โม่เหยียนรู้สึกสะท้านใจขึ้นวูบ หนูน้อยคนนี้จำตนขึ้นมาได้แล้วจริงๆ เขาอดที่จะรู้สึกตื่นเต้นร้อนรนขึ้นมาอยู่บ้างไม่ได้ “จวิ้นจู่……”
“อย่าเรียกข้าว่าจวิ้นจู่!” พลันเกี๊ยวน้อยก็ตะโกนขึ้นอย่างน้อยเนื้อต่ำใจอารมณ์ไม่ดีอยู่บ้าง กำปั้นทั้งสองสั่นเทาเล็กน้อย นางพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้จนเบ้าตาก็ยังแดงก่ำแล้ว ก็เพราะมิต้องการหลั่งน้ำตาร่ำไห้ออกมาต่อหน้าโม่เหยียน
“แม้ว่าข้าจะไม่ละเอียดรอบคอบเท่าน้องสาว แต่ก่อนหน้านี้ได้รั้งอยู่กับท่านในแคว้นซีเหย่เป็นระยะเวลานานกว่าสองเดือนแล้ว เรื่องราวต่างๆ ของท่านมากมายยิ่งนัก ข้าล้วนยังคงจำได้ชัดเจนอย่างยิ่ง!”
“ท่านชื่นชอบลูบศีรษะของพวกข้า สามารถจดจำว่าพวกข้าชื่นชอบกินอะไรและมิชอบกินอะไร ท่านเล่นหมากรุกเก่งอย่างยิ่ง วิทยายุทธ์ก็ร้ายกาจอย่างยิ่งเช่นกัน ข้ามิสามารถต่อสู้ชนะท่านได้ กว่าสองปีก่อนก็เป็นเช่นนี้แล้ว ตอนนี้ก็ยังคงเป็นแบบนี้เช่นเดียวกัน”
“แต่เวลานี้ข้าต้องการทุบตีท่านอย่างดุดันสักคราหนึ่งจริงๆ ให้ท่าน...ให้ท่านขออโหสิกรรมสำนึกผิดต่อท่านแม่ ขออโหสิกรรมสำนึกผิดต่อท่านปู่หมิง!”
พูดจบนางเม้มปากจนแน่น น้ำตาคลอหน่วยอยู่ภายในเบ้าตา สีหน้าเต็มเปี่ยมความเข้มแข็งองอาจมิยอมแสดงความอ่อนแอ
พลันโม่เหยียนรู้สึกเหมือนมีอะไรติดในลำคอ มองดูเกี๊ยวน้อยพลางอดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากพูดเสียงอ่อนโยน “เกี๊ยวน้อย ข้า……”
“ท่านอย่าได้คิดปฏิเสธ!” ทันใดนั้นเกี๊ยวน้อยก็ชี้ไปที่มือขวาของเขา “ข้าทราบว่า เจ้าเหมือนเช่นเดียวกับซาลาเปาน้อยที่ต่างล้วนเฉลียวฉลาดอย่างยิ่ง เมื่อประสบปัญหาบางอย่างก็สามารถใช้ไหวพริบพลิกผันผ่านไปอย่างรวดเร็ว และพูดจาโน้มน้าวทำให้ข้าคล้อยตามได้”
“แต่ว่ารอยแผลเป็นบนมือของท่านนั้น ข้าสามารถจำได้อย่างแม่นยำมิลืมเลือนตลอดกาล ตอนนั้นท่านคิดว่าท่านแม่ติดอยู่ภายในห้องโถงใหญ่ที่เกิดเพลิงไหม้ขึ้น เพื่อช่วยนางแล้วท่านจึงได้รับบาดเจ็บนั่นเอง”
นางเสียงสั่นเครือสะอื้นไห้อยู่บ้าง พยายามหันหน้าไปทางอื่น มิต้องการให้โม่เหยียนเห็นด้านที่เปราะบางอ่อนแอของนาง
