ชิวขุยตัวสั่น รีบบอกว่า
“คุณ...คุณหนูไม่สบายเจ้าค่ะ กิน...กินข้าวกลางวันเสร็จก็...ก็นอนเลยเจ้าค่ะ นำของ...นำของมาให้บ่าวเถอะเจ้าค่ะ”
แม่นมหลิวแกล้งทำเป็นห่วงใย
“เอ๊ะ? ไม่สบายหรือ? แล้วได้เรียกหมอหวังมาดูหรือยัง?”
เมื่อได้ยินว่าจะเรียกหมอ ชิวขุยกลัวจนตัวสั่นเป็นเจ้าเข้า รีบบอกว่า
“ไม่ไม่ไม่ ไม่ต้องเจ้าค่ะ คุณหนูบอกว่า นอนสักตื่นก็หาย”
แม่นมหลิวแอบหัวเราะในใจ นอนสักตื่นก็หายหรือ? หรือว่านอนกับอ๋องฉินสักตื่นก็หาย?
แต่เพื่อไม่แหวกหญ้าให้งูตื่น แม่นมหลิวนำเครื่องสำอางไว้ที่แล้ว แล้วพาคนจากไป ชิวขุยถึงได้โล่งอก นางเหมือนคนที่วิ่งมาสิบลี้ เพราะแผ่นหลังเปียกชื้นไปหมด
ทว่าในตอนที่เดินออกไปนั้น แม่นมหลิวได้ส่งสายตาให้บ่าวชายสองคน ทั้งสองเข้าใจทันที คนหนึ่งจึงเฝ้าอยู่ที่เรือนเจียนเจีย ส่วนอีกคนกลับออกไปตามหาเบาะแสของซูจื่ออวี๋
ซูจื่ออวี๋อยู่ที่ใดหรือ?
ซูจื่ออวี๋ยังวนเวียนอยู่ตรงทางลอดหมา นางต้องขอบคุณจวินมู่เหนียนจริงๆที่เลือกเวลาเที่ยงวันเช่นนี้
แม้จวินมู่เหนียนอาจจะจงใจกลั่นแกล้งนาง ถึงได้เลือกเวลากลางวันเช่นนี้ แต่นางกลับสามารถใช้เวลาเช่นนี้ ทำให้คนของฮูหยินซูรู้ว่านางออกมาจากจวน
หากจวินมู่เหนียนเลือกเป็นเวลากลางดึก นางอาจจะต้องเสียเวลาทำให้พวกเขารู้
ซูจื่ออวี๋ที่ยืนอยู่ข้างทางลอดหมาได้ยินเสียงฝีเท้าคนตลอดเวลา จึงได้ลอดเข้าในทางนั้น ทำให้บ่าวที่กำลังลาดตระเวนเห็นเข้าพอดี
เขาไม่กล้าทำให้ซูจื่ออวี๋รู้ตัว แต่กลับรอให้นางมุดเข้าไปแล้ว ถึงได้ปีนขึ้นไปแอบดูบนกำแพง
เมื่อเห็นซูจื่ออวี๋มุดออกไปแล้ว จากนั้นเข้าไปนั่งในเกี้ยวผ้าสีเทาที่อยู่ในตรอก เกี้ยวนั้นไม่มีสัญลักษณ์บอกชัดเจน มีเพียงคนแบกเกี้ยวที่แต่งตัวธรรมดาสองคนเท่านั้น แค่เกี้ยวหลังนี้กับคนแบกเกี้ยว ไม่อาจแน่ใจได้ว่าใครมารับซูจื่ออวี๋ไป
บ่าวคนนั้นครุ่นคิดสักครู่ เมื่อเห็นเกี้ยวออกจากตรอกไปแล้ว จึงได้ปีนกำแพงออกจากจวนเสนาบดี แล้วตามไป
——
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายานักปรุงพิษ
รอการอัพเดตอยู่นะคะ...
สนุกมาก รออ่านทุกวัน แต่ลงแค่วันละ 2 ตอน ฮือออออ...
จะเจอไหมนะ...
รอตอนต่อไปค่าาา ลงเยอะๆนะคะ สนุกมากจริงๆ...
หมิงโหลวคือใครกันระ...