ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 906

โม่เหยียนพลิกค้นหาภายในเรือนเที่ยวหนึ่งแล้วก็ยังมิพบ  จึงรู้สึกกระวนกระวายใจอย่างยิ่ง

ขวดใบนั้นถ้าตกอยู่ในมือผู้อื่นกลับหาเป็นไรไม่  แต่หากถูกหนานหว่านเยียนพบเห็นเข้าละก็  นางจะต้องสามารถจำได้อย่างแน่นอน

เขาแอบลอบกำหมัดจนแน่น  รีบติดต่ออย่างลับๆ กับหยุนเหิงแล้ว

ยามนั้นหยุนเหิงกำลังง่วงเหงาหาวนอน  เมื่อได้เห็นสีหน้าโม่เหยียนเคร่งขรึมจริงจัง  ก็สติแจ่มใสขึ้นมาแล้วในชั่วพริบตา  เอ่ยปากถามขึ้นอย่างระมัดระวังว่า  “เกิดเรื่องขึ้นแล้ว?”

โม่เหยียนขมวดคิ้วน้ำเสียงทุ้มต่ำวิตกกังวล

“สิ่งของที่นางเหลือให้ข้าในตอนนั้นสูญหายไปแล้ว  เป็นขวดขนาดเล็กใบหนึ่ง  หลายวันนี้เจ้าช่วยข้าสอดส่องดูแลภายในพระราชวังให้มากอีกหน่อย  โดยเฉพาะอย่างยิ่งตำหนักจานกุ้ยและสถานที่ต่างๆ ซึ่งยามปกติข้าเข้าออกบ่อยๆ”

“ข้าเกรงว่าถูกพวกเด็กๆ เก็บได้  แล้วนำไปให้หว่านเยียนดูโดยตรง  เรื่องนี้เจ้ามิอาจแพร่งพรายออกไปอย่างเด็ดขาด  อีกทั้งยิ่งมิอาจให้หว่านเยียนล่วงรู้ได้!”

สีหน้าของหยุนเหิงเคร่งเครียดขึ้นมาทันใด  พยักหน้าอย่างจริงจังยิ่งนักพูดว่า  “ข้าน้อยเข้าใจแล้ว!”

แม้ว่าเขาจะไม่ทราบว่าที่บรรจุอยู่ภายในขวดคือสิ่งใด  แต่ก็ทราบเช่นกันว่าสิ่งของนั้นสำคัญอย่างยิ่งยวด  หากถูกองค์หญิงพบเห็นเข้าละก็  เช่นนั้นองค์ฮ่องเต้ก็จะถูกเปิดเผยตัวโดยตรงแล้ว!

ทั้งสองแลกเปลี่ยนข้อมูลเสร็จสิ้น  หยุนเหิงก็เริ่มต้นทำการค้นหาทันที  สอดส่องดูแลตามพุ่มไม้ใบหญ้าและทุกซอกมุมใต้ฝ่าเท้าอย่างระมัดระวัง  สีหน้าเปี่ยมด้วยความวิตกกังวล

และรอจนหลังจากหยุนเหิงจากไปแล้ว  โม่เหยียนพยายามฝืนข่มให้ตนเองสงบลง  นิ้วมือซีดขาวสวยงามกำแน่นอยู่บ้างเล็กน้อย  ริมฝีปากบางเม้มกลายเป็นเส้นตรงนั่งอยู่บนขอบเตียง  หลุบตาลงตกอยู่ในภวังค์ความครุ่นคิดแล้ว

เขาจำได้ว่าตอนที่กลับพระราชวังนั้นขวดใบนั้นก็ยังติดตัวอยู่เลย  น่าจะทำสูญหายหลังจากกลับมาแล้ว  สถานที่นี้หามีไม่  เขาจะต้องหาโอกาสลองไปค้นหาดูที่ตำหนักสีเยว่

กล่าวถึงที่สุดเขารั้งอยู่ในสถานที่นั้นค่อนข้างนานเลยทีเดียว  ตอนนั้นเขาละเลยความสนใจตัวเองมากที่สุด  ด้วยมิสามารถควบคุมตัวเอง  บางทีอาจทำตกอยู่ภายในตำหนักสีเยว่นั่นเองก็เป็นได้

แต่ค่ำคืนนี้คล้อยดึกมากเกินไปแล้ว  หนานหว่านเยียนก็กำลังพักผ่อน  เขารุดไปอย่างถือวิสาสะรังแต่จะทำให้ผู้คนรู้สึกสงสัยมากยิ่งขึ้นเท่านั้น  ไม่ว่าเรื่องนี้จะเร่งด่วนมากเพียงใดสำคัญมากแค่ไหน  เกรงว่าก็จะต้องรอคอยให้ถึงพรุ่งนี้แล้ว……

ช่วงเช้าของวันรุ่งขึ้น

หนานหว่านเยียนขยี้ศีรษะตื่นขึ้นมาอย่างวิงเวียนงัวเงีย  แม้ว่าอาการเมาค้างจะยังคงหลงเหลืออยู่  นางรู้สึกพะอืดพะอมคลื่นไส้อยากอาเจียนมิสบายไปตลอดทั้งตัวอยู่บ้าง  แต่รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่า  สองขาของตนอาการทุเลาดีขึ้นอย่างมากมายแล้ว

จึงเลิกคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจ  นางพลิกตัวกลับมาก็พบว่าเกี๊ยวน้อยกำลังนอนหลับอุตุอย่างเงียบๆ อยู่ด้านข้าง  อดที่จะรู้สึกใจอ่อนขึ้นมาวูบไม่ได้  ริมฝีปากสีแดงผุดรอยยิ้มที่รักใคร่เอ็นดูอ่อนโยนขึ้นมา

เกี๊ยวน้อยคล้ายดั่งรู้สึกได้ถึงสายตาที่มองมาของหนานหว่านเยียน  นางก็ตื่นขึ้นมาอย่างงัวเงียงุนงงแล้วเช่นกัน  เส้นผมยุ่งเหยิงจนเป็นกระเซิง  ยันสองมือลุกขึ้นมา  ยิ้มแย้มอย่างอ่อนหวานกับหนานหว่านเยียนคราหนึ่ง  “ท่านแม่  ท่านตื่นแล้วเหรอ!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้