ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 921

นัยน์ตาของเฉิงซูหย่วนมืดลงเล็กน้อย ทว่ากงแจ๋ลั่วฉู่กลับหรี่ตาลงครึ่งหนึ่ง ปรากฏแสงสว่างแสงหนึ่งออกมา

สถานการณ์เช่นนี้ เขายังยอมที่จะดูจนกว่าเรื่องจะจบล่ะ ถึงอย่างไรเสียแต่ไหนแต่ไรมาแคว้นตาเซี่ยล้วนถูกจักรพรรดินีกุมอำนาจ หนานหว่านเยียนเป็นทั้งรัชทายาท ทั้งยังให้กำเนิดบุตรสาวถึงสองพระองค์ สำหรับจูโหวแล้ว เป็นภัยอันใหญ่หลวงเลยทีเดียว

หากครานี้ผู้ที่จมน้ำตายคืออานเล่อจวิ้นจู่ล่ะก็ นั้นก็คงเยี่ยมยอดอย่างยิ่งเลยทีเดียว สามารถถือโอกาสนี้ทำให้หนานหว่านเยียนเสียหายอย่างหนักคราหนึ่ง!

เกี๊ยวน้อยดึงชายเสื้อของหนานหว่านเยียนเอาไว้ อุ้งมือที่ทั้งชมพูทั้งขาวถูกกำเอาไว้แน่น เป็นห่วงพวกน้องชายน้องสาวที่ตกน้ำเป็นอย่างมาก

ทว่านางก็รู้ว่าโม่เหยียนกลัวน้ำ สถานการณ์ในยามนี้ กลืนไม่เข้าคายไม่ออกเลยจริงๆ เหตุใดจึงไม่เจอเรื่องดีๆบ้างกันเล่า?

ในเวลาเดียวกันที่หลายคนกำลังอกสั่นขวัญแขวนอยู่นั้น พลันมีคำถามจากน้ำเสียงเด็กๆดังเข้ามา

"เอ๋ เหตุใดทุกคนล้วนอยู่ที่นี่กันเล่า?"

"ท่านยาย พวกท่านดูอะไรกันอยู่หรือขอรับ?"

หลายคนล้วนรู้สึกว่าบรรยกาศหยุดชะงักไปแล้ว กลั้นหายใจแล้วมองไปทางต้นเสียง เห็นเพียงซาลาเปาน้อยที่กำลังจูงอันอันกับน่าวน่าวไว้ มองไปที่ทุกคนด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัย

ใบหน้าของซาลาเปาน้อยเองก็เต็มความสงสัย "เหตุใดล้วนมองทะเลสาบกันอยู่เล่า ฝนดอกไม้มิน่ามองหรือเพคะ?”

เด็กน้อยทั้งสามปลอดภัยไร้บาดแผล ไม่มีท่าทีเหมือนตกน้ำเลยแม้แต่น้อย กระทั่งที่แห่งนี้เกิดเรื่องอันใดขึ้นก็ยังมิรู้

หนานหว่านเยียนเอ่ยขึ้นอย่างทั้งดีใจทั้งกลัว รีบขึ้นหน้ากอดเด็กน้อยเอาไว้ในอ้อมแขน "ทำท่านแม่ตกใจแทบตาย ท่านแม่ยังเข้าใจว่าพวกเจ้า......พวกเจ้ามิเป็นอันใดก็ดีแล้ว!"

เด็กๆทั้งสามคนก็ยิ่งงงเข้าไปใหญ่ ซาลาเปาน้อยเอ่ยว่า "พวกข้ามิเป็นไรนี่ ก็แค่โปรยดอกไม้อยู่บนอาคาร"

ส่วนจักรพรรดินีและเย่เชียนเฟิงก็สบายใจไปเปราะหนึ่ง ไม่นานทั้งสองคนก็มองเข้าไปในสระดอกบัว

น่าแปลก อันอันกับน่าวน่าวและซาลาเปาน้อยล้วนอยู่นี่ เช่นนั้นเด็กที่ตกลงไปในสระดอกบัวเป็นผู้ใดกัน?

กงแจ๋ลั่วฉู่กลับแอบหัวเราะเยาะไปทีหนึ่ง สีหน้าดูไม่ได้ทั้งยังรู้สึกผิดหวังไปหลายส่วน

น่าเสียดาย น่าเสียดายเกินไปแล้ว!

