โม่เหยียนพลิกค้นหาภายในเรือนเที่ยวหนึ่งแล้วก็ยังมิพบ จึงรู้สึกกระวนกระวายใจอย่างยิ่ง
ขวดใบนั้นถ้าตกอยู่ในมือผู้อื่นกลับหาเป็นไรไม่ แต่หากถูกหนานหว่านเยียนพบเห็นเข้าละก็ นางจะต้องสามารถจำได้อย่างแน่นอน
เขาแอบลอบกำหมัดจนแน่น รีบติดต่ออย่างลับๆ กับหยุนเหิงแล้ว
ยามนั้นหยุนเหิงกำลังง่วงเหงาหาวนอน เมื่อได้เห็นสีหน้าโม่เหยียนเคร่งขรึมจริงจัง ก็สติแจ่มใสขึ้นมาแล้วในชั่วพริบตา เอ่ยปากถามขึ้นอย่างระมัดระวังว่า “เกิดเรื่องขึ้นแล้ว?”
โม่เหยียนขมวดคิ้วน้ำเสียงทุ้มต่ำวิตกกังวล
“สิ่งของที่นางเหลือให้ข้าในตอนนั้นสูญหายไปแล้ว เป็นขวดขนาดเล็กใบหนึ่ง หลายวันนี้เจ้าช่วยข้าสอดส่องดูแลภายในพระราชวังให้มากอีกหน่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งตำหนักจานกุ้ยและสถานที่ต่างๆ ซึ่งยามปกติข้าเข้าออกบ่อยๆ”
“ข้าเกรงว่าถูกพวกเด็กๆ เก็บได้ แล้วนำไปให้หว่านเยียนดูโดยตรง เรื่องนี้เจ้ามิอาจแพร่งพรายออกไปอย่างเด็ดขาด อีกทั้งยิ่งมิอาจให้หว่านเยียนล่วงรู้ได้!”
สีหน้าของหยุนเหิงเคร่งเครียดขึ้นมาทันใด พยักหน้าอย่างจริงจังยิ่งนักพูดว่า “ข้าน้อยเข้าใจแล้ว!”
แม้ว่าเขาจะไม่ทราบว่าที่บรรจุอยู่ภายในขวดคือสิ่งใด แต่ก็ทราบเช่นกันว่าสิ่งของนั้นสำคัญอย่างยิ่งยวด หากถูกองค์หญิงพบเห็นเข้าละก็ เช่นนั้นองค์ฮ่องเต้ก็จะถูกเปิดเผยตัวโดยตรงแล้ว!
ทั้งสองแลกเปลี่ยนข้อมูลเสร็จสิ้น หยุนเหิงก็เริ่มต้นทำการค้นหาทันที สอดส่องดูแลตามพุ่มไม้ใบหญ้าและทุกซอกมุมใต้ฝ่าเท้าอย่างระมัดระวัง สีหน้าเปี่ยมด้วยความวิตกกังวล
และรอจนหลังจากหยุนเหิงจากไปแล้ว โม่เหยียนพยายามฝืนข่มให้ตนเองสงบลง นิ้วมือซีดขาวสวยงามกำแน่นอยู่บ้างเล็กน้อย ริมฝีปากบางเม้มกลายเป็นเส้นตรงนั่งอยู่บนขอบเตียง หลุบตาลงตกอยู่ในภวังค์ความครุ่นคิดแล้ว
เขาจำได้ว่าตอนที่กลับพระราชวังนั้นขวดใบนั้นก็ยังติดตัวอยู่เลย น่าจะทำสูญหายหลังจากกลับมาแล้ว สถานที่นี้หามีไม่ เขาจะต้องหาโอกาสลองไปค้นหาดูที่ตำหนักสีเยว่
กล่าวถึงที่สุดเขารั้งอยู่ในสถานที่นั้นค่อนข้างนานเลยทีเดียว ตอนนั้นเขาละเลยความสนใจตัวเองมากที่สุด ด้วยมิสามารถควบคุมตัวเอง บางทีอาจทำตกอยู่ภายในตำหนักสีเยว่นั่นเองก็เป็นได้
แต่ค่ำคืนนี้คล้อยดึกมากเกินไปแล้ว หนานหว่านเยียนก็กำลังพักผ่อน เขารุดไปอย่างถือวิสาสะรังแต่จะทำให้ผู้คนรู้สึกสงสัยมากยิ่งขึ้นเท่านั้น ไม่ว่าเรื่องนี้จะเร่งด่วนมากเพียงใดสำคัญมากแค่ไหน เกรงว่าก็จะต้องรอคอยให้ถึงพรุ่งนี้แล้ว……
ช่วงเช้าของวันรุ่งขึ้น
หนานหว่านเยียนขยี้ศีรษะตื่นขึ้นมาอย่างวิงเวียนงัวเงีย แม้ว่าอาการเมาค้างจะยังคงหลงเหลืออยู่ นางรู้สึกพะอืดพะอมคลื่นไส้อยากอาเจียนมิสบายไปตลอดทั้งตัวอยู่บ้าง แต่รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่า สองขาของตนอาการทุเลาดีขึ้นอย่างมากมายแล้ว
จึงเลิกคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจ นางพลิกตัวกลับมาก็พบว่าเกี๊ยวน้อยกำลังนอนหลับอุตุอย่างเงียบๆ อยู่ด้านข้าง อดที่จะรู้สึกใจอ่อนขึ้นมาวูบไม่ได้ ริมฝีปากสีแดงผุดรอยยิ้มที่รักใคร่เอ็นดูอ่อนโยนขึ้นมา
เกี๊ยวน้อยคล้ายดั่งรู้สึกได้ถึงสายตาที่มองมาของหนานหว่านเยียน นางก็ตื่นขึ้นมาอย่างงัวเงียงุนงงแล้วเช่นกัน เส้นผมยุ่งเหยิงจนเป็นกระเซิง ยันสองมือลุกขึ้นมา ยิ้มแย้มอย่างอ่อนหวานกับหนานหว่านเยียนคราหนึ่ง “ท่านแม่ ท่านตื่นแล้วเหรอ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้
อ่าน ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 998 - 1,846 www.sunnewsfocus.com...
อ่านยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 998 - 1846 sunnewsfocus.com นะคะ...
ขัดใจหลายหย่าง 1. นางเอก - ก็รู้ว่าตัวเองสู้เเพ้อ๋องทุกครั้ง เเทนที่จะฝึกวิชาป้องกันตัวบ้าง เเต่ก็ไม่เห็นทำไร 2. ลูก - ก็เห็นอยู่ว่าเเม่ตัวเองทุกข์ใจที่ต้องอยู่กับอ๋อง เเทนที่จะสนับสนุนให้เลิก เเต่ยังจะให้คบกันต่อ คือพวกเอ็งจะขาดพ่อไม่ได้เลยรึไงฟะ 3. อ๋อง - รักเเต่ใช้วิธีผิด นางไม่ยอมก็ขังนางไว้ เจอผู้ชายคนไหนก็ขู่จะทำร้ายเค้า ? เป็นพระเอกที่ห่วยบัดซบ...
ใครที่คิดว่าหนานหว่านเยียนอคติเกินไป ลองย้อนไปดูสิ่งที่กู้โม่หานทำกับนางเอกในช่วงแรกๆ ว่ามันสมควรให้อภัยกันง่ายๆมั้ย...
ไม่แปลกหรอกที่นางเอกจะเกลียดกู้โม่หาน และไม่ยอมให้อภัยกู้โม่หาน ก่อนหน้านั้นหนานหว่านเยียนโดนทำร้ายทั้งกายและจิตใจมามาก โดนจับขังในเรือนเย็น ทั้งตั้งท้องลูก คลอดลูกเอง เลี้ยงเอง ข้าวที่จะกินแทบจะหาไม่ได้ พระเอกมักจะเลือกช่วยหยุนอี่โหรวก่อนนางเอกเสมอ สมควรได้รับที่สิ่งทำไว้ในอดีต นางเอกไม่ได้ทำอะไรผิดแต่โดนพระเอกกระทำมาโดยตลอด...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
กลับมาอัพเดทหน่อยจ้า..แอด,😁😁...
รออัพเดทนะคะ...
ขอเรื่อง หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์...