ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 874

"ข้าก็คงมิต้องรังเกียจเดียดฉันท์เขาเช่นนี้”

จักรพรรดินีระบายความไม่พอใจที่เก็บสั่งสมไว้นานออกมา สีหน้าของโม่เหยียนเองก็ตึงขึ้นมาในตอนนั้นเอง ทั่วทั้งใบหน้ารูปงานนั้นล้วนยึดตึง

จักรพรรดินีไม่เห็นความผิดปกติของเขา "สำหรับข้าแล้ว เป็นสามี โดยเฉพาะสามีหลวงมิควรรังแก กดขี่ภรรยาตัวเอง ยิ่งมิควรทำเรื่องโปรดปรานอนุฆ่าภรรยาออกมาได้"

"หว่านเยียนต่างหากที่เป็นภรรยาซึ่งถูกหลักธรรมนองคลองธรรมของเขา ทั้งยังเป็นภรรยาที่รักเพียงเขาตั้งนานหลายปี แต่เขากลับดูถูกภรรยาที่ร่วมกันฝ่าฟันปัญหาอุปสรรคด้วยกันมาเช่นนี้ ลบหลู่หลายครั้ง เจ้าว่ามาซิ ผู้ที่ตาบอดใจด้านเช่นนี้เป็นเดรัจฉานตัวหนึ่งหรือไม่?”

คำนินทาของกู้โม่หาน นางพูดสามวันสามคืนก็ไม่จบ ทั้งวันล้วนบ่นให้เฉียนซีฟังอยู่ตลอด โกรธที่ตอนนั้นตัวเองไม่สามารถหาหนานหว่านเยียนให้เจอเร็วกว่านั้น แล้วก็พานางกลับมาได้

หากยามนี้กู้โม่หานยืนอยู่ตรงหน้านางล่ะก็ นางจักต้องกรีดเลือดฉีกเนื้อบุรุษที่แยกผิดถูกมิได้ผู้นั้นเป็นแน่!

ริมฝีปากบางของโม่เหยียนเม้มเป็นเส้นตรง ทั้งคิ้วและดวงตาล้วนตกลง ช่วงอกก็ราวกับถูกอัดแน่นเต็มไปด้วยปุยฝ้าย

"เดิมทีสามีภรรยาก็เป็นคนๆเดียวกันอยู่แล้ว การปฏิบัติตัวกับภรรยาหลวงก็ยิ่งควรรักและใส่ใจมากกว่าผู้ใด คำพูดนี้ไม่มีส่วนใดที่ไม่จริงหนา ถึงขั้นที่มีเหตุผลเชียวล่ะ เรื่องที่ฮ่องเต้ของแคว้นซีเหย่ทำไว้ก่อนหน้า ไม่เหมือนทั้งคนทั้งเดรัจฉานจักทำได้จริงๆ เพราะฉะนั้นทั้งภรรยาและบุตรของเขาจึงล้วนจากไปตั้งแต่อายุน้อยๆ แล้วก็เป็นกรรมตามสนองด้วย"

จักรพรรดินีพอใจเป็นอย่างมาก แต่กลับได้ยินเขาเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า "แต่โม่เหยียนได้ยินมาว่า หลังจากนั้นฮ่องเต้แห่งซีเหย่ก็เปลี่ยนไปไม่น้อย อาการตาบอดใจด้านของเขาก็รักษาจนหายแล้ว ทั้งสำนึกผิดทั้งจริงใจ สาบานว่าชั่วชีวิตนี้จักมีองค์หญิงหมิงหวงเพียงผู้เดียว กายและใจทั้งหมดจักทะนุถนอมองค์หญิงและบุตร"

"เขาในยามนี้ขอแต่เพียงโอกาสที่จะมาชดใช้ความผิด ภรรยาและบุตรล้วนจากไปไม่ว่าเป็นใครก็ล้วนยอมรับได้อย่างยากลำบากทั้งนั้น โม่เหยียนได้ยินว่าสิ่งที่ฮ่องเต้แห่งซีเหย่นั้นต้องการมากที่สุดคือมีเพียงครอบครัว ครอบครัวแตกระแหงไปแล้ว ทำร้ายเขาสาหัสนัก คิดแล้วข่าวลือนี้ก็คงเป็นเรื่องจริงแท้แน่นอน"

"อะไรนะ?"จักรพรรดินีหัวเราะเสียงเย็นมาทีหนึ่ง มองโม่เหยียนราวกับได้ยินเรื่องที่น่าขันที่สุดในแผ่นดิน "เจ้ารู้หรือไม่ ฮ่องเต้ที่เจ้าว่ามานั้นเป็นคนเช่นไร?"