ทันใดนั้น องครักษ์อื่นๆที่หาคนในทะเลสาบไม่พบล้วนลอยตัวขึ้นมาเป็นผิวน้ำ ทยอยแจ้งให้จักรพรรดินีว่า "ฮ่องเต้ ในทะเลสาบมิมีเด็กขอรับ มิมีผู้ใดตกน้ำ"

สายตาของจักรพรรดินีพลันหรี่ลง กวาดตามองผู้คนที่ขวักไขว่ไปมาอย่างคับคั่งที่นี่ ไม่ได้พูดอย่างอื่น "ขึ้นมาให้หมด"

"ขอรับ"องครักษ์ที่อยู่ในน้ำแล้วหาคนไม่พบต่างว่ายน้ำบุ๋งบุ๋ง ค่อยๆขึ้นฝั่งกันทีละคนๆ

หยุนเหิงเห็นเหตุการณ์ก็ยิ่งแล้วใหญ่กัดฟันราวกับเจอศัตรู ตะโกนไปทางสระดอกบัวเสียงดังว่า "คุณชายโม่เหยียน! จวิ้นจู่และซื่อจือทั้งหลายล้วนปลอดภัยดี ท่านขึ้นมาได้แล้ว! มิต้องตามหาต่อแล้วขอรับ!"

ขอร้องล่ะ โม่เหยียนจะต้องปลอดภัยไร้บาดแผลนะ!

พอได้ยินเสียงตะโกนของหยุนเหิง จุดสนใจของหลายคนจึงจะคลายออกจากร่างของสามพี่น้อง แล้วมองไปที่สระดอกบัวใหม่อีกครั้ง

น่าแปลก เหตุใดองครักษ์ที่เหลือจึงขึ้นมาหมดแล้ว โม่เหยียนผู้นี้ก็ยังไม่ว่ายขึ้นมาอีก?

ทว่าทันทีที่อันอันกับน่าวน่าวได้ยินว่าโม่เหยียนกระโดดลงสระดอกบัวไปแล้ว ก็เบิกตาโพลงอย่างไม่สบายใจและรีบร้อนโดยพลัน "หา?คุณชายโม่เหยียน เหตุใด เหตุใดจึงลงไปในน้ำเล่า?"

หนานหว่านเยียนเองก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกกระวนกระวายขึ้นมาเล็กน้อย จ้องบนผิวน้ำของทะเลสาบที่นิ่งสงัดแล้วกดคิ้วลง

หรือว่าโม่เหยียนว่ายน้ำมิเป็น?

เกี๊ยวน้อยเป็นกังวลเสียจนหัวใจเต้นระส่ำระสายไปหมด หยุนเหิงพยายามหายใจอยู่บนฝั่ง ทว่ากลับไม่กล้าลงไป ไม่กล้าแสดงความเป็นห่วงออกมามากเกินไป จะได้ไม่ถูกคนอื่นพบพิรุธเข้า

หารู้ไม่ในใต้น้ำยามนี้ โม่เหยียนก็พบแล้วว่าที่นี่ไม่ได้มีผู้ใดตกน้ำเลย ยามนี้พวกเด็กๆก็คงยังปลอดภัยดี

พอปราศจากความรู้สึกคับขันแล้ว ฟางที่ตึงเปรี๊ยะในสมองเขาเส้นนั้นก็พลันขาดสะบั้น

เขามองไปรอบๆ น้ำในบ่อที่ทั้งเย็นทั้งมืดนี้ก็ราวกับแหไร้รูปร่างอันใหญ่อันหนึ่งที่เกี่ยวพันขาทั้งสองข้างของเขาเอาไว้ ความรู้สึกกลัวภายในใจพลันทำลายทุกสิ่งอย่าง กัดกร่อนและครอบงำสติของเขา ทำให้แขนขาทั้งสองข้างของเขาหนักอึ้งราวกับตะกั่ว

ปมในใจที่เคยจมน้ำในวัยเด็กก็ปรากฏขึ้นมาในความทรงจำอีกครั้ง โม่เหยียนทนไม่ไหวอีกต่อไป ขมวดคิ้วอย่างทรมานแล้วสำลักน้ำเข้าไปหลายอึก ทุรนทุรายจนยื่นมือออกอยู่ใต้น้ำ ทว่ากลับได้แต่ยิ่งจมลึกลงไป......

บนฝั่ง หนานหว่านเยียนเห็นองครักษ์ล้วนขึ้นมาเกือบหมดแล้ว สีหน้าพลันเปลี่ยนไป "มิดีแล้ว คาดว่าโม่เหยียนคงจมน้ำไปเสียแล้ว รีบลงไปช่วยเขาเร็ว!"

คนปกติไม่อาจกลั้นหายใจได้นานเช่นนั้น อีกอย่างหากเขาหาไม่เจอ ก็ควรจะโผล่ศีรษะออกมาหายใจ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้