ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 891

โม่เหยียนรู้สึกสะท้านใจขึ้นวูบ  หนูน้อยคนนี้จำตนขึ้นมาได้แล้วจริงๆ  เขาอดที่จะรู้สึกตื่นเต้นร้อนรนขึ้นมาอยู่บ้างไม่ได้  “จวิ้นจู่……”

“อย่าเรียกข้าว่าจวิ้นจู่!”  พลันเกี๊ยวน้อยก็ตะโกนขึ้นอย่างน้อยเนื้อต่ำใจอารมณ์ไม่ดีอยู่บ้าง  กำปั้นทั้งสองสั่นเทาเล็กน้อย  นางพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้จนเบ้าตาก็ยังแดงก่ำแล้ว  ก็เพราะมิต้องการหลั่งน้ำตาร่ำไห้ออกมาต่อหน้าโม่เหยียน

“แม้ว่าข้าจะไม่ละเอียดรอบคอบเท่าน้องสาว  แต่ก่อนหน้านี้ได้รั้งอยู่กับท่านในแคว้นซีเหย่เป็นระยะเวลานานกว่าสองเดือนแล้ว  เรื่องราวต่างๆ ของท่านมากมายยิ่งนัก  ข้าล้วนยังคงจำได้ชัดเจนอย่างยิ่ง!”

“ท่านชื่นชอบลูบศีรษะของพวกข้า  สามารถจดจำว่าพวกข้าชื่นชอบกินอะไรและมิชอบกินอะไร  ท่านเล่นหมากรุกเก่งอย่างยิ่ง  วิทยายุทธ์ก็ร้ายกาจอย่างยิ่งเช่นกัน  ข้ามิสามารถต่อสู้ชนะท่านได้  กว่าสองปีก่อนก็เป็นเช่นนี้แล้ว  ตอนนี้ก็ยังคงเป็นแบบนี้เช่นเดียวกัน”

“แต่เวลานี้ข้าต้องการทุบตีท่านอย่างดุดันสักคราหนึ่งจริงๆ  ให้ท่าน...ให้ท่านขออโหสิกรรมสำนึกผิดต่อท่านแม่  ขออโหสิกรรมสำนึกผิดต่อท่านปู่หมิง!”

พูดจบนางเม้มปากจนแน่น  น้ำตาคลอหน่วยอยู่ภายในเบ้าตา  สีหน้าเต็มเปี่ยมความเข้มแข็งองอาจมิยอมแสดงความอ่อนแอ

พลันโม่เหยียนรู้สึกเหมือนมีอะไรติดในลำคอ  มองดูเกี๊ยวน้อยพลางอดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากพูดเสียงอ่อนโยน  “เกี๊ยวน้อย  ข้า……”

“ท่านอย่าได้คิดปฏิเสธ!”  ทันใดนั้นเกี๊ยวน้อยก็ชี้ไปที่มือขวาของเขา  “ข้าทราบว่า  เจ้าเหมือนเช่นเดียวกับซาลาเปาน้อยที่ต่างล้วนเฉลียวฉลาดอย่างยิ่ง  เมื่อประสบปัญหาบางอย่างก็สามารถใช้ไหวพริบพลิกผันผ่านไปอย่างรวดเร็ว  และพูดจาโน้มน้าวทำให้ข้าคล้อยตามได้”

“แต่ว่ารอยแผลเป็นบนมือของท่านนั้น  ข้าสามารถจำได้อย่างแม่นยำมิลืมเลือนตลอดกาล  ตอนนั้นท่านคิดว่าท่านแม่ติดอยู่ภายในห้องโถงใหญ่ที่เกิดเพลิงไหม้ขึ้น  เพื่อช่วยนางแล้วท่านจึงได้รับบาดเจ็บนั่นเอง”

นางเสียงสั่นเครือสะอื้นไห้อยู่บ้าง  พยายามหันหน้าไปทางอื่น  มิต้องการให้โม่เหยียนเห็นด้านที่เปราะบางอ่อนแอของนาง

ทั้งๆ ไม่ได้พบกันเนิ่นนานเช่นนี้แล้ว  และนางต้องการจะลืมเลือนให้หมดสิ้นอย่างสุดชีวิต  แต่เมื่อได้พบกับเขาแล้วจริงๆ  ภายในจิตใจยังคงรู้สึกคับข้องอึดอัดยากทนทานยิ่งนัก  ไฉนจึงต้องมาพบหน้ากันอีก  และเขาไยจึงมิสวมบทบาทของคนเลวทรามผู้หนึ่งต่อไปอีกเล่า  ไฉนจึงต้องปกป้องคุ้มครองนางต่อไปด้วย……

โม่เหยียนมองดูเกี๊ยวน้อยอย่างเงียบงันมิได้พูดจาแสดงความเห็นใดๆ  ความทุกข์ทรมานปวดใจและการตำหนิตนเองของยามนี้เกินกว่าจะอธิบายเป็นคำพูดได้