"ข้าเองก็เป็นฮ่องเต้ เพียงแต่ราชวงศ์ของแคว้นต้าเซี่ยล้วนสมานฉันท์กันมาโดยตลอด ก่อนจะขึ้นครองราชย์ก็มีเหตุการณ์ฆ่าฟันกันน้อยมาก ข้ายังนับว่ามีจิตเมตตาอยู่หน่อย แต่ท่านอ๋องและองค์ชายของแคว้นซีเหย่นั้นไม่ได้เป็นเช่นนี้ ในตอนนที่ราชสำนักวุ่นวายนั้น เขากลับทิ้งห่างกับผู้อื่นจนไม่เห็นฝุ่นแล้วก็ครองราชย์เป็นฮ่องเต้ ลูกไม้และเล่ห์เหลี่ยมของเขานั้นคงต้องทำให้ผู้อื่นตกใจเป็นแน่"

"คนเช่นนี้ จักมีความจริงใจได้เช่นไร จะสำนึกผิดแล้วแก้ตัวใหม่ได้เช่นไร?! ในท้องของเขาล้วนเต็มไปด้วยแผนการกลอุบาย! ภรรยาและบุตรจากไป ข้าก็เห็นว่าเขาทำใจไม่ได้ เกรงว่าคงไม่ใช่เพราะภรรยาของตัวเอง แต่เป็นเพราะบุตรของตัวเองกระมัง!"

"ข้าไม่เชื่อว่าเขาจะทำตัวดีกับหว่านเยียน ไม่เช่นนั้นหว่านเยียนไม่มีทางอยากจากมา นางนั้นเป็นเพราะถูกทำร้ายจนทั่วทั้งร่างล้วนเป็นแผล เจ็บปวดรวดร้าวเจียนตาย หากบุรุษผู้นั้นยืนอยู่ตรงหน้านาง ข้าเชื่อว่า นางมิมีทางปล่อยเขาไปเป็นแน่!"

โม่เหยียนพลันราวกับโดนผู้อื่นพูดแทงใจ สีหน้าบนใบหน้าอันงดงามนั้นค่อยๆซีดเผือด เขาก้มหน้าลง ไม่เอ่ยคำใดอีก

เสียงของจักรพรรดินีกลับแปรเปลี่ยนเป็นแข็งทื่อและเต็มไปจิตสังหาร

"ข้านั้นไม่ยอมเริ่มทำให้เกิดสงครามก็จริง กลัวว่าราษฎรจักตกอยู่นรกทั้งเป็น หากมิเช่นนั้นแล้วล่ะก็ ข้าก็คิดอยากจะก้าวไปยังแคว้นซีเหย่ตรงๆเลยเสียจริงเชียว เพื่อแก้แค้นให้หมิงหวงของข้า"

"หวังว่าฮ่องเต้นั่นจักเป็นผู้เป็นคน คอยปกป้องรักษาแคว้นซีเหย่ไปเสียเถิดะ อย่ามาวุ่นวายกับชีวิตของหว่านเยียนอีกเลย"

เฉียนซีเองก็สีหน้าเคร่งขรึม โกรธจนยากจะวางลง

โม่เหยียนก็ยังคงก้มหน้า แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า "ขอรับ"

จักรพรรดินีเห็นท่าทีของเขาเป็นเช่นนี้ยังเข้าใจว่าถูกทำให้ตกใจแล้ว นางอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ เอ่ยถึงแคว้นซีเหย่ก็อดไม่ได้ที่จะโมโห ไม่ว่าเช่นไรก็เพื่อหลานสาวของตัวเอง หากนางไม่ปวดใจใครเล่าจะมาปวดใจ หากเสด็จพี่รู้ว่าหนานหว่านเยียนต้องลำบากเช่นนี้ล่ะก็......

นางหลับตาลงแน่น "วันนี้ข้าคุยกับเจ้ามากไปเสียหน่อย เจ้าออกไปก่อนเถิด"

"ต่อจากนี้ก็คอยอยู่ข้างกายของหว่านเยียนดีๆ ปกป้องนางให้ดี"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้