ทั้งๆ ไม่ได้พบกันเนิ่นนานเช่นนี้แล้ว และนางต้องการจะลืมเลือนให้หมดสิ้นอย่างสุดชีวิต แต่เมื่อได้พบกับเขาแล้วจริงๆ ภายในจิตใจยังคงรู้สึกคับข้องอึดอัดยากทนทานยิ่งนัก ไฉนจึงต้องมาพบหน้ากันอีก และเขาไยจึงมิสวมบทบาทของคนเลวทรามผู้หนึ่งต่อไปอีกเล่า ไฉนจึงต้องปกป้องคุ้มครองนางต่อไปด้วย……
โม่เหยียนมองดูเกี๊ยวน้อยอย่างเงียบงันมิได้พูดจาแสดงความเห็นใดๆ ความทุกข์ทรมานปวดใจและการตำหนิตนเองของยามนี้เกินกว่าจะอธิบายเป็นคำพูดได้
เขาเคยคิดถึงความเป็นไปได้หลากหลายนับมิถ้วนในการเปิดเผยศักดิ์ฐานะ กลับมิเคยคิดมาก่อนว่า เกี๊ยวน้อยจะเป็นคนแรกที่จำเขาขึ้นมาได้ สืบเนื่องเพราะรอยแผลเป็นที่อยู่บนมือนั่นเอง
แต่ความสุขปลอบประโลมภายในจิตใจของเขาในยามนี้ ช่างมากยิ่งกว่าความตื่นตระหนกหลังจากความลับถูกเปิดเผยมากมายนัก กล่าวถึงที่สุดแล้วในอดีตตอนอยู่ในแคว้นซีเหย่ เกี๊ยวน้อยและเขาอาศัยอยู่ด้วยกันทุกเมื่อเชื่อวันตลอดสองเดือนเต็มๆ ความเข้าใจซึ่งกันและกันระหว่างบิดาและบุตรสาวจึงมากยิ่งกว่า
“ต้องขอโทษเจ้าด้วย เกี๊ยวน้อย” โม่เหยียนก็ไม่เสแสร้งอีกต่อไปแล้วเช่นกัน กอดบุตรสาวไว้ภายในอ้อมอกอย่างแนบแน่น ในใจรู้สึกถึงบุตรสาวแก้วตาดวงใจแสนรักแสนหวงอยู่ภายในอ้อมอก สองมือที่เย็นจนขาวซีดออกแรงกอดจนแน่น ริมฝีปากบางสั่นระริกมีคำพูดมากมายอย่างยิ่งที่ต้องการพูด
แต่สุดท้ายแล้วร้อยถ้อยพันคำล้วนกลายเป็นประโยคเดียว
“ข้าทราบว่าเจ้าโกรธเคืองอย่างยิ่ง และก็ทราบเช่นกันว่าเจ้าไม่ยินยอมให้อภัยข้า แต่ว่าความลับนี้ เจ้าสามารถช่วยข้าปิดบังไว้ก่อนชั่วคราว อย่าให้ท่านแม่ของเจ้าล่วงรู้ได้หรือไม่?”
หากตอนนี้หนานหว่านเยียนทราบว่าเขาก็คือกู้โม่หานละก็ เกรงว่าระหว่างพวกเขา ก็จะไม่เหลือทางถอยใดๆ ที่จะหวนกลับมาคืนดีกันอีกแล้ว……
ได้รับความอบอุ่นแน่นแฟ้นภายในอ้อมกอดที่ห่างหายไปเนิ่นนานนี้ เกี๊ยวน้อยตัวแข็งทื่อไปชั่วขณะหนึ่งอยู่ภายในอ้อมกอดของโม่เหยียน เป็นความเจ็บช้ำเศร้าสลดหดหู่ทุกขเวทนายากทนทานที่มิสามารถบรรยายได้
ทว่าอย่างรวดเร็ว นางก็ดิ้นรนอย่างรุนแรงขึ้นมา ปากก็พร่ำพูดไม่หยุดตลอดเวลาว่า “ท่านอย่ามากอดข้า! ข้าไม่ต้องการให้ท่านกอด!”
