ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 847

เขายังไม่เคยร้องเพลงกล่อมให้นางหลับเลย แล้วคนอื่นมีสิทธิ์อะไร?

การจ้องมองอย่างดุดันของชายผู้นี้เหมือนมีดที่พุ่งไปทางเย่เชียนเฟิงและเฉิงซูหย่วน เจตนาฆ่าได้แล่นเข้ามา

หนานหว่านเยียนไม่ทันได้สังเกต แต่มองไปททางลู่อู๋เจียง “ข้าก็ไม่รู้ว่าคุณชายเหล่านี้เป็นยังไง รายชื่อที่เหลือต้องรบกวนเสด็จพี่แล้ว”

ลู่อู๋เจียงยิ้มอย่างไม่คิดอะไรหยุมหยิม

“เอาล่ะ เจ้าพาเด็กๆ มานั่งข้างๆ ส่วนสามีของเจ้า พี่จะช่วยเจ้าตรวจสอบเอง!

“ขอบคุณเสด็จพี่” หนานหว่านเยียนอุ้มน่าวน่าวไว้ แล้วจูงเกี๊ยวน้อยมานั่งลงข้างๆ

เย่เชียนเฟิงและเฉิงซูหย่วนเป็นสนมชายขององค์หญิงอยู่แล้ว ก็ย่อมที่จะติดตามอยู่เคียงข้างนาง โดยมีเฟิงยางคอยปรนนิบัติอยู่ข้างๆ ด้วย

โม่เหยียนไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่มองไปที่หนานหว่านเยียนที่นั่งอยู่ในตำแหน่งสูง ริมฝีปากบางเม้มแน่น สีหน้าเคร่งขรึมและเย็นชา

พวกเขาเคยเดินเคียงข้างกัน ตอนนี้นางอยู่บนก้อนเมฆ เขาอยู่ในโคลนตม แต่ผลลัพธ์จะไม่เปลี่ยนแปลง นางถอยหลังไปเก้าสิบเก้าก้าว เขาจะเดินไปหานางหนึ่งร้อยก้าว

เขาจะไม่มีวันปล่อยมือ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องยกนางให้กับคนอื่น!

ลู่อู๋เจียงมองไปที่ผู้สมัครสนมชายที่อยู่ในนี้ ปรบมืออย่างหนักแน่น พลางอย่างจริงจัง “เอาล่ะ การที่ทุกท่านสามารถเข้ามาในวังได้ในวันนี้ แสดงว่าได้รับการยอมรับจากน่าวน่าวแล้ว”

แต่การรับรู้เหล่านี้เพียงอย่างเดียวมันยังไม่เพียงพอ เช่นเดียวกับเชียนเฟิง ที่ศึกษาจากสำนักบัณฑิตหลั่งซาน ไม่เพียงรู้เรื่องดาราศาสตร์และภูมิศาสตร์เท่านั้น แต่ยังมีทักษะด้านกลไกอีกด้วย เมื่อพูดถึงศิลปะการต่อสู้ เขาก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าพวกท่าน!

“สำหรับคุณชายเฉิง มาจากตระกูลนักวิชาการ เต็มไปด้วยกลิ่นอายของบทกวีและวิชาการ ถ้าจะพูดถึงพรรสวรรค์ พวกท่านทั้งหลายต้องเคยได้ยินชื่อเสียงของเขาแน่”

“หากต้องการเป็นสามีของรัชทายาทแคว้นต้าเซี่ย ถ้าไม่คิดจะมาฉกฉวยผลประโยชน์ก็ลงสมัครคัดเลือกได้ ถ้าใครไม่พอใจ ก็มาท้าทายข้าได้!”

เสียงของเขาหนักแน่นทรงพลัง สายตาเปี่ยมไปด้วยความน่าเกรงขาม ไม่มีใครกล้าพูดอะไร

ลู่อู๋เจียงเห็นดังนั้นก็กล่าวว่า “ในเมื่อไม่มีใครคัดค้าน เช่นนั้นข้าจะตั้งกฎเกณฑ์ที่นี่

“ต้องการเชี่ยวชาญทั้งด้านความรู้และศิลปะการต่อสู้ พวกท่านสามารถแข่งขันทั้งด้านความรู้และศิลปะการต่อสู้ได้พร้อมกัน ในบรรดาผู้ชนะสิบคน แปดคนจะถูกคัดเลือกเป็นการส่วนตัวจากน้องหญิงของข้า ว่าไง?”

พูดจบก็ไม่มีใครมีความเห็น จากตำแหน่งสูง น่าวน่าวตะโกนเรียกอย่างตื่นเต้น “คุณชายโม่เหยียนสู้ๆ!”

เกี๊ยวน้อยบีบใบหน้าจ้ำม่ำของเขาเบาๆ พลางขมวดคิ้วพูดว่า “อย่าเอาแต่เข้าข้างคนอื่นอยู่เสมอ”

แม้ว่าโม่เหยียนผู้นี้จะทำให้นางรู้สึกคุ้นเคย แต่นางก็ไม่ต้องการให้เขาชนะ เป็นอาเชียนเฟิงดีกว่า คอยอยู่เคียงข้างนางมาโดยตลอด แล้วยังดีกับพวกเขาพี่น้องทั้งสี่โดยไม่รู้จะพูดอย่างไรดี

ใครจะคาดคิดน่าวน่าวได้เชิดคางขึ้นอย่างเต็มภาคภูมิ “ยังไงซะ ต่อไปก็ต้องเป็นพ่อของข้า จะเรียกว่าเข้าข้างคนอื่นได้ยังไง?”

เขาชอบคุณชายโม่เหยียน มันคือความรู้สึกคุ้นเคยเหมือนรู้จักกันมานาน ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงได้

คำพูดของน่าวน่าวทำให้หลายคนหัวเราะท้องแข็ง ขณะที่หนานหว่านเยียนชำเลืองมองเขาอย่างจนปัญญา แล้วมองไปยังกลุ่มผู้สมัครต่อไป

ไม่รู้ทำไม เมื่อเห็นโม่เหยียน นางมักจะมีความรู้สึกแปลกๆ แต่นางแน่ใจว่านางไม่เคยเห็นเขามาก่อนเลย

เมื่อได้ยินเสียงเชียร์ของน่าวน่าว ริมฝีปากบางของโม่เหยียนก็วาดโค้งขึ้นเล็กน้อย อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองชายทั้งสองที่ยืนขัดหูขัดตาอยู่ข้างๆ หนานหว่านเยียนด้วยแววตาเย็นชา

ด้วยคำสั่งของลู่อู๋เจียง การแข่งขันจึงเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ ทุกคนต่างตั้งแถวเป็นขบวน เปลี่ยนภาพที่มีความสุขและกลมเกลียวเมื่อครู่ กลายเป็นฟาดฟันกันในทันใด

มีคุณชายคนหนึ่งในชุดสีเหลืองที่ไม่พอใจโม่เหยียนที่ได้รับความสำคัญจากเสี่ยวซื่อจือ

เย่เชียนเฟิงและเฉิงซูหย่วนก็ว่าไปอย่าง เขายังรู้ว่าตัวเองไม่อาจเทียบทั้งสองคนนี้ได้ แต่โม่เหยียนผู้นี้ดูเหมือนจะมีทักษะศิลปะการต่อสู้อยู่บ้าง แต่ก็อาจจะเป็นแค่ทหารเท่านั้น ทำไมถึงเอาชนะใจซื่อจือได้?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้