ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 912

หนานหว่านเยียนรับอันอันกับน่าวน่าวจากอ้อมแขนของโม่เหยียนมาและพาลูกสี่คนนั่งลง และคนอื่นๆ ก็ได้แสดงความขอบคุณและนั่งลงเรียบร้อยแล้ว

ส่วนโม่เหยียนนั้นภายนอกยังคงเป็นสนมชายของหนานหว่านเยียน ไม่สามารถนั่งโต๊ะเดียวกันกับหนานหว่านเยียนได้ ได้แต่เดินไปโต๊ะที่อยู่ด้านล่างไปนั่งกับเย่เชียนเฟิงและเฉิงซูหย่วนด้วยกัน

เมื่อเฉิงซูหย่วนเห็นโม่เหยียนก็มองบนใส่เขาอย่างเหยียดหยาม สะบัดพัดอย่างรังเกียจและเกลียดแค้น

ส่วนเย่เชียนเฟิงเม้มปากและดวงตาสีน้ำตาลอ่อนนั้นจ้องโม่เหยียนแวบหนึ่ง สายตาอย่างเย็นชา

วันนี้เขาไปตำหนักสีเยว่ตั้งแต่เช้าเลย กะว่าจะเข้าประจำที่นั่งในงานพร้อมกับหนานหว่านเยียน แต่นึกไม่ถึงเลยว่าจะถูกโม่เหยียนแย่งไปซะก่อน และเนื่องจากความปรารถนาครั้งแล้วครั้งเล่าของน่าวน่าวกับอันอัน เขาจึงต้องมาตำหนักหนิงปี้ก่อน

เรื่องมันเกิดขึ้นถึงขั้นนี้แล้ว เขาก็ได้แต่หยุดทัพไม่เคลื่อนไหว หวังว่าท่านแม่สามารถรีบสืบข่าวที่เป็นประโยชน์มาได้บ้าง เขาถึงได้เปิดเผยตัวตนของโม่เหยียนในเร็ววัน!

โม่เหยียนไม่สนใจใครสักคนเลย นั่งลงเงียบๆ อยู่กับที่

ทุกคนกลับมาถึงสภาพการณ์อย่างเมื่อกี้อีกครั้ง ต่างคนต่างเริ่มพูดคุยกันขึ้นมา ยังไงจักรพรรดินียังไม่มา แต่กลับมีหลายคนที่ส่งสายตาไปที่หนานหว่านเยียนและสังเกตตั้งแต่หัวจรดเท้า

วันนี้อันอันกับน่าวน่าวปฏิบัติตัวได้ดีมากเลย สองคนนั่งอยู่ข้างหนานหว่านเยียนอย่างเชื่อฟัง มองซ้ายบ้างมองขวาบ้าง แป็บๆ ก็แอบหยิบของกินยัดใส่เข้าไปในปาก และก็ไม่ได้ให้โม่เหยียนมานั่งข้างตัวเองอย่างดื้อรั้นด้วย

ส่วนสาวน้อยสองคนคือยิ่งน่ารักกว่า ยังมีการแกะเปลือกผลไม้ออกให้หนานหว่านเยียนด้วย

ทันใดนั้นลู่เซิงเซิงเดินมาหาหนานหว่านเยียน น้ำเสียงเคารพ “เซิงเซิงเข้าพบองค์หญิงหมิงหวง”

นิสัยของลู่เซิงเซิงดีมากเสมอมาและก็ไม่เคยหาเรื่องใครก่อน ฉะนั้นเด็กสี่ตัวและหนานหว่านเยียนต่างมีความประทับใจต่อนาง

หนานหว่านเยียนมองไปยังนาง “องค์หญิงหงหลิงไม่ต้องเกรงใจ เจ้ากับข้าเป็นรุ่นเดียวกัน ไม่จำเป็นระมัดระวังมากเกินไปเช่นนี้”

“องค์หญิงทำหงหลิงอายุยืนลดลงแล้ว ท่านคือรัชทายาท หงหลิงจะกล้าเปรียบเทียบได้ยังไง” ลู่เซิงเซิงยิ้มอ่อน น้ำเสียงสุขุมนุ่มนวล สายตาแอบมองไปดูขุนนางเหล่านั้นที่มาหานางเมื่อกี้อย่างไร้ร่องรอยและอดหวาดกลัวไม่ไหว

นางเข้าใกล้หนานหว่านเยียนมากกว่าเดิม ตั้งใจกดเสียงให้เบาลง

“แต่เซิงเซิงก็อยากขอพูดมากหน่อย บางทีต้นไม้สูงย่อมดึงดูดลมง่าย ตอนนี้ในราชสำนักมีองค์หญิงสามท่าน หลายคนเหมือนจะมีความคิดร้ายของตัวเอง คาดคะเนไปมา องค์หญิงหมิงหวงทำอะไรก็ต้องระมัดระวังตัวไว้”

คำพูดอันอ้อมค้อมยอกย้อนของลู่เซิงเซิงเล่านี้ก็ได้แอบชี้แนะให้กับหนานหว่านเยียน ขณะนี้เหล่าขุนนางกลับมาเมืองหลวงอีกครั้ง มีหลายคนแอบวางแผนจะเริ่มเสี้ยมเขาควายให้ชนกันแล้ว

หนานหว่านเยียนเฉลียวฉลาดเช่นนี้จะนึกไม่ถึงจุดนี้ได้ยังไง

นางมองไปยังขุนนางเหล่านั้นตามสายตาของลู่เซิงเซิง พวกเขาเห็นนางมองมาปุบก็รีบก้มหน้าลงทันทีทำเป็นดื่มเหล้า มีแต่กงแจ๋ลั่วฉู่ที่ใจเย็นเหมือนเดิม

หน้าหล่ออันเข้มงวดมีความเย็นชาลอยขึ้นมา หนานหว่านเยียนมุมปากยิ้มออกเล็กน้อยและหัวเราะเยาะเสียงหนึ่งเบาๆ

“ขอบใจที่องค์หญิงหงหลิงตักเตือน ข้าทราบแล้ว ขอบคุณที่เจ้าช่วยเสียงแรง”

เด็กสี่คนสั่นหัวดิกๆ อิ่มเอมใจอยู่ข้างๆ สนใจแต่เรื่องกินไม่เข้าใจความหมายแอบแฝงในสิ่งที่ผู้ใหญ่พูดอยู่

“ก็แค่พูดมากสองประโยคเอง ไม่ได้เสียงแรงอะไร” ลู่เซิงเซิงยิ้มอย่างนุ่มนวล

“หงหลิงก็แค่คนขี้ขลาดกลัวมีปัญหา ไม่ชอบออกหน้าแทน อีกอย่าง ตั้งแต่องค์หญิงหมิงหวงกลับมาถึงแคว้นต้าเซี่ยข้าก็ได้ผ่อนคลายเยอะเลย ไม่มีหาบภาระอะไรในตัวอีกแล้ว และยังอิสระขึ้นมาแล้วด้วย มีเวลาไปทำสิ่งที่ตัวเองชอบแล้ว”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้