานไปแล้ว หากว่าบอกฐานะที่แท้จริงออกมา เขากลัวว่าไม่ทันได้รอให้พานายน้อยกลับแคว้นต้าเซี่ย นายน้อยก็จะถูกคนอื่นคิดว่าเป็นปีศาจและเผาให้ตายทั้งเป็นแล้ว.....

หยุนอี่ว์โหรวเข้าใจความหมายโดยนัยในคำพูดของพ่อบ้านกาวเป็นธรรมดา แต่นางก็ไม่ได้สนใจ กลับปลอบโยนด้วยเสียงที่นุ่มนวลสองคำว่า

“ไม่เป็นไร เรื่องนั้น ข้าไม่เคยเสียใจมาก่อน และขอบใจเจ้าที่ให้โอกาสข้าเป็นครั้งที่สอง”

“ดังนั้นตอนนี้ ข้าต้องการใช้ชีวิตที่สองนี้ เพื่อมีชีวิตให้ยอดเยี่ยมยิ่งขึ้น จึงจะไม่ทำให้เจ้าเสียใจที่ได้ดูแลและช่วยเหลือข้ามาเป็นเวลาหลายปี และจะไม่ทำให้ท่านแม่ที่อยู่บนสวรรค์ต้องรู้สึกผิดหวังด้วย”

ได้ยินดังนั้น พ่อบ้านกาวก็ซาบซึ้งจนรู้สึกปวดปลายจมูกทันที คารวะหยุนอี่ว์โหรวด้วยความเคารพอีกครั้ง “ข้าน้อยขอตัวก่อน ท่านพักผ่อนให้ดี”

“อื้ม ทุกอย่างก็มอบให้พ่อบ้านกาวแล้ว” หยุนอี่ว์โหรวยิ้มบางๆเป็นการทักทาย จนประตูห้องปิดสนิท และขณะที่ในห้องเงียบกริบไร้เสียงอีกครั้ง รอยยิ้มหวานงดงามบนใบหน้าของนางก็หยุดลงทันที

แทนที่ด้วย ความเฉยเมยเย็นชาของความกระหายเลือดอย่างไร้ที่เปรียบ

นางเช็ดน้ำตาบนใบหน้าด้วยความขยะแขยง ตาทั้งสองข้างจ้องมองนอกหน้าต่างอย่างหนักแน่น ทันใดนั้นก็หัวเราะเย้ยหยันเสียงหนึ่ง “ช่างเป็น——สวรรค์ช่วยข้าจริงๆ”

หยุนอี่ว์โหรวนึกถึงก่อนหน้าที่พ่อบ้านกาวจะมา ผู้ชายที่มาเยี่ยมเยือนอย่างกะทันหันผู้นั้น รอยยิ้มอันเย็นยะเยือกในดวงตาก็ดุร้ายยิ่งขึ้น

ตอนนั้นได้ยินปี้หยุนบอกว่ามีคนมาเยี่ยม นางยังคิดว่าเป็นพ่อบ้านกาวซะอีก คิดไม่ถึงว่าทันทีที่เปิดประตูออกดู กลับเป็นท่านพ่อของนาง——หนานฉีซาน!

อันที่จริงคิดๆแล้วก็ถูก หยุนอี่ว์โหรวก็เป็นลูกสาวแท้ๆของเขาเช่นกัน

เขามาเยี่ยมนาง ก็เป็นเรื่องที่อยู่ในการคาดเดาได้

แต่ท่านพ่อที่เป็นจิ้งจอกเฒ่าของนาง เพิ่งจะมาถึงก็บอกจุดประสงค์อย่างชัดเจน เริ่มยอมรับลูกสาว

และต่อจากนั้น หนานฉีซานก็บอกกับนางอีกว่า ตั้งแต่ที่หนานหว่านเยียนได้เป็นฮองเฮามา เขาก็ไม่ได้รับผลประโยชน์ใดๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้