“ท่านช่างเลวร้ายมากถึงขนาดนี้ ข่มเหงรังแกท่านแม่ถึงขนาดนี้ ยังสังหารท่านปู่หมิงเสียชีวิตไปแล้ว ข้า...ข้าไม่ต้องการให้ท่านกอด!”
“ท่านทราบหรือไม่ว่าในช่วงระยะเวลากว่าสองปีที่ผ่านมานี้ ท่านแม่ต้องทนทุกข์ทรมานมากมายเพียงใด แต่ท่านเล่า...ท่านไปอยู่เสียในสถานที่ใด?!”
“พวกข้าต่างล้วนแทบจะลืมท่านไปแล้วด้วยซ้ำ ท่านรุดมาทำไมในเวลานี้!”
นางคิดว่าเขาจะไม่ปรากฏตัวอีกแล้ว เมื่อตอนที่ได้ยินผู้อื่นพูดว่าเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสในสนามรบนั้น นางร้องไห้เป็นเวลายาวนานอย่างยิ่ง และวิตกกังวลเป็นเวลาเนิ่นนานอย่างยิ่งช่วงระยะเวลาหนึ่ง
แต่ทุกครั้งที่นึกถึงท่านปู่หมิงที่เสียชีวิตไปนั้น นางก็รู้สึกว่าไม่สามารถให้อภัยเขาแล้ว และไม่สามารถที่จะลืมเรื่องราวในอดีตไปในลักษณะเช่นนี้ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้
อ่าน ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 998 - 1,846 www.sunnewsfocus.com...
อ่านยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 998 - 1846 sunnewsfocus.com นะคะ...
ขัดใจหลายหย่าง 1. นางเอก - ก็รู้ว่าตัวเองสู้เเพ้อ๋องทุกครั้ง เเทนที่จะฝึกวิชาป้องกันตัวบ้าง เเต่ก็ไม่เห็นทำไร 2. ลูก - ก็เห็นอยู่ว่าเเม่ตัวเองทุกข์ใจที่ต้องอยู่กับอ๋อง เเทนที่จะสนับสนุนให้เลิก เเต่ยังจะให้คบกันต่อ คือพวกเอ็งจะขาดพ่อไม่ได้เลยรึไงฟะ 3. อ๋อง - รักเเต่ใช้วิธีผิด นางไม่ยอมก็ขังนางไว้ เจอผู้ชายคนไหนก็ขู่จะทำร้ายเค้า ? เป็นพระเอกที่ห่วยบัดซบ...
ใครที่คิดว่าหนานหว่านเยียนอคติเกินไป ลองย้อนไปดูสิ่งที่กู้โม่หานทำกับนางเอกในช่วงแรกๆ ว่ามันสมควรให้อภัยกันง่ายๆมั้ย...
ไม่แปลกหรอกที่นางเอกจะเกลียดกู้โม่หาน และไม่ยอมให้อภัยกู้โม่หาน ก่อนหน้านั้นหนานหว่านเยียนโดนทำร้ายทั้งกายและจิตใจมามาก โดนจับขังในเรือนเย็น ทั้งตั้งท้องลูก คลอดลูกเอง เลี้ยงเอง ข้าวที่จะกินแทบจะหาไม่ได้ พระเอกมักจะเลือกช่วยหยุนอี่โหรวก่อนนางเอกเสมอ สมควรได้รับที่สิ่งทำไว้ในอดีต นางเอกไม่ได้ทำอะไรผิดแต่โดนพระเอกกระทำมาโดยตลอด...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
กลับมาอัพเดทหน่อยจ้า..แอด,😁😁...
รออัพเดทนะคะ...
ขอเรื่อง หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์...