เขาเคยคิดถึงความเป็นไปได้หลากหลายนับมิถ้วนในการเปิดเผยศักดิ์ฐานะ  กลับมิเคยคิดมาก่อนว่า  เกี๊ยวน้อยจะเป็นคนแรกที่จำเขาขึ้นมาได้  สืบเนื่องเพราะรอยแผลเป็นที่อยู่บนมือนั่นเอง

แต่ความสุขปลอบประโลมภายในจิตใจของเขาในยามนี้  ช่างมากยิ่งกว่าความตื่นตระหนกหลังจากความลับถูกเปิดเผยมากมายนัก  กล่าวถึงที่สุดแล้วในอดีตตอนอยู่ในแคว้นซีเหย่  เกี๊ยวน้อยและเขาอาศัยอยู่ด้วยกันทุกเมื่อเชื่อวันตลอดสองเดือนเต็มๆ  ความเข้าใจซึ่งกันและกันระหว่างบิดาและบุตรสาวจึงมากยิ่งกว่า

“ต้องขอโทษเจ้าด้วย  เกี๊ยวน้อย”  โม่เหยียนก็ไม่เสแสร้งอีกต่อไปแล้วเช่นกัน  กอดบุตรสาวไว้ภายในอ้อมอกอย่างแนบแน่น  ในใจรู้สึกถึงบุตรสาวแก้วตาดวงใจแสนรักแสนหวงอยู่ภายในอ้อมอก  สองมือที่เย็นจนขาวซีดออกแรงกอดจนแน่น  ริมฝีปากบางสั่นระริกมีคำพูดมากมายอย่างยิ่งที่ต้องการพูด

แต่สุดท้ายแล้วร้อยถ้อยพันคำล้วนกลายเป็นประโยคเดียว

“ข้าทราบว่าเจ้าโกรธเคืองอย่างยิ่ง  และก็ทราบเช่นกันว่าเจ้าไม่ยินยอมให้อภัยข้า  แต่ว่าความลับนี้  เจ้าสามารถช่วยข้าปิดบังไว้ก่อนชั่วคราว  อย่าให้ท่านแม่ของเจ้าล่วงรู้ได้หรือไม่?”

หากตอนนี้หนานหว่านเยียนทราบว่าเขาก็คือกู้โม่หานละก็  เกรงว่าระหว่างพวกเขา  ก็จะไม่เหลือทางถอยใดๆ ที่จะหวนกลับมาคืนดีกันอีกแล้ว……

ได้รับความอบอุ่นแน่นแฟ้นภายในอ้อมกอดที่ห่างหายไปเนิ่นนานนี้  เกี๊ยวน้อยตัวแข็งทื่อไปชั่วขณะหนึ่งอยู่ภายในอ้อมกอดของโม่เหยียน  เป็นความเจ็บช้ำเศร้าสลดหดหู่ทุกขเวทนายากทนทานที่มิสามารถบรรยายได้

ทว่าอย่างรวดเร็ว  นางก็ดิ้นรนอย่างรุนแรงขึ้นมา  ปากก็พร่ำพูดไม่หยุดตลอดเวลาว่า  “ท่านอย่ามากอดข้า!  ข้าไม่ต้องการให้ท่านกอด!”

“ท่านช่างเลวร้ายมากถึงขนาดนี้  ข่มเหงรังแกท่านแม่ถึงขนาดนี้  ยังสังหารท่านปู่หมิงเสียชีวิตไปแล้ว  ข้า...ข้าไม่ต้องการให้ท่านกอด!”

“ท่านทราบหรือไม่ว่าในช่วงระยะเวลากว่าสองปีที่ผ่านมานี้  ท่านแม่ต้องทนทุกข์ทรมานมากมายเพียงใด  แต่ท่านเล่า...ท่านไปอยู่เสียในสถานที่ใด?!”

“พวกข้าต่างล้วนแทบจะลืมท่านไปแล้วด้วยซ้ำ  ท่านรุดมาทำไมในเวลานี้!”

นางคิดว่าเขาจะไม่ปรากฏตัวอีกแล้ว  เมื่อตอนที่ได้ยินผู้อื่นพูดว่าเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสในสนามรบนั้น  นางร้องไห้เป็นเวลายาวนานอย่างยิ่ง  และวิตกกังวลเป็นเวลาเนิ่นนานอย่างยิ่งช่วงระยะเวลาหนึ่ง

แต่ทุกครั้งที่นึกถึงท่านปู่หมิงที่เสียชีวิตไปนั้น  นางก็รู้สึกว่าไม่สามารถให้อภัยเขาแล้ว  และไม่สามารถที่จะลืมเรื่องราวในอดีตไปในลักษณะเช่นนี้ได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้