ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 905

หลังจากเย่เชียนเฟิงออกจากตำหนักสีเยว่อย่างอารมณ์เสียเพลิงโทสะคุกรุ่นแล้ว  เขาก็ได้ตรงรี่กลับมาถึงสถานที่พำนักของตน

เพิ่งจะกลับถึงภายในตำหนัก  ก็มีคนเข้ามารายงานเขาว่า  ท่านแม่ของเขารุดมาแล้ว

เขาตระหนกตกใจวูบทันใด  ซ่อนเร้นงำประกายอารมณ์ความโกรธเคืองทั้งหมดขึ้นมา  แล้วก้าวเท้าเข้าไปในเรือน  แวบแรกก็เห็นท่านแม่ที่เค้าหน้าอ่อนโยนนุ่มนวลเมตตากรุณาปราณี  สวมใส่อาภรณ์ชุดสีเขียวเข้มตลอดทั้งร่าง  เขายิ้มแล้วทันใดพูดขึ้นว่า  “ท่านแม่  ท่านไฉนรุดมาแล้ว?”

ฮูหยินเย่นั้นระหว่างการวาดมือวางเท้า  ล้วนแสดงออกถึงบุคลิกภาพของประมุขนายหญิงแห่งตระกูลอย่างชัดเจน  นางยิ้มน้อยๆ กวักมือเรียกเย่เชียนเฟิงมานั่งลงข้างกายนางด้วยความรักใคร่อ่อนโยน

“ข้าต้องการรุดมาเยี่ยมเจ้า  มิได้บอกต่อเจ้าล่วงหน้าก่อนสักคำ  เจ้าคงมิได้โกรธเคืองหรอกนะ?”

เย่เชียนเฟิงยิ้มพลางนั่งลง  “จะเป็นไปได้อย่างไรกันเล่า  ลูกเองก็คิดถึงแม่อย่างยิ่งเช่นกัน  เพียงแต่ไม่ทราบว่าท่านไฉนมาเยือนอย่างกะทันหัน?  ภายในบ้านใช่เกิดเรื่องอะไรขึ้นแล้วหรือไม่?”

ฮูหยินเย่ส่ายหน้าเล็กน้อย  มองดูเย่เชียนเฟิงอย่างมีความหมายลึกซึ้งอื่น  “ภายในบ้านทุกอย่างล้วนประเสริฐอย่างยิ่ง  กลับเป็นเจ้าต่างหาก  หลายวันมานี้ภายในพระราชวังเกิดเรื่องขึ้นมากมายเช่นนี้  ไฉนจึงไม่ส่งจดหมายบอกให้ทางบ้านทราบสักคำ  มิใช่ข้าไหว้วานคนไปถามเองหรอกหรือ  จึงได้ทราบว่าเจ้ากับองค์หญิงหมิงหวง……”

นางมองเย่เชียนเฟิงอย่างเย้าหยอกอยู่บ้างคราหนึ่ง  สีหน้าท่าทางปลาบปลื้มประโลมใจ

เอ่ยถึงเรื่องการร่วมห้องหอของวันนั้นแล้ว  สีหน้าของเย่เชียนเฟิงอดที่จะสะท้านวูบไม่ได้  กล่าวถึงที่สุดแล้วเขากับหนานหว่านเยียน……

แต่เขาเสแสร้งแกล้งเป็นปกติ  ไม่สะดวกที่จะเอ่ยปากพูดออกมา

“ท่านแม่ก็เป็นเหมือนผู้อื่นเช่นนี้แล้วตั้งแต่เมื่อไร  เริ่มเย้าหยอกลูกแล้ว  องค์หญิงหมิงหวงปฏิบัติต่อลูกดีอย่างยิ่ง  ท่านมิต้องกังวลใจ”

“ข้าทราบว่าใจเจ้าชื่นชอบองค์หญิง  สามารถเป็นคนของนาง  เจ้าก็ปิติยินดีมีความสุขเช่นกัน  และองค์หญิงคอยดูแลเจ้าอยู่  แม่เองก็เห็นอยู่ในสายตาตลอดมา  พวกเจ้าจะต้องครองรักร่วมกันอย่างยาวนาน”

ฮูหยินเย่ตบๆ มือของลูกชายอย่างสนับสนุนเห็นพ้อง  แต่แล้วก็ถามขึ้นด้วยความปรารถนาดีอันจริงใจอย่างแท้จริงว่า  “แต่ว่างานฉลองพระราชสมภพของจักรพรรดินีใกล้จะถึงแล้ว  การเตรียมพร้อมจัดงานพระราชสมภพเจ้าดำเนินการไปถึงไหนแล้ว?”

เย่เชียนเฟิงพยักหน้าอย่างเคร่งขรึมจริงจัง  สีหน้าแววตาเปล่งประกายความมุ่งมั่นอันเด็ดเดี่ยวขึ้นวูบ  “ลูกล้วนเตรียมการจนพร้อมเสร็จสรรพแล้ว  ท่านแม่โปรดวางใจ”

สีหน้าของฮูหยินเย่กอปรด้วยความภาคภูมิใจทระนงองอาจ

“ตอนนี้เจ้าคือว่าที่พระราชบุตรเขยแล้ว  ทุกคำพูดและการกระทำของเจ้า  ล้วนอยู่ภายใต้การเฝ้าจับตาดูของทุกคน  จึงต้องล้วนคอยระมัดระวังเป็นพิเศษ”

“ลูกเข้าใจแล้ว”  เย่เชียนเฟิงพยักหน้า  พลันเย่ฮูหยินก็หยีตาลงครึ่งหนึ่งทันใด  ประกายแววตาดุร้ายเกรี้ยวกราดอยู่บ้างอย่างเห็นได้ชัด

“ใกล้ถึงงานฉลองพระราชสมภพของจักรพรรดินีแล้ว  บรรดาท่านอ๋องเจ้าขุนมูลนายที่ได้รับพระราชทานยศถาบรรดาศักดิ์ของอาณาเขตดินแดนต่างๆ เหล่านั้น  ซึ่งแต่ละคนต่างล้วนพากันร่ำๆ จะลุกฮือขึ้นเคลื่อนไหวกระด้างแข็งข้อ  พากันนั่งไม่ติดยิ่งขึ้นแล้ว  โดยเฉพาะอย่างยิ่งกงแจ๋ลั่วฉู่แห่งดินแดนด้านทิศเหนือ  ไม่ว่าต่อตระกูลเย่ของพวกข้า  หรือว่าต่อองค์หญิงหมิงหวง  ล้วนจ้องตาเขม็งด้วยความละโมบคุกคามดุจดั่งเสือจ้องตะปบเหยื่อตลอดมา  และเห็นพวกข้าเป็นหนามตำตา”

(กงแจ๋ ชื่อของตำแหน่ง ตรงกับเจ้าพระยา)

“งานฉลองพระราชสมภพของจักรพรรดินีครั้งนี้  การจัดเลี้ยงเชิญแขกเหรื่อจากทั่วทุกสารทิศ  บรรดากงแจ๋เหล่านั้นก็สามารถฉวยโอกาสกลับมาถึงเมืองหลวงเช่นกัน  ท่ามกลางในหมู่บรรดาพวกเขาเหล่านั้น  ยากหลีกเลี่ยงที่ใครบางคนอาจกระทำการอันใดขึ้นมาภายในงานเลี้ยงฉลองพระราชสมภพก็เป็นได้”

สีหน้าของฮูหยินเย่เคร่งขรึมจริงจังมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ น้ำเสียงแฝงความโกรธเคืองอยู่หลายส่วน  “เชียนเฟิง  เจ้าในฐานะของว่าที่พระราชบุตรเขย  ได้รับความโปรดปรานรักใคร่อย่างลึกซึ้งจากองค์หญิงและจักรพรรดินี  ภารกิจในครั้งนี้จะต้องดำเนินการอย่างระมัดระวังรอบคอบ  มิอาจเพิ่มปัญหาใดๆ ให้แก่นางทั้งสองอย่างเด็ดขาด!”

ตระกูลเย่จงรักภักดีอุทิศตนต่อจักรพรรดินีของราชวงศ์ตลอดมา  ดังนั้นศักดิ์ฐานะอำนาจบารมีภายในราชสำนักของพวกเขาจึงสูงส่งเสมอมา  และก็เป็นตระกูลอันดับแรกเช่นกัน  ที่ตกเป็นเป้าหมายของบรรดาท่านอ๋องเจ้าขุนมูลนายที่ได้รับพระราชทานยศถาบรรดาศักดิ์

เย่เชียนเฟิงย่อมทราบว่าเรื่องนี้ความสำคัญอย่างยิ่ง  พูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึมจริงจังว่า  “ทราบแล้ว  ลูกจะระมัดระวังรอบคอบให้มากยิ่งขึ้น